AUDI e-tron GT Concept 4-door Gran Turismo with Electric Drive
ความไม่ธรรมดาของรถต้นแบบ Audi e-tron GT อยู่ที่มันเป็นผลงานของ Audi Sport GmbH สำนักที่การันตีเรื่องสมรรถนะของรถทุกรุ่นที่ผ่านมือ ไม่เว้นแม้แต่รถ Pure EV ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและไร้มลพิษ บอดี้ของรถทุกรุ่นในโลก ล้วนเริ่มต้นจากความคิดสร้างสรรค์ของทีมออกแบบ จากงาน ‘ศิลป์’ ต่อยอดด้วยการใช้ ‘ศาสตร์’ ทางวิศวกรรมเข้ามาปรับแต่ง เพื่อให้ความฝันกลายเป็นความจริง ทว่า e-tron GT นั้นแตกต่าง Audi ระบุมาเลยว่า แรงบันดาลใจในการออกแบบเกิดขึ้นใน ‘อุโมงค์ลม’ (Wind Tunnel) ใช้แอโรไดนามิกเป็นหัวข้อเริ่มต้น จากนั้นจึงใช้ดีไซน์เข้ามาปรับแต่ง ผลลัพธ์ คือ ความสวยงามชนิดคมกริบบนตัวถัง แม้ e-tron GT จะเป็นรถคูเป้ 4 ประตู แต่ความสปอร์ตของตัวถังไม่ได้เป็นรอง R8 แม้แต่น้อย
- กระจังหน้าถอดแบบมาจากตระกูล RS
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วเพียง 5 วินาที
Audi กับ Porsche ทั้ง 2 ค่ายใหญ่ ภายใต้สังกัด VW Group ได้จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถไฟฟ้าขึ้นโดยเฉพาะ ใช้ชื่อแพลตฟอร์มว่า PPE (Premium Platform Electric) เป็นชุดพื้นฐานโครงสร้างที่ถูกออกแบบเพื่อรถไฟฟ้าระดับพรีเมียม ที่เน้นความไฮคลาสเป็นพิเศษ ความยุ่งยากในการพัฒนารถไฟฟ้าจะอยู่ที่งานแพลตฟอร์ม เพราะเกี่ยวข้องกับสมรรถนะและคุณภาพในการขับขี่โดยตรง เมื่อผ่านงานส่วนนี้มาได้ ก็สามารถปรับดีไซน์ตัวถังตามบุคลิกของแต่ละค่ายได้โดยง่าย และแพลตฟอร์ม PPE ได้ถูกนำมาใช้กับ e-tron GT เป็นที่เรียบร้อย
e-tron GT โชว์ตัวครั้งแรกในงาน Los Angeles Auto Show 2018 ที่จัดขึ้นช่วงปลายปีที่แล้ว จากเส้นสายอันสวยงามบนตัวถัง จึงทำให้รถต้นแบบคันนี้กลายเป็นดาวเด่นประจำบูธ แย่งซีนรถ Audi ใช้ต้นกำลัง ICE ไปได้แบบง่ายๆ e-tron GT ใช้รูปแบบตัวถัง four-door coupé หรือรถ 4 ประตู ที่ออกแบบส่วนท้ายของหลังคาลาดเทในลักษณะเดียวกับรถคูเป้แท้ๆ ตัวรถจึงมีอารมณ์สปอร์ตให้สัมผัสมากกว่ารถซาลูน 4 ประตู จากนั้นปรับแต่งด้วย Audi Design Language ออกมาเป็นลุคใหม่ ที่แตกต่างจากรถยนต์ Audi ทุกโมเดลในอดีต เป็นรถ 4 ประตู ที่สวยงามและลงตัวอย่างไร้ที่ติ
- ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย และคงเอกลักษณ์ของค่ายสี่ห่วง
- e-tron GT ใช้ระยะฐานล้อ 2.9 เมตร รองรับการโดยสารแบบ 2+2 ที่นั่งแบบสบายๆ
e-tron GT มาพร้อมมิติตัวถัง ความกว้าง ความยาว และความสูง ที่ 1.96, 4.96 และ 1.38 เมตร ตามลำดับ รูปทรงจึงออกไปในทางกว้าง และแบน ให้ความรู้สึกเดียวกับ ‘ลูกธนู’ ลู่ลม และบาดคม มาพร้อมระยะฐานล้อที่กว้าง 2.9 เมตร รองรับการโดยสารแบบ 2+2 ที่นั่งแบบสบายๆ กระจังหน้าใช้ดีไซน์เดียวกับ Audi ตระกูล RS ถูกขนาบซ้ายขวาโดยโคมไฟหน้า Matrix LED ที่ในส่วนของไฟสูงจัดเต็มด้วยเทคโนโลยี Laser High Beam ด้านหน้ารถใช้ช่องรับลมขนาดใหญ่ เพื่อรับลมไประบายความร้อนให้กับส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แบตเตอรี่ รวมทั้งระบบเบรก
คุณสมบัติพื้นฐานในการส่องสว่างของ Laser High Beams จาก Audi ให้ระดับความเข้มของแสง สูงกว่าแหล่งจ่ายไฟแบบเก่าถึง 10 เท่า ไฟสูงส่องสว่างได้ไกลถึง 600 เมตร ไกลกว่าไฟสูงของระบบดั้งเดิมกว่า 2 เท่า (LED High Beam ทำได้ประมาณ 300 เมตร) ใช้พื้นที่น้อย ทั้งในส่วนของชุดเลเซอร์และชุดจานสะท้อนแสง ให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างสูง แต่ประหยัดพลังงานไฟฟ้าขึ้น 30% ใช้โครงสร้าง (โคม) ที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถออกแบบโคมให้แบน ส่งผลดีต่อเรื่องแอโรไดนามิกโดยตรง และมีความทนทาน พร้อมให้ควานมั่นใจในระดับสูง สำหรับการใช้งานในทุกสภาพอากาศ ในทุกสภาพพื้นที่ทั้งร้อนจัดและเย็นจัด
เมื่อ e-tron GT ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากการทำงานในอุโมงค์ลม นับชั่วโมงการทำงานไม่ถ้วนของทีมงาน กับรถ Audi หลากหลายรุ่น ทั้งตัวถังซาลูน, แฮตช์แบ็ก, คูเป้, SUV หรือแม้แต่ตัวถังแวนที่ค่ายนี้เรียกว่า Avant เพื่อขัดเกลาลดสัมประสิทธิ์แรงเสียดทางของอากาศขณะที่ไหลผ่านส่วนต่างๆ บนตัวถัง ดังนั้น เราจึงเป็นพอร์ตหรือช่องทางไหลของอากาศบนตัวถัง e-tron GT ที่ดูลงตัว และเป็นไปตามทฤษฎีอากาศพลศาสตร์ในทุกรายละเอียด
ฝากระโปรงหน้าเจาะช่องระบายลมขนาดใหญ่ ลมที่ไหลผ่านช่องรับลมเหนือโลโก ‘สี่ห่วง’ จะถูกบังคับให้ผ่านช่องลมบนฝากระโปรงหน้า ก่อนที่จะไปถึงกระจกบังลมหน้า แนวหลังคา และส่วนท้ายรถ สร้างแรงลมกดตัวถังได้ตั้งแต่ท่อนหน้ารถ ต่อเนื่องไปจนจบที่สปอยเลอร์หลังซึ่งเป็นแบบปรับอัตโนมัติ
ด้านข้างตัวถังหลังแนวซุ้มล้อหน้า ออกแบบเป็นครีบแนวตั้ง รับหน้าที่ระบายลมออก หลังจากเป่าระบายความร้อนให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยด้านข้างตัวถังในส่วนของบานประตู ออกแบบให้เป็นสัน บังคับให้ลมเคลื่อนที่ผ่านไปยังท้ายรถ และแน่นอนว่า บั้นท้ายของ e-tron GT ต้องมาพร้อมดิฟฟิวเซอร์ ช่วยระบายลมออกจากใต้ท้องรถถึง 4 ช่อง ปิดท้ายในส่วนของแอโรไดนามิกด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว (พร้อมยาง 285/30) ออกแบบมาด้วยลาย five twin spokes ลักษณะคล้ายกังหัน ซึ่งหวังผลเรื่องแอโรไดนามิกในการลดความร้อนให้กับระบบเบรกได้เช่นกัน
- แบตเตอรี่ความจุ 90 kWh จัดวางในตำแหน่งพื้นห้องโดยสาร
กำลังขับเคลื่อนรวมของ e-tron GT อยู่ที่ 434 kW (590 hp) มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่แยกกันขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลังอย่างอิสระ รูปแบบการทำงานของมอเตอร์ถูกดีไซน์ให้เป็นไปตามบุคลิกของระบบ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วเพียง 3.5 วินาที ผ่านหลัก 200 กม./ชม. ด้วยเวลาราว 12 วินาที และถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 240 กม./ชม.
- มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว แยกกันขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลังอย่างอิสระ รูปแบบการทำงานออกแบบตามบุคลิกของระบบ Quattro
แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นแบบลิเทียม-ไอออน ความจุ 90 kWh จัดวางในตำแหน่งมาตรฐานสำหรับรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น Pure EV โดยตรง นั่นคือส่วนพื้นห้องโดยสาร ต่อการชาร์จ 1 รอบ วิ่งใช้งานได้ราว 400 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) e-tron GT ได้รับการออกแบบให้รองรับ Wired Charging ผ่านแรงเคลื่อน 800 โวลต์ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ได้ความจุแบตประมาณ 80% ซึ่งสามารถวิ่งใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 320 กิโลเมตร โดยโปรเจกต์ Audi e-tron GT จะเริ่มเปิดไลน์การผลิตอย่างเป็นทางการในปี 2020 และส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ในปี 2021
เรื่อง : พิทักษ์ บุญท้วม GRAND PRIX MAGAZINE ISSUE 590
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th