Audi ก้าวไปบนเส้นทางรถพลังงานไฟฟ้าของตนเองอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว Q4 e-tron Concept ซึ่งรถคอนเซ็ปต์ของคอมแพกต์เอสยูวีไฟฟ้าที่จะถูกส่งออกมาทำตลาดเป็นรุ่นที่ 5 ของตนต่อจาก e-tron ที่เปิดตัวและเริ่มการผลิตไปแล้ว, e-tron Sportback ซึ่งจะทำตลาดในช่วงปลายปีนี้, Q2L e-tron ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะ และ e-tron GT ที่กำลังถูกพัฒนาโดย Audi Sport สำหรับการทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2020

Q4 e-tron Concept ซึ่งมีความยาว 4.59 เมตร กว้าง 1.90 เมตร ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม MEB โดยใช้แบตเตอรี่ความจุ 82 kWh ที่ทำให้สามารถเดินทางได้มากกว่า 450 กม. ต่อการชาร์จวางไว้ที่พื้นรถระหว่างเพลาทั้ง 2 ของรถ พร้อมกับใช้มอเตอร์คู่กำลัง 301 แรงม้าทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ในการพารถเคลื่อนที่จากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 6.3 วินาที โดยเมื่อความเร็วของรถไปถึง 180 กม./ชม. จะถูกจำกัดด้วยอีเล็กทรนิก สำหรับมอเตอร์คู่ที่ใช้ในการขับเคลื่อนจะมีกำลังที่แตกต่างกันโดยมอเตอร์กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตรจะถูกใช้เพื่อขับเคลื่อนล้อหลัง ส่วนล้อหน้าเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ 100 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร นอกจากนี้ทาง Audi ยังระบุว่ารถคอนเซ็ปต์คอมแพกต์เอสยูวีล่าสุดของตนยังสามารถชาร์จพลังงานได้สูงสุด 125 kW ซึ่งทำให้สามารถชาร์จพลังงานได้ 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลาไม่ถึง 30 นาที

ด้วยการที่มีระยะฐานล้อยาว 2.77 เมตร โดยที่ไม่มีอุโมงค์กลางสำหรับระบบส่งกำลัง ทาง Audi จึงระบุว่า Q4 e-tron Concept มีห้องโดยสารที่กว้างโดยเฉพาะพื้นที่ในส่วนขาของทั้งผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมกับใช้การแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อเสริมความรู้สึกกว้างอย่างการใช้สีโทนอ่อนและอุ่นกับส่วนบนของห้องโดยสารขณะที่มีแผ่นปูพื้นสีดำเพื่อสร้างความแตกต่างที่ด้านล่าง ในขณะที่หลังคา เสา แผงส่วนบนของประตู และแดชบอร์ดใช้วัสดุไมโครไฟเบอร์สีขาวและสีเบจ ส่วนการบอกข้อมูลแก่ผู้ขับทั้งความเร็ว การชาร์จพลังงาน และระบบนำทางถูกแสดงโดย Virtual Cockpit พร้อมกับมี Head-up Display ที่เพิ่มการแสดงข้อมูลใหม่เข้ามามา นอกจากนี้ยังให้ความสะดวกในการควบคุมแก่ผู้ขับด้วยการเลือกปรับคัสตอมเพื่อนำการทำงานที่ใช้บ่อยมาเป็นปรับควบคุมบนก้านของพวงมาลัยได้ โดยที่มีจอ 12.3 นิ้วเหนือคอนโซลกลางสำหรับระบบ Infotainment

นอกจากการออกแบบภายนอกทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้มีความทันสมัยสมกับเป็นรถไฟฟ้าโดยที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ Audi อยู่ทั้งที่กระจังหน้าและไฟท้าย พร้อมเสริมความสปอร์ตด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ใต้ไฟหน้าแล้ว ทาง Audi ยังออกแบบ Q4 e-tron Concept เพื่อให้เสริมสมรรถนะด้านต่างๆ ของรถอย่างการมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.28 เพื่อแอโรไดนามิกที่ดีของรถสำหรับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการออกแบบให้รถมีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุลย์ในอัตราส่วน 50:50 เพื่อการควบคุมที่ดี อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูเวอร์ชั่นจากสายการผลิตซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2020 ว่า Q4 e-tron จะมีการปรับเปลี่ยนจากรถคอนเซ็ปต์แค่ไหน

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th