Audi R8 เพิ่มสมรรถนะให้ใกล้เคียงรถแข่งกว่าที่เคย
หลังการเปิดตัวรถแข่ง R8 LMS GT3 ในปารีสมอเตอร์โชว์ไปเมื่อช่วงต้นเดือน ล่าสุดทาง Audi ได้เปิดตัวรุ่นอัพเดตของ R8 สำหรับการใช้บนถนนออกมาโดยให้คำนิยามว่า “เกิดมาเพื่อสนามแข่ง สร้างมาเพื่อการขับบนถนน” พร้อมกับระบุว่าใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ V10 จาก R8 LMS GT3 และ LMS GT4 ซึ่งเป็นรถแข่งเกือบทั้งหมด และมีการใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ R8 LMS GT3 ที่เพิ่งเปิดตัวไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ขณะที่ใช้ชิ้นส่วนร่วมกับรถแข่งรุ่นเดิม LMS GT4 มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือทั้งสองทางเลือกความแรงของ R8 ที่เพิ่งถูกเปิดตัวมีความแรงกว่ารุ่นเดิม โดยกับ R8 รุ่นมาตรฐานเครื่องยนต์ V10 5,200 ซีซีมีกำลัง 562 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 29 แรงม้า และ 10 นิวตันเมตร รวมไปถึงมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่ดีขึ้นด้วยเวลา 3.4 วินาที และความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นไปที่ 324 กม./ชม. ส่วนอีกทางเลือกความแรงที่สูงขึ้นมาพร้อมกับกำลัง 611 แรงม้ามากกว่าเดิม 9 แรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 นิวตันเมตรกับตัวเลข 580 นิวตันเมตร ขณะที่การเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เร็วขึ้นหนึ่งวินาทีด้วยเวลาที่ลดลงเหลือ 3.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 331 กม./ชม.
นอกจากการเพิ่มกำลังให้มากขึ้นแล้ว R8 ที่ถูกอัพเดตล่าสุดยังได้รับการเพิ่มสมรรถนะในด้านการหยุดให้ดีขึ้นด้วยการปรับปรุงระบบควบคุมการทรงตัว Electronic Stabilization Control ส่งผลให้สามารถหยุดรถจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนนิ่งด้วยระยะทาง 1.5 เมตร ขณะที่ความเร็ว 200 กม./ชม. ใช้ระยะทาง 5 เมตรในการหยุดจนนิ่งสนิท รวมทั้งยังมีทางเลือกเสริมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะไม่ว่าจะเป็นล้อขนาด 20 นิ้วน้ำหนักเบาเป็นพิเศษดีไซน์ใหม่ลาย V พร้อมยางสปอร์ต Summer ใหม่เพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้เฉียบคมขึ้น เบรกเซรามิก และกันโคลงด้านหน้าคาร์บอนไฟเบอร์เรนฟอร์ซโพลีเมอร์เป็นออฟชั่นพิเศษ
ภายนอกกของ R8 ได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความสปอร์ตขึ้นจากเดิมด้วยกระจังหน้าซิงเกิลเฟรมที่กว้างขึ้น สามช่องแนวยางที่ขอบฝากระโปรงหน้าในแบบ Ur-quattro รวมทั้งเปลี่ยน Splitter ใหม่ และมีช่องดักอากาศที่ดุดันขึ้น พร้อมกับมีทางเลือกของสีใหม่สองสีคือสีเทา Kemora Gray และสีฟ้า Ascari Blue โดยมีฝ้ายโลโก้สีดำเงาเป็นทางเลือกในการแต่ง ขณะที่ภายในไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมแต่เพิ่มคู่สีใหม่มาให้สองทางเลือกโดยมีแพ็กเกจภายในมาให้เลือกทั้งหนังและ Alcantara รวมทั้งใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการแต่งภายใน
Audi R8 ยังคงมาในสองทางเลือกของตัวถังระหว่างรุ่นคูเป้และ Spyder หรือเปิดประทุน โดยจะเริ่มจำหน่ายในเยอรมนีและประเทศอื่นในยุโรปช่วงต้นปี 2019
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th