Mazda MX30 eSkyactiv r-ev ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Series Plug-in Hybrid ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว โดยได้นำเอาเครื่องยนต์โรตารีแบบ Single-rotor ความจุ 830 ซีซี กำลังสูงสุด 74 แรงม้า (PS) มาใช้ในการปั่นกระแสไฟเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับระบบ e-POWER ของ Nissan นั่นเอง เพียงแต่ MX-30 e-Skyactiv R-EV ยังสามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้
เครื่องยนต์โรตารี่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ขนาด 830 ซีซี เล็กกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไปที่ให้กำลังใกล้เคียงกัน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที ลูกสูบหมุน 1 โรเตอร์ ทำจากวัสดุอลูมิเนียม น้ำหนักเบาเพียง 15 กก. ประกอบกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เมื่อวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ระยะไกลถึง 85 กิโลเมตร ที่เกิดจากจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง และเมื่อได้รับการปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับเข้ามาจากเครื่องยนต์โรตารี่จะทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ Normal, EV และ Charge รวมถึงสามารถตั้งค่ารักษาระดับแบตเตอรี่คงเหลือด้วยตัวเองได้ โดยเมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลงจนถึงค่าที่ตั้งเอาไว้ เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟส่งไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับแบตเตอรี่ลดลง
ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการเดินทางไกล ซึ่งเกิดจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์โรตารี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขนาดถัง 50 ลิตร มาผสานการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขยายระยะทางในการขับขี่ กลายเป็นเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบที่มีต้นกำเนิดจากการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ Normal, EV และ Charge รวมถึงสามารถตั้งค่ารักษาระดับแบตเตอรี่คงเหลือด้วยตัวเองได้ โดยเมื่อระดับแบตเตอรี่ลดลงจนถึงค่าที่ตั้งเอาไว้ เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟส่งไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับแบตเตอรี่ลดลง Mazda MX30 eSkyactiv r-ev
ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการเดินทางไกล ซึ่งเกิดจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์โรตารี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขนาดถัง 50 ลิตร มาผสานการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขยายระยะทางในการขับขี่ กลายเป็นเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบที่มีต้นกำเนิดจากการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่
เครื่องยนต์โรตารี่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ขนาด 830 ซีซี เล็กกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไปที่ให้กำลังใกล้เคียงกัน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที ลูกสูบหมุน 1 โรเตอร์ ทำจากวัสดุอลูมิเนียม น้ำหนักเบาเพียง 15 กก. ประกอบกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เมื่อวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ระยะไกลถึง 85 กิโลเมตร ที่เกิดจากจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง และเมื่อได้รับการปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับเข้ามาจากเครื่องยนต์โรตารี่จะทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร
ความจุ 830 ซีซี กำลังสูงสุด 74 แรงม้า (PS) มาใช้ในการปั่นกระแสไฟเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับระบบ e-POWER ของ Nissan นั่นเอง เพียงแต่ MX-30 e-Skyactiv R-EV ยังสามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้
ทำให้ไม่ต้องกังวลกับการเดินทางไกล ซึ่งเกิดจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์โรตารี่ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขนาดถัง 50 ลิตร มาผสานการทำงานของระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขยายระยะทางในการขับขี่ กลายเป็นเทคโนโลยี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบที่มีต้นกำเนิดจากการทำงานของเครื่องยนต์โรตารี่
เครื่องยนต์โรตารี่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เครื่องยนต์ขนาด 830 ซีซี เล็กกว่าเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไปที่ให้กำลังใกล้เคียงกัน ให้พละกำลังสูงสุดถึง 170 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที ลูกสูบหมุน 1 โรเตอร์ ทำจากวัสดุอลูมิเนียม น้ำหนักเบาเพียง 15 กก. ประกอบกับแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เมื่อวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวได้ระยะไกลถึง 85 กิโลเมตร ที่เกิดจากจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในเมือง และเมื่อได้รับการปั่นเป็นพลังงานไฟฟ้ากลับเข้ามาจากเครื่องยนต์โรตารี่จะทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้ไกลกว่า 600 กิโลเมตร