Audi ทดสอบเชื่อมเครือข่ายไฟจราจร-ก้าวสำคัญสู่ Autonomous Driving
หากรู้ล่วงหน้าว่าเมื่อไรสัญญาณไฟจราจรจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว คุณคงจะรีแล็กซ์กับการขับรถมากขึ้น และไม่ต้องรำคาญกับรถคันหน้าที่ออกตัวช้า Audi เข้าใจปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี และทำให้พวกเขากลายเป็นแบรนด์แรกที่สามารถเชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับระบบจราจรพื้นฐานของเมือง นับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Driving)
ค่ายรถยนต์หรูจากเยอรมัน เริ่มให้บริการระบบ Traffic Light Information ที่ลาส เวกัส มหานครแห่งการพนันของประเทศสหรัฐฯ เป็นแห่งแรก แต่ตอนนี้ใช้งานได้ในรถรุ่น A4 และ Q7 เท่านั้น โดย Audi of America และศูนย์บริการเทคโนโลยีจราจร (TTS) กำลังทำงานร่วมกับเมืองอื่นๆ ในแถบอเมริกาเหนือ เพื่ออัพเกรดระบบสาธารณูปโภคให้รองรับเทคโนโลยี Vehicle-to-Infrastructure (V2I) ของพวกเขา ในการใช้รับส่งข้อมูลสู่รถยนต์แบบเรียลไทม์
การทำงานของ Traffic Light Information V2I หรือที่ถูกเรียกในชื่อ Time-to-Green จะแสดงระยะเวลาที่ต้องรอไฟเขียวบนแผงหน้าปัดหรือจอแสดงผล (Head-up Display) เหนือคอนโซลหน้า ทำให้คนขับสามารถเลือกได้ว่าจะเหยียบเบรกหรือใส่เกียร์ว่าง โดยผลการทดลองที่ยุโรป ซึ่งเตรียมจะเปิดให้บริการในอีกไม่นานนี้ แสดงให้เห็นว่าคนขับมีการเตรียมตัวล่วงหน้าทำให้สภาพการจราจรคล่องตัวมากขึ้น
“ในการทดสอบของเราจำนวนรถยนต์ที่เบรกจนจอดสนิทบนถนนลดลงราว 20 เปอร์เซ็นต์ สิ่งนี้ช่วยประหยัดเวลาของคนขับ และช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงราว 15 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างการทดลอง” Michael Zweck ผู้จัดการโครงการ Audi Traffic Light Information ให้ความเห็น
ในอนาคตระบบ Traffic Light Information จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบนำทาง Smart Navigation เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงในการวิเคราะห์หาเส้นทางที่เปิดสัญญาณไฟเขียวต่อเนื่องมากที่สุด รวมทั้งเป็นผลดีกับรถรุ่น Audi e-tron ทีต้องอาศัยการเบรกหรือชะลอความเร็วเพื่อชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่
เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล : Audi Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th