Audi รับรองให้เครื่องยนต์ดีเซล V6 ของตนใช้เชื้อเพลิงทดแทน HVO ได้
แม้ Audi จะมีแผนการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถไฟฟ้าล้วนด้วยการลดรถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในลงโดยการประกาศว่าในปี 2025 จะเป็นปีสุดท้ายที่มีรถยนต์รุ่นใหม่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเปิดตัวออกมา โดยตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไปรถรุ่นใหม่ที่ถูกเปิดตัวจะมีเฉพาะรถไฟฟ้า และเมื่อถึงปี 2033 การผลิตรถที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ก่อนจะถึงวันนั้นทางผู้ผลิตรถยนต์ที่มีสัญลักษณ์ 4 ห่วงจากเยอรมนีก็ได้มีความเคลื่อนไหวเพื่อลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ของตนลง โดยล่าสุดได้ทำการอัพเดตเครื่องยนต์ดีเซลของตนเพื่อให้ปล่อยมลพิษน้อยลงด้วยการรองรับการใช้เชื้อเพลิงทดแทน HVO ได้
Audi ได้รับรองให้เครื่องยนต์ดีเซล V6 TDI ที่มีกำลังขับเคลื่อน 282 แรงม้าซึ่งประจำการอยู่ในรถยนต์หลายรุ่นของตนสามารถใช้เชื้อเพลิงทดแทน HVO หรือ Hydrotreated Vegetable Oil ได้ ซึ่งจะเป็นหนทางหนึ่งในการลดมลพิษที่ปล่อยจากรถของ Audi ก่อนไปถึงวันที่ยุติการผลิตรถใช้น้ำมันในอนาคต โดยรถที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล V6 หลายรุ่นจะถูกปรับเพื่อให้สามารถทำงานด้วยเชื้อเพลิง HVO ที่มีความยั่งยืนมากขึ้นและสะอาดขึ้นได้จากโรงงานตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
ทาง Audi อ้างว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซล รถเครื่องยนต์ดีเซล V6 ของตนที่ใช้เชื้อเพลิงทดแทน HVO จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาน้อยลง 70-95 เปอร์เซ็นต์ โดยนอกจากการลดคาร์บอนไดออกไซด์ลงแล้ว ยังมีข้อดีอื่นจากการใช้ HVO ด้วยคือมีระดับซีเทนสูงขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มกระบวนการเผาไหม้ โดยสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับตอนเช้าที่มีอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาว
ทาง Audi ระบุว่าเครื่องยนต์ดีเซล TDI ที่รองรับการใช้เชื้อเพลิง HVO ตอนนี้มีให้เลือกตั้งแต่รุ่น A4 ไปจนถึง A8 รวมทั้งรถเอสยูวี Q7 และ Q8 ซึ่งทางวิศวกรของ Audi จะเน้นไปที่รถรุ่นที่เครื่องยนต์ดีเซล V6 ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ ในขณะที่รุ่น Q5 จะตามมาในเดือนหน้า ส่วน A6 Allroad ที่รองรับเชื้อเพลิง HVO จะตามมาในช่วงฤดูร้อน
ก่อนหน้าการรับรองให้เครื่องยนต์ดีเซล V6 TDI สามารถใช้เชื้อเพลิง HVO ได้ล่าสุดนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วทั้งทาง Audi ก็ได้รับรองให้ Q2, A3 และ Q3 ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบใช้เชื้อเพลิง HVO ได้ รวมทั้งยังมี Audi A4 ไปจนถึง A7 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซ 4 สูบที่ขายในบางประเทศที่สามารถใช้เชื้อเพลิง HVO ได้ตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้วด้วย