Bentley Motors ฉลองครบรอบ 70 ปี แห่งการออกแบบรถยนต์

Bentley Motors ฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งแผนกออกแบบที่โรงงานในเมืองครูว์ โดยมียนตรกรรม Bentley R-Type Continental เป็นรุ่นแรกที่ออกแบบ เมื่อปี 1951 โดย John Blatchley หัวหน้าฝ่ายออกแบบ ที่มีประสบการณ์ก่อนหน้าในฐานะหัวหน้านักออกแบบจาก Gurney-Nutting ผู้ผลิตตัวถังรถยนต์ที่ผลิต Bentley รุ่น ‘Blue Train’ อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการันตีความสามารถในเรื่องการออกแบบที่โด่ดเด่นของเขา

Andreas Mindt ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Bentley Motors เปิดเผยว่า “การมุ่งสู่วิวัฒนาการขั้นต่อไปของดีเอ็นเอการออกแบบยนตรกรรม Bentley ถือเป็นเกียรติอย่างแท้จริง หลังจากหลายทศวรรษของการออกแบบอันวิจิตรงดงามในสตูดิโอของเรา ณ เมืองครูว์ เรามีรถยนต์เบนท์ลีย์อันเป็นเอกลักษณ์ถูกรังสรรค์ขึ้นที่นี่ ยนตรกรรมที่งดงามเหนือกาลเวลา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับสไตล์การออกแบบของเรามาจนถึงทุกวันนี้”

“ตอนนี้ทีมนักออกแบบของเราได้เริ่มการรังสรรค์ยนตรกรรมไฟฟ้าคันแรกของ Bentley ซึ่งต้องถ่ายทอดและปรับเปลี่ยนรูปแบบและรายละเอียดจากแบบคลาสสิกให้เป็นการออกแบบที่พร้อมสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านั้นตัวรถยังต้องคงคอนเซ็ปความยั่งยืนในรูปแบบต่างๆ มากกว่าแค่การใช้ไฟฟ้า ดังนั้นเราจึงกำลังมองหาวัสดุตามคอนเซ็ปต์ความยั่งยืนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และวิธีการดำเนินการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวรถมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดตลอดการใช้งาน โดยการออกแบบที่สมบูรณ์แบบนี้จะช่วยตอกย้ำบทบาทต่อไปในประวัติศาสตร์การออกแบบอันน่าทึ่งของ Bentley”

ในปี 1951 ความรับผิดชอบหลักของแผนกออกแบบคือการสื่อสารแนวคิด ข้อเสนอแนะด้านการออกแบบ และแบ่งปันวิสัยทัศน์กับส่วนงานอื่นๆของบริษัท โดยการออกแบบเป็นการร่างภาพงานศิลปะสีน้ำ ด้วยมืออย่างงดงาม ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขได้ หากเกิดข้อผิดพลาด จากนั้นเรนเดอร์สีน้ำจะทำซ้ำในภาพวาดทางเทคนิคขนาดเต็ม โดยแสดงด้านข้าง ด้านหน้า ด้านหลัง และมุมมองตามตัวถังรถเพื่ออธิบายให้ส่วนผลิตรถยนต์ทราบถึงรูปลักษณ์ของตัวรถ

ส่วนผลิตรถยนต์ในปัจจุบันปฏิบัติตามกระบวนการเดียวกับที่พวกเขาทำในช่วงทศวรรษ 19503 เพื่อให้เห็นภาพแบบสามมิติ และกรอบโลหะที่ถูกหุ้มด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่ม เช่น การใช้ขี้ผึ้งอย่างในอดีต และการใช้ดินเหนียวในปัจจุบัน จากนั้นจึงขึ้นรูปเพื่อออกแบบรูปทรงของตัวรถ โดยสามารถวัดได้จากแบบจำลองและอ้างอิงกลับเพื่อให้แน่ใจว่าภาพร่างสื่อออกมาได้อย่างถูกต้อง

ปัจจุบันเครื่องมือวัดและอุปกรณ์สแกนช่วยให้สามารถประเมินโมเดลสามมิติได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีความแม่นยำถึงหนึ่งในร้อยของมิลลิเมตร และให้ข้อมูลในรูปแบบตัวเลขหรือข้อมูลบนคลาวด์ที่อัปโหลดโดยตรงภายในสตูดิโอออกแบบเพื่อการอ้างอิงเสมือนจริงในทันที

เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงกับวิกฤตการณ์โรคระบาด

ปัจจุบันการออกแบบขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นสำคัญ ซึ่งสามารถแสดงผลเสมือนจริงได้ นักออกแบบสามารถร่างภาพในโลกเสมือนจริงที่สามารถสัมผัสได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงตำแหน่งบนหน้าจอหรือผ่านชุดหูฟัง และเทคโนโลยีการจำลองสภาพแวดล้อมจริงเข้าไปให้เสมือนจริง แม้จะมีเครื่องมือและเทคนิคใหม่ๆเพื่อการออกแบบได้เท่าขนาดจริงแล้ว แต่โมเดลขนาดเต็มจะยังคงถูกสร้างขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่ารายละเอียดทั้งหมดนั้นสมบูรณ์แบบก่อนออกสู่สายการผลิต

Darren Day หัวหน้าฝ่ายออกแบบภายใน ผู้ที่มีอายุงานมากที่สุดในแผนกออกแบบ Bentley Motors กล่าวว่า “แม้จะมีวิกฤตการณ์โรคระบาดไปทั่วโลก แต่เรายังคงต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและใช้เครื่องมือรอบตัวเราเพื่อการพัฒนาวิธีที่เราจะออกแบบ ผมมีเพื่อนร่วมงานในวงการการออกแบบอย่างน้อยสองคนที่ทำงานในสถานที่ต่างๆทั่วโลก เนื่องจากข้อจำกัดในการเดินทางจากโรคระบาดที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับมาที่ครูว์ได้ การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงจึงสามารถทบทวนการออกแบบ ประเมินรายละเอียด พื้นผิวทางเลือก เลือกเฉดสี สลับวัสดุ และยังทำให้เราดำเนินการตามกำหนดเวลาของเราได้”

Darren เป็นหนึ่งในห้าคนที่เข้าร่วมทีมออกแบบของเบนท์ลีย์เมื่อ 27 ปีที่แล้ว วันนี้ทีมออกแบบเติบโตขึ้นอย่างมาก และปัจจุบันมีมากกว่า 50 คน ครอบคลุมด้านการออกแบบภายใน ภายนอก ประสบการณ์ลูกค้า สีและวัสดุ การออกแบบเฉพาะตัว และความร่วมมือต่างๆ

เมื่อมองถึงอนาคตของยนตรกรรมไฟฟ้า การออกแบบจะมีบทบาทสำคัญสำหรับลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันของยนตรกรรมมอเตอร์ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ ดังนั้นการออกแบบจะไม่เพียงแค่สำหรับรถยนต์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง พวกเขาจะถูกเชื่อมโยงเข้ากับไลฟ์สไตล์ของพวกเขาด้วย โดยทีมออกแบบได้ร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าหรูรายอื่นเพื่อแบ่งปันความรู้และเทคนิคในการนำมาซึ่งการออกแบบรถยนต์ Bentley ให้มีมากกว่าแค่ความหรูหรา

มากกว่าแค่อัครยนตรกรรมหรู

รังสรรค์ขึ้นด้วยความหลงใหลและความรัก การออกแบบจากเบนท์ลีย์เป็นได้มากกว่าแค่อัครยนตรกรรมหรู แต่เป็นการมอบทางเลือกด้านไลฟ์สไตล์ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านจากเบนท์ลีย์สามารถปรับแต่งให้เข้ากับรสนิยมส่วนตัวของลูกค้า และให้เข้ากับบ้านที่หรูหราได้ ด้วยความหลงใหลในแบบเฉพาะตัว ลูกค้าจะสามารถปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ด้วยการใช้พื้นผิวที่จะทำให้แบรนด์อังกฤษมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เครื่องหนังไปจนถึงไม้วีเนียร์ชั้นเลิศ โดยชิ้นส่วนแต่ละชิ้นทำขึ้นด้วยมือ และหลอมรวมงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ผสมผสานเทคนิคและหลักการของความหรูหราแบบร่วมสมัยที่เข้ากันกับ Bentley Motors

Chris Cooke หัวหน้านักออกแบบ กล่าวว่า “เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานของเราที่ ’เบนท์ลีย์ โฮม’ เพื่อให้แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นนั้นมีมาตรฐานเดียวกันกับการออกแบบและการผลิตที่เราใช้กับรถยนต์ของเรา ตั้งแต่การถ่ายทอดและขั้นตอนเริ่มแรกไปจนถึงการดำเนินการอย่างละเอียดของกระบวนการเคลือบไม้วีเนียร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์เบนท์ลีย์ โฮมเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หรูหราสำหรับลูกค้าที่ฉลาดเลือก”

ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากทั้งการออกแบบที่มีมาอย่างยาวนานและทันสมัย ตลอดจนการตีความบุคลิกและสุนทรียภาพของแบรนด์เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส โครงร่างและรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของเบนท์ลีย์ ทั้งเก่าและใหม่ ควบคู่ไปกับวัสดุอันล้ำค่าที่บ่งบอกลักษณะภายในรถ ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงการถ่ายทอดการออกแบบผลงานศิลปะที่สวยงามของเบนท์ลีย์ โฮม

หากเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า อสังหาริมทรัพย์แบรนด์ Bentley แห่งแรกของโลกจะอยู่ที่ Sunny Isles Beach ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา โดยสร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ครอบครองอัครยนตรกรรมหรู ที่พักแต่ละหลังจะมีโรงจอดรถหลายคันในยูนิตและลิฟต์สำหรับรถที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ควบคู่ไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู ที่พักมีทัศนียภาพของมหาสมุทรและสายน้ำ นำความงดงามจากภายนอกมาสู่ผู้ครอบครองบ้านหลังใหม่แต่ละหลัง การตกแต่งที่พักมีการใช้วัสดุที่คงคอนเซ็ปความยั่งยืน โดยเน้นที่คุณภาพความเป็นอยู่และดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ฉลาดเลือก

อนาคตของแผนกออกแบบ

Pyms Lane ยังคงเป็นศูนย์กลางของสำนักงานใหญ่ของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ในเมือง ครูว์ นับตั้งแต่โรงงานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2477 แผนการพัฒนาของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สจะพัฒนาพื้นที่เพิ่มเติมในไซต์งานเพื่อรองรับการเดินทางสู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคต โดยหลังจากครบรอบ 70 ปีของแผนกออกแบบ ณ เมืองครูว์ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการสร้าง Design Studio แห่งใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า