Audi เพิ่มความสปอร์ตและเทคโนโลยีให้ Q5 รุ่นปรับโฉม
หากคอมแพกต์เอสยูวี Q5 ที่เปิดตัวทำตลาดมา 2 ปีนับตั้งแต่ปี 2018 มีรูปลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยเกินไป ล่าสุดทาง Audi ได้ทำการปรับโฉมให้กับรถเอสยูวีรุ่นนี้ของตนเพิ่มความสดพร้อมความดุให้มากขึ้น รวมทั้งยังใส่เทคโนโลยีล่าสุดมาให้ โดยมีผลทั้งกับ Q5 รุ่นปกติ รุ่นปลั๊กอินไฮบริด และรุ่นสมรรถนะสูง SQ5
Audi Q5 ที่ได้รับการปรับโฉมให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจนที่ภายนอกด้วยการออกแบบหลายๆ ส่วนของรถใหม่ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและไฟท้าย LED ที่มีกราฟฟิกไฟสปอร์ตขึ้นเหมือนกับที่พบในรถรุ่นใหม่ๆ ของ Audi โดยที่ไฟหน้ามีไฟ LED Matrix เป็นออฟชั่นซึ่งมาพร้อมกับไฟเลี้ยวที่มีพลังขึ้น ในขณะที่ไฟท้ายมีเทคโนโลยีไฟ OLED เป็นออฟชั่นให้เลือก
นอกจากนี้อีกความแตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่นก่อนหน้าคือการที่รุ่นปรับโฉมมาพร้อมกับกระจังหน้าซิงเกิลเฟรม 8 เหลี่ยมที่กว้างขึ้นแต่มีขอบบางลง พร้อมช่องดักลมสี่เหลี่ยมคางหมูด้านล่างที่สปอร์ตขึ้น ในขณะที่ด้านข้างรถมาพร้อมกับการแต่งที่ขอบล่างของประตู ที่กลมกลืนกับคิ้วบนประตูท้าย และ Diffuser ที่กันชน
อย่างไรก็ตาม Q5 ใหม่แต่ละรุ่นจะมีการแต่งรายละเอียดภายนอกที่แตกต่างกัน โดย Q5 45 TFSI จะมาพร้อมกับอุปกรณ์แต่งมาตรฐาน Advance Line ซึ่งเพิ่มแถบโครเมียมแนวตั้งที่กระจังหน้าและใช้วัสดุสีเงินแต่งทั้งที่กันชนหน้าและหลัง ขณะที่ Q5 ปลั๊กอินไฮบริดมีการแต่งภายนอกแบบ S Line เป็นมาตรฐานทำให้มาพร้อมกับลายรังผึ้งที่กระจังหน้า รวมทั้งมีการออกแบบที่บริเวณกันชนหน้าและ Diffuser ให้ดุดันขึ้น ส่วนรุ่นสมรรถนะสูง SQ5 มาพร้อมกับ Black Optic Package ซึ่งจะเพิ่มรูฟเรลสีดำด้านบนหลังคา กรอบกระจกมองข้างสีดำมัน และเน้นการใช้วัสดุสีดำมันแต่งภายนอกรถ รวมไปถึงมีล้อลาย V-Spoke-Star ขนาด 20 นิ้ว 2 สีหุ้มด้วยยางซัมเมอร์ไทร์ที่มาพร้อมกับรถ
นอกจากนี้ทาง Audi ยังได้เพิ่ม 2 สีใหม่คือสีเขียว District Green และสีฟ้า Ultra Blue ในรุ่นปรับโฉมเพียงแต่เป็นทางเลือกที่จำกัดเฉพาะใน Q5 ปลั๊กอินไฮบริดและ SQ5 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม Q5 ทั้งหมดมาพร้อมกับล้อใหม่ให้เลือกซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 18 นิ้วไปจนถึง 21 นิ้วใน SQ5
ภายในห้องโดยสารของ Q5 ใหม่มาพร้อมกับจอทัชสกรีนขนาด 10.1 นิ้วสำหรับระบบ Infotainment MIB 3 ใหม่ และเรือนไมล์ดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว โดยที่ระบบ Infotainment รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย ขณะที่การแต่งภายในมีไม้วอลนัตและหนังใหม่พร้อมกับการเดินด้ายด้วยสีที่ตัดกันเป็นทางเลือก รวมไปถึงใช้วัสดุสีดำมันเป็นอุบปกรณ์มาตรฐานในการแต่งภายในห้องโดยสาร
โดย SQ5 จะเพิ่มเติมความพิเศษด้วยพวงมาลัยปรับไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ความบันเทิงขณะเดินทาง หากอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับรถยังไม่เพียงพอก็มีระบบเสียง Bang & Olufsen 705 วัตต์ พร้อมเสียง 3 มิติ ลำโพง 19 ตัวและแอมป์ 16 แชนเนลให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริมห้เลือก
ในส่วนของเครื่องยนต์ Q5 รุ่นปรับโฉมเริ่มต้นด้วยรุ่น Q5 45 TFSI Quattro กับเครื่องเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมระบบ Mild-hybrid 12-Volt กำลัง 265 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตัน-เมตรซึ่งมีกำลังเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า 13 แรงม้า รุ่นปลั๊กอินไฮบริด 55 TFSI e Quattro ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังรวม 367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร และ SQ5 กับเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร กำลัง 354 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร อย่างไรก็ตามในยุโรป Audi จะมีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 40 TDI Quattro ทำตลาดซึ่งใช้เครื่อง 2.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบ Mild-hybrid กำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร
แน่นอนว่า Q5 รุ่นปรับโฉมมาพร้อมกับการทำงานช่วยผู้ขับใหม่ๆ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอย่าง Audi Side Assist สำหรับช่วยในขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน, ระบบช่วยตรวจจับเมื่ออาจเกิดการชนด้านหลัง, ระบบช่วยจอด, ระบบตรวจจับรถผ่านด้านข้างเมื่อถอยรถจากช่องจอด รวมไปถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอแดปทีฟ และกล้องมองภาพจากมุมบน
ทาง Audi จะเริ่มขาย Q5 รุ่นปรับโฉมทั่วโลกตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ส่วนราคาของ Q5 40 TDI Quattro ในเยอรมนีอยู่ที่ 48,700 ยูโร
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th