Audi Press Trip ยกฝูงอาวดี้ ซิ่งชมรถรุ่นใหม่ RS3 Sportback
ก่อนออกเดินทางออกสตาร์ทจากร้าน Mellow โดยใช้เส้นทางทางพิเศษไปยังถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ จ. สมุทรสงคราม ผมได้ขับ Audi Q3 40 TFSI quattro S line Black Edition ครอสโอเวอร์ไซส์กะทัดรัด ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 body type คือทรง SUV ได้ที่เก็บสัมภาระมากขึ้น และทรง Sportback ที่ให้ความสปอร์ต
และในเจนเนอเรชั่นล่าสุดถูกออกแบบมาให้ดูทันสมัยมากขึ้น ด้วยกระจังหน้าแบบ singleframe octagon design เส้นนำสายตา shoulder line ที่ลากยาวตั้งแต่ส่วนของปลายชุดโคมไฟหน้า LED ยาวไปจนถึงโคมไฟท้ายที่เป็น LED อีกด้วย หล่อเข้มด้วยชุด
แต่งภายนอก Black Edition เช่น กระจกมองข้าง ขอบกระจกประตู ราวหลังคา กระจังหน้า และกันชนหลัง ตกแต่งกันชนหน้าหลัง ตกแต่งด้วยสีดำเงา การขับขี่ภายในตัวเมืองทำได้ดี มีความคล่องตัวสูง ขับง่ายทัศนวิสัยดี อัตราเร่งดีลัดเลาะตามช่องว่างในขณะที่การจราจรติดขัดได้อย่างสบาย
เผลอแปปเดียวก็ถึงจุดหมายแรก คือ ร้านอาหาร “ข้าวใหม่ ปลามัน” ซึ่งเป็นร้านที่มีการออกแบบดีไซน์สวยงามสะดุดตายิ่งนัก และยังเป็นร้านอาหารพื้นบ้านแท้ๆ ตั้งอยู่โซนอัมพวาใต้ เมนูโดดเด่น คือ อาหารทะเล ปลาท้องถิ่น และอีกหลากหลายเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน โดยผู้บริหารอาวดี้และสื่อมวลชนรับประทานอาหารร่วมกัน
ก่อนออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่สอง คือ ร้านกาแฟ Ta9 (ร้านกาแฟทนาย) สัมผัสบรรยากาศอันร่มรื่นมีต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่อันกว้างขวาง มีเมนูเครื่องดื่มและขนมแสนอร่อยให้เลือกมากมาย ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบใหม่อัพเกรดด้วยวัสดุรูปแบบใหม่สไตล์ Audi การจัดวางอุปกรณ์เน้นไปที่คนขับเป็นจุดศูนย์กลาง ห้องโดยสารเรียบง่ายแต่ทันสมัย เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์ S line นั่งสบายกระชับตัว
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Virtual cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอมอนิเตอร์สั่งงานด้วยระบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 8.8 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านระบบ Audi smartphone interface ทำให้เราเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
เบาะที่นั่งด้านหลังทั้ง 3 ตำแหน่ง สามารถเลื่อนไปด้านหน้าได้ ปรับเอนพับพนักพิงหลังได้ โดยมีที่เก็บสัมภาระความจุสูงเมื่อพับเบาะหลัง 1,525 ลิตรในรุ่น SUV และ 1400 ลิตร ในรุ่น Sportback โดย Audi Q3 40 TFSI
ถนนช่วงนี้ค่อนข้างโล่งเราเลยได้ลองอัตราเร่งกันเล็กน้อย บอกเลยว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro
ทำหน้าที่ได้ดีมากตั้งแต่ออกตัว กดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบต่อเนื่องลื่นไหล เอาเป็นว่าหวดตาม อาวดี้ TT ได้แบบสบายๆ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.8 วินาที สุดจริงครับขับสนุกแต่นั่งสบายอีกต่างหาก
ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็เดินทางมาถึงบนสันเขื่อนแก่งกระจาน ชมวิวสวยๆของเขื่อนแก่งกระจานแบบ 360 องศา ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่ที่พัก โรงแรม BaBa Beach Club Huahin
แต่ไฮไลท์มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะที่โรงแรมยังมีรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเป็นครั้งแรก นั้นก็คือเจ้า The New Audi RS3 Sportback ใหม่รถยนต์ตระกูล RS Model รุ่นที่ 9 ของไทย มาโลดแล่นบนท้องถนนบ้านเรา
The New Audi RS3 Sportback ยนตรกรรม RS รุ่นที่ 9 ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport
นับเป็น เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งทาง อาวดี้ นำเข้ามาจำหน่ายมาพร้อม RS Sport Exhaust เสียงท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ ดังกระหึ่ม เร้าใจ ท่อไอเสียสามารถเปิดปิดได้ เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชน หรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่วางราคาจำหน่าย 5,399,000 บาท
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ 20 วาล์ว แถวเรียง Direct Injection ขนาด 2.5 ลิตร 2,480 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.5 x 92.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 400 แรงม้า (PS) ที่ 5,850 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,850 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (S Tronic) ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250กิโลเมตร/ชั่วโมง รถสปอร์ตแฮทแบ็กคันนี้ มีขนาดมิติตัวถัง ยาว 4,389 มิลลิเมตร กว้าง 1,851 มิลลิเมตร สูง 1,436 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,631 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 282 – 1,104 ลิตร (เมื่อพับเบาะ) ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร มาพร้อมระบบกระจายแรงบิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า RS Torque splitter พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น
ระบบช่วงล่าง RS Sport suspension มาพร้อมกับระบบกันแรงสั่นสะเทือนและวาล์วที่ออกแบบใหม่ให้กับ Audi RS3 Sportback โดยเฉพาะ ทำให้ช่วงล่างตอบสนองต่อการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และอีกหนึ่งระบบใหม่ คือ ระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, adaptive dampers และ wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น ก่อนที่จะปิดท้ายวันด้วยงานเลี้ยงที่สนุกสนาน อาหารสุดแสนอร่อย
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th