ขับเพลินๆ กับ “ออดี้ Q7” สุภาพบุรุษสุดทรงพลัง
หลังจากที่แบรนด์รถยนต์หรู สปอร์ต ภูมิฐาน อย่าง “ออดี้” กลับมาทำตลาดในไทยอย่างเต็บสูบอีกครั้ง โดย บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ในนาม “ออดี้ ประเทศไทย” ผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ ที่ถือว่ามีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ซึ่งนั่นทำให้เกิดกระแสความนิยมชมชอบออดี้มากขึ้น และส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ล่าสุด ออดี้ ประเทศไทย จัดกิจกรรมต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับสมรรถนะและรู้จักตัวตนของออดี้มากยิ่งขึ้น ด้วยการยกทัพรถครบรุ่นทั้ง Audi TT, Audi Q5, Audi Q7 และ The new A5 Coupe ขับไปเที่ยวไปกินลมชมวิวกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา งานนี้ใครจะได้ขับคันไหนก็อยู่ที่ดวงกันแล้ว เพราะต้องจับสลากเลือกรถกันนั่นเอง และสุดท้ายดวงถูกจริตกับของใหญ่ได้ขับ Audi Q7 เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเหมาะกับการขับออกนอกเมืองจริงๆ
โดยพี่ใหญ่ Q7 ในตระกูล Q Series ที่มือดีจับได้เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Audi Q7 45 TDI quattro S Line ขนาด 2,967 ซีซี แบบ 6 สูบ 249 แรงม้า ที่ 2,910-4,500 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์ Tiptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา (Quattro Permanent all-wheel drive) แถมน้ำหนักตัวรถอยู่ในพิกัน 1,980 กิโลกรัม
โดยเส้นทางที่ได้ลองขับในทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ จากโชว์รูมออดี้ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ไปยัง จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางไป-กลับ ร่วม 200 กิโลเมตร ซึ่งพอได้สรุปเส้นทางที่ใช้ก็พูดได้เลยว่า งานนี้ขับ Q7 แบบสบายจริงๆ เพราะเส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางด่วนและถนนช่วงเข้าอยุธยาค่อนข้างดีตลอดเส้นทาง แถมแบ่งกันขับกับน้องจากทีมเช็คราคาดอมคอมเลยเป็นการขับแบบชิลๆ
Audi Q7 45 TDI quattro S Line
ถึงจะไม่ได้ใช้เวลากับการขับที่นานพอจะรู้จักตัวตนของ Q7 ทั้งหมด แต่ก็เพียงพอที่จะเรียนรู้ลักษณะนิสัยของเจ้ายักษ์คันนี้ เริ่มออกเดินทางจากโชว์รูมเป็นช่วงเวลาที่การจราจรค่อนข้างแออัด การตอบสนองของพวงมาลัยที่ช่วยให้การบังคับควบคุมคล่องตัวมาก แถมภายในห้องโดยสารยังกว้างขวาง เบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งได้สบายไม่อึดอัด เบาะนั่งมีความนุ่มหนา กระชับลำตัว ทั้งยังใช้ช่วงล่างแบบถุงลมที่ปรับระดับได้ ยิ่งทำให้การขับไปตามท้องถนนที่ผิวถนนเป็นหลุมบ่อระบบช่วงล่างได้ซึบซับแรงกระแทกออกไปจนแทบไม่รู้สึกเลยทีเดียว ตรงนี้น่าชมเชยมาก
ในส่วนของอัตราเร่งของขุมพลังดีเซลที่พละกำลัง 249 แรงม้า กับแรงบิดระดับ 600 นิวตันเมตร ไม่ทำให้ผิดหวัง แม้ว่าน้ำหนักตัวรถจะมากเกือบ 2 ตัน ในจังหวะออกตัวไม่ได้จัดจ้าน แต่เมื่อความเร็วแตะที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป กดคันเร่งความเร็วจะไหลต่อเนื่อง และถ้าลองกดคันเร่งแบบเต็มๆ ทันทีจากจุดหยุดนิ่ง จะสัมผัสได้ถึงแรงกระชากที่ทรงพลังและมั่นคง ช่วงล่างที่นุ่มแน่น พวงมาลัยที่ปรับน้ำหนักได้อย่างสมดุล ทำให้รถพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว ค้านกับตัวถังขนาดใหญ่อย่างสิ้นเชิง เข็มความเร็วยังคงกวาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีท่าทีจะขยับขึ้นอีกไม่มีหยุด แต่ต้องยอมถอนเท้าเพื่อให้ความเร็วอยู่ในระดับที่กฎหมายกำหนด ซึ่งให้คงที่เอาไว้ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รอบเครื่องป่วนเปี้ยนอยู่ที่ 1,700 รอบโดยประมาณ แทบไม่ได้ยินเสียงลมเข้ามาในห้องโดยสาร เสียงเครื่องยนต์คำรามเพียงเบาๆ การบังคับควบคุมนั้นพูดได้เลยว่าสมราคาจริงๆ
นอกจากนี้ ยังมีโหมดการขับให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น Comfort ที่เน้นความสะดวกสบาย เมื่อไม่ได้ใช้ความเร็วสูง , โหมด Auto ที่ปล่อยให้รถมีหน้าที่ปรับการทำงานให้ตามความเหมาะสม, ถ้าอยากสนุกขึ้นให้ปรับไปที่ Dynamic และถ้าอยากควบคุมทุกอย่างให้เลือก Individual ซึ่งโหมดที่ปรับได้นี้จะเข้าไปควบคุมการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์และพวงมาลัยเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการปรับระบบช่วงล่าง
โดยสรุปแล้วกับการลองขับ Q7 ในช่วงสั้นๆ ถือว่า Q7 เป็นรถเอสยูวี (SUV) ไซส์ใหญ่ที่ขับง่าย ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานในแบบครอบครัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ได้ดูปราดเปรียวแบบวัยรุ่น แต่เป็นลุคของผู้ใหญ่ที่มีความภูมิฐาน และพร้อมลุยทุกสถานการณ์เมื่อจำเป็น อัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ อยู่ที่ 15 กิโลเมตรต่อลิตร ขอให้คำจำกัดความสั้นๆ ของ Q7 เอาไว้ว่า “สุภาพบุรุษสุดทรงพลัง” ก็แล้วกัน.
ทั้งนี้ Audi Q7 มีให้เลือก 3 รุ่น คือ
Q7 40 TFSI quattro เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 4,499,000 บาท
Q7 45 TDI quattro S line เครื่องยนต์ดีเซล ราคา 4,799,000 บาท
Q7 45 TFSI quattro S line เครื่องยนต์เบนซิน ราคา 4,999,000 บาท
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th