น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นที่อยู่คั่นกลางระหว่างผิวของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนโลหะ ช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอของวัตถุโลหะ ขณะที่มีการเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาสตาร์ทรถ การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์นับเป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้รถต้องเอาใจใส่ เพราะนอกจากจะให้เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพแล้วยังสามารถช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ให้อยู่กับเราไปได้นานอีกด้วย เรามาดูกันว่าถ้าเลือกความหนืดผิดอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง น้ำมันเครื่องต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะสม ความหนืดของน้ำมันเครื่อง แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดต่ำสุดที่ระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้รถ ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์สตาร์ทติดง่าย ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และอัตราเร่งดีเยี่ยมกว่าน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูง สำหรับเกรดมาตรฐานของน้ำมันเครื่อง ซึ่งจะมีหลายเกรดมาตรฐาน เช่น API, ACEA, ILSAC หรือมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละยี่ห้อกำหนดขึ้นเพื่อให้เหมาะกับเครื่องยนต์รุ่นนั้น ประเภทของน้ำมันเครื่อง  สำหรับผู้ที่ต้องการน้ำมันเครื่องที่ให้การปกป้องเครื่องยนต์อย่างดีเยี่ยมเพื่อสมรรถนะของเครื่องยนต์สูงสุด ควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณภาพสูงที่ออกแบบเพื่อให้มีการคงคุณสมบัติของน้ำมันที่ดีเยี่ยมตลอดการใช้งานกว่าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์หรือน้ำมัน เกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องดูอย่างไร ...

ในการจอดรถริมท้องถนนไม่ใช่แค่เจอที่ว่างแล้วเราจะสามารถจอดได้นะ บอกก่อนเลยว่าถ้าไม่สำรวจป้ายจราจรหรือเครื่องหมายจราจร รวมไปถึงจอดขวางทางเข้าออกแบบไม่ตั้งใจ เราอาจโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เพราะเป็นการทำผิดกฎหมายจราจรแบบเต็มๆ ถ้าไม่อยากจอดรถแล้วโดนที่จ่าล็อกล้อ เรามาดูกันว่าการจอดรถแบบไหนที่ผิดกฎหมายกันบ้าง ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 (แก้ไขเพิ่มเติมถึง พ.ศ.2538) ที่เรามักกระทำผิดกันบ่อยๆ มีอะไรบ้าง จะได้ไม่ทำผิดอีก 1.หยุดหรือจอดรถเป็นการกีดขวางการจราจร 2.จอดรถไม่ขนานกับขอบทางหรือไหล่ทาง 3.จอดรถห่างจากขอบทางหรือไหล่ทางเกิน 25 เซนติเมตร 4.จอดรถบนทางเท้า 5.จอดรถในทางร่วมทางแยกหรือในระยะ 10 เมตรจากทางร่วมทางแยก 6. จอดรถในทางข้ามหรือในระยะ 3 ...

บ่อยครั้งที่เราที่เห็นข่าวเพื่อนบ้านจอดรถขวางหน้าบ้าน จนกลายเป็นปัญหาใหญ่โตบางทีถึงขั้นทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย บ้างก็ว่าไม่ผิดจอดได้ บ้างก็ว่าผิดกฎหมาย เรามาดูกันว่าถ้าเจอเหตุการณ์ “โดนจอดรถขวางหน้าบ้าน” เราสามารถเอาผิดได้หรือไม่ หลายๆ คนอาจจะมองว่าการจอกรถเพียงแค่เดี๋ยวเดียวอาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่รู้หรือไม่ว่าการจอดรถกีดขวางทางเข้าออกหน้าบ้านคนอื่นมีความผิดตามกฎหมาย ตามข้อกำหนดที่ พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 57 วรรค 10 ระบุไว้ คือ ห้ามมิให้ผู้อื่นจอดรถ ตรงปากทางเข้าออกของอาคารหรือทางเดินรถ หรือในระยะห้าเมตรจากทางเดินรถ ฝ่าฝืนต้องโทษปรับไม่เกิน 500 บาท โดยผู้จอดต้องเว้นระยะจอดให้ห่างจากพื้นที่หน้าบ้านข้างละ ...

อีกหนึ่งเรื่องจำเป็นที่คนใช้รถต้องดูแลและละเลยไม่ได้นั่นก็คือ “การต่อทะเบียน” เพราะการต่อทะเบียนคือการจ่ายภาษีทะเบียนรถเพื่อขออนุญาตใช้รถบนท้องถนน ซึ่งถ้าเราไม่ได้จ่ายตามกำหนดมีโทษปรับและถ้ายิ่งปล่อยไว้นานอาจโดนระงับทะเบียนทันที การต่อทะเบียนรถต้องเตรียมอะไรบ้าง เล่มทะเบียนรถ หรือสำเนารายการจดทะเบียนรถ พ.ร.บ. รถ หากรถอายุเกิน 7 ปี ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่รับรองโดยกรมขนส่ง ซึ่งจะตรวจความพร้อมของสัญญาณไฟ สภาพการเบรก ตรวจควันดำ เตรียมเอกสารให้พร้อมและนำไปยื่นต่อทะเบียนตามช่องทางต่อภาษีที่สะดวก เช่น ต่อทะเบียนรถออนไลน์ Drive-Thru ที่กรมขนส่ง เคาน์เตอร์เซอร์วิส บนมือถือทุกเครือข่าย รถที่การต่อทะเบียนตามกำหนด ...

เชื่อว่าผู้ใช้รถหลายๆ คน คงอยากเปลี่ยนไฟหน้า จากรูปแบบเดิมที่เป็นฮาโลเจนให้มีความสว่างและเท่มากขึ้นอย่างไฟซีนอน แต่ก็ยังกลัวกับการทำผิดกฎหมายเพราะไม่รู้ว่าจะต้องใส่แบบไหนและต้องมีกำลังไฟเท่าไหร่ ในครั้งนี้เรามีข้อแนะนำในการใส่ไฟซีนอนแทนไฟเดิมแบบไม่ผิดกฎหมายมาฝาก ปัจจุบันมีรถยนต์จำนวนมากที่ติดตั้งไฟซีนอนและส่วนใหญ่ติดตั้งไม่ได้มาตรฐานโดยใช้ไฟซีนอนกับโคม ไฟเดิมทำให้ไม่สามารถควบคุมการกระจายของแสงสว่างได้อาจก่อให้เกิดปัญหากับผู้ขับขี่คนอื่นซึ่งกรณีตำรวจสามารถจับได้ หากพบชัดเจนว่ามีแสงสว่างฟุ้งกระจายรบกวนผู้อื่น สำหรับการติดตั้งไฟซีนอนควรติดตั้งไฟซีนอนในโคมโปรเจคเตอร์หรือเลนส์รวมแสง ที่คุมลำแสงไม่ให้ฟุ้งกระจายไม่รบกวนสายตาแก่ผู้ขับขี่รถร่วมเส้นทางต้องติดตั้งหลอดที่มีระดับของสีระหว่าง 3,800 – 6,000 เคลวิน ซึ่งเป็นค่าสีที่อยู่ในโทนสีขาวตามที่กฎหมายกำหนดและมีค่าสีและแสงใกล้เคียงกับค่ามาตรฐานที่ติดตั้งจากโรงงานมากที่สุด และต้องนำเข้าตรวจสภาพเพื่อขออนุญาตกับกรมการขนส่งทางบก การติดตั้งไฟต้องมีความสูงจากพื้นราบไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร แต่สูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร โดยที่แสงสว่างต้องส่องไปทางด้านหน้าอย่างชัดเจนและไม่เอียงไปทางขวาจนรบกวนสายตารถคันอื่นและเมื่อนำรถเข้ามาเพื่อผ่านเครื่องทดสอบโคมไฟ ลำแสงจะต้องมีองศา ตกลงจากแนวระนาบไม่น้อยกว่า ...

ในการเดินทางชีวิตประจำวันและเดินทางท่องเที่ยว คงไม่อยากมีใครพบเจอเหตุด่วน เหตุร้าย หรือแม่กระทั่งเหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่บางกรณีก็หลีกหนีไม่ได้จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ ดังนั้นการที่เราพกเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนับเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย เพราะสามารถช่วยเหลืดเราได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเบอร์โทรสายด่วนเหล่านี้มีอะไรบ้างมาดูกัน • 1808 จส.100 รับแจ้งปัญหาที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน • 1193 ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางหลวง • 1644 สวพ.91 บริการเกี่ยวกับข่าวสารทางด้านการจราจร • 1137 จส.100 สำหรับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการจราจร • 1677 ร่วมด้วยช่วยกัน ...

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนนักดื่มที่ชอบขับรถถ้าตรวจเจอโดนจับแน่ อาจมีโทษหนักติดคุกถึง 10 ปี เนื่องจากสร้างอันตรายต่อตนเองและผู้ใช้รถบนท้องถนน พระราชบัญญัติจราจร พ.ศ.2522

ใครที่ทำอาชีพขับรถสาธารณะและรถขนส่งระวังให้ดี เพราะตอนนี้กรมขนส่งทางบก เริ่มใช้มาตรการตัดแต้มใบขับขี่ผู้ขับรถบรรทุก รถโดยสาร แท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก จักรยานยนต์รับจ้าง ควบคู่กับมาตรการเปรียบเทียบปรับ เพื่อยกระดับความปลอดภัยและการให้บริการ

บางคนคิดว่าการเปิดไฟฉุกเฉินขับรถบนถนนเป็นเรื่องที่ปลอดภัย รู้หรือไม่ว่าไฟฉุกเฉิน…ควรใช้เมื่อไหร่การเปิดไฟฉุกเฉินขณะขับรถทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์อันตรายหรือร้ายแรงเป็นสิ่งที่ผิดซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แล้วไฟฉุกเฉินจะใช้ได้เมื่อไหร่ล่ะ!!! แล้วใช้แบบไหนถึงจะปลอดภัยเรามาดูกัน ห้ามใช้ เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อข้ามแยก เพราะอาจทำให้รถที่อยู่บนถนนเข้าใจผิดได้ เนื่องจากเห็นแค่ไฟกะพริบมุมหน้ามุมเดียว ไม่รู้ว่าเรากำลังจะเตรียมเลี้ยวไปยังด้านซ้าย-ขวา หรือตรงไป วิธีขับรถข้ามทางแยกที่ถูกต้อง ให้มองซ้ายมองขวา เมื่ออยู่ในระยะปลอดภัยก็ขับข้ามทางแยกไปเลย โดยไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เปิดไฟฉุกเฉินจอดรถ บางทีด้วยคำว่าจอดเดี๋ยวเดียวแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ ซึ่งอาจจะเป็นการจอดซ้อนคัน หรือในพื้นที่ห้ามจอด เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง และการจอดรถในที่ห้ามจอด หรือจอดรถกีดขวางการจราจร มีโทษปรับสูงสุด 500 บาท ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ...

เป็นปัญหาโลกแตกเสมอเมื่อเราจะเปลี่ยนยางรถยนต์ซัก 1 ชุด เพราะในตลาดมีตัวเลือกมากมายเหลือเกิน ทั้งแบบประหยัด ทั้งนุ่มเงียบ หรือแม้กระทั้งแบบสปอร์ตที่ใช้ในความเร็ว เพื่อเป็นการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นเรามาดูกันว่ายางแต่ละชนิดใช้งานแบบไหนตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ ยางประหยัดน้ำมัน ยางประหยัดน้ำเหมาะกับรถยนต์ประเภท Eco Car ใช้ขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ข้อดีคือช่วยประหยัดน้ำมันเวลาใช้งาน ยางประเภทนี้จะมีดอกยางเป็นลักษณะร่องรีดน้ำเยอะ เนื้อยางค่อนข้างแข็งเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น ไม่เหมาะกับการใช้ความเร็วสูงสักเท่าไหร่ ยางสำหรับคนที่ชอบความนุ่มเงียบ สำหรับยางนุ่มเงียบจะมีผิวสัมผัสหน้ายางที่มีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ข้อดีคือช่วยลดแรงกระแทกได้ดี มักมีการเสริมเนื้อยางพิเศษบริเวณแก้มยางช่วยในการลดแรงสั่นสะเทือน ที่สำคัญเนื้อยางจะมีความนุ่มสูงแต่จะหมดเร็วสักหน่อยถ้าเทียบกับยางประเภท Eco Car ยางสำหรับคนที่ชอบความเร็ว ยางประเภทนี้ควรเลือกยางหน้ากว้าง ...