Kawasaki สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เปลี่ยนเกมด้วยประสบการณ์ใหม่เป็นครั้งแรกในงาน Motor Show 2024จัดรถจักรยานยนต์ในหลากหลายสายพันธุ์
รวมถึงนวัตวรรตกรรมใหม่ล่าสุดมานำเสนอแก่ผู้ขับขี่ชาวไทยให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดก่อนใครในภูมิภาคอาเซียน
“เริ่มด้วยตระกูลอันมีประวัติยาวนานมากว่า 100 ปี กับตระกูล W และ Meguro ที่มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1924 แบรนด์ Meguro ได้เป็นที่รู้จักในหมู่นักขับขี่ชาวญี่ปุ่น ในฐานะรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ เปี่ยมพลัง และคุณภาพสูง หลังจากนั้น ในอีก 4 ทศวรรษถัดมา แบรนด์ Meguro ก็ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของคาวาซากิ จึงเกิดการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ที่ Meguro โดดเด่นเหนือใคร รวมเข้ากับวิทยาการของ Kawasaki Aircraft จึงออกมาเป็น W1 โดยในช่วงปี 1960 รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ในตลาดของญี่ปุ่นเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กในรุ่น 125cc เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ความจุกระบอกสูบมหาศาลและกำลังอันมหาศาลของรถ 4 จังหวะ ของ W1 ทำให้สามารถยืนหยัดได้เหนือคู่แข่ง และกลายเป็นเป้าหมายที่นักบิดชาวญี่ปุ่นปรารถนา สำหรับคาวาซากิ W1 หมายถึงการได้รับการยอมรับในเวทีโลกในฐานะผู้ผลิตบิ๊กไบค์ นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Quest for Speed ของคาวาซากิ ซึ่งเป็นความหลงใหลที่นำไปสู่การพัฒนาโมเดลในตำนานมากมาย รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของตระกูล W มาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง” คุณพรชัย ตั้งธันยมนย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย เอ่ยถึงต้นกำเนิดของหนึ่งในตำนานอันเก่าแก่ของ คาวาซากิ
Meguro S1 และ W230 รถจักรยานยนต์คลาสสิคขนาดเริ่มต้น 2 รุ่น 2 สไตล์ ที่ยังคงเอกลักษณ์จากต้นตระกูลไว้อย่างครบถ้วน ทั้งไฟหน้าทรงกลม ถังน้ำมันทรงหยดน้ำแบบย้อนยุค เรือนไมล์คู่ ล้อซี่ลวด หรือแม้แต่บังโคลนเหล็ก ในขณะที่ยังมีความสนุกสนานแบบดั้งเดิม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์คลาสสิก และสุนทรียภาพในการขับขี่ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ จะพร้อมจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
เช่นเดียวกัน นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ KLX230 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อความสนุกสุดมันส์โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์และเฟรมที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นการขับขี่ทางวิบากด้วยหัวใจ เครื่องยนต์ที่ให้ความรู้สึกรวดเร็ว เต็มไปด้วยประสิทธิภาพและความสามารถที่แน่นอนในการเคลื่อนที่เส้นทางอันหลากหลาย ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมาถึงปี 2024 ถึงเวลาแล้วกับการเปิดตัวซีรีย์ใหม่รถจักรยานยนต์สำหรับเส้นทางวิบาก KLX230 ใหม่นี่ มาพร้อมคุณสมบัติที่ได้รับการอัพเกรดที่มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งการขับขี่บนถนนและออฟโรดให้ดียิ่งขึ้นและความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
“เรามีความตื่นเต้นที่จะเปิดตัวผลงานสร้างสรรค์แก่ผู้ชื่นชอบการขับขี่เส้นทางวิบาก KLX230นี้ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพและความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น เข้าถึงกลุ่มผู้เริ่มต้นไปจนถึงผู้มีประสบการณ์การขับขี่เส้นทางวิบากมากยิ่งขึ้นและเป็นการสานต่อเป้าหมายของเราในการนำเสนอคุณค่าและความสำคัญของรถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายเส้นทางแก่ผู้ขับขี่กลุ่มนี้” คุณพรชัย ตั้งธันยมนย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย กล่าวเพิ่มเติม
KLX230 ใหม่นี้ จะมาในรุ่น Standard และ SE และจะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เช่นกัน
ด้วยความมุ่งมั่นต่อการลดมลภาวะทางอากาศ หนึ่งในจำนวนของการแก้ไขปัญหา ทางคาวาซากิจึงได้นำเสนอรถจักรยานยนต์ EV อย่าง Ninja e-1 และ Z e-1 ไปแล้ว และตอนนี้คาวาซากิภูมิใจนำเสนอรถจักรยานยนต์สตรองไฮบริดคันแรกของโลก Ninja 7 Hybrid
“เรากำลังสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผสมผสานพละกำลังเครื่องยนต์อันแข็งแกร่งเข้ากับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและการออกแบบที่สื่อถึงอนาคต ทุกส่วนหลักถูกนำเข้าสู่มิติใหม่ นอกจากนี้ยังเพิ่มอารมณ์เข้าไปในคุณสมบัติที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของคาวาซากิ Ninja 7 Hybrid คันนี้ พร้อมแล้วที่จะปฏิวัติวงการและเปิดศักราชใหม่ให้กับนวัตกรรมรถจักรยานยนต์” คุณพรชัย ตั้งธันยมนย์ ผู้จัดการฝ่ายขาย กล่าวถึง รถจักรยานยนต์สตรองไฮบริดจากคาวาซากิ
นอกจากรุ่นรถจักรยานยนต์ไฮไลท์แล้ว พร้อมกันนี้ คาวาซากิยังมีอีกหลากหลายรุ่นมาให้ชมไม่ว่าจะเป็น Ninja ZX-6R, Ninja ZX-4R, Ninja 400, KLR650 Adventure (Non ABS), KX250 50th Anniversary, KLX140R F และ Eliminator SE
สนใจเข้าชมรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้ที่งาน Motor Show 2024 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-7 เมษายน 2567 ณ บูธคาวาซากิ หมายเลข B3 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th