Bentley เปิดตัว Continental GT S และ Continental GTC S มาเป็นทางเลือกในสไตล์สปอร์ตขึ้นของรถแกรนด์ทัวเรอร์ทั้งแบบมีหลังคาและเปิดประทุน สำหรับผู้ที่ต้องการความสปอร์ตดุดันขึ้นนอกเหนือไปจากความหรูและความสบายในการเดินทาง

Bentley Continental GT S และ Continental GTC S มาพร้อมกับความแตกต่างจากรุ่นปกติอย่างชัดเจนจากการแต่งด้วยสีดำเงาตามส่วนต่างๆ ภายนอกรถ รวมทั้งมีล้อลายใหม่ขนาด 22 นิ้วสีดำเงาหรือสี Pale Brodgar Satin โดยที่มีคาลิเปอร์เบรกสีแดงอยู่ด้านหลัง แต่หากต้องการล้อขนาดเล็กลงก็สามารถล้อขนาด 21 นิ้วลาย 3 ก้านที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับ Continental GT S และ Continental GTC S ได้

นอกจากนี้ส่วนต่างๆ บนตัวรถที่ปกติแล้วเป็นวัสดุเงาแวววาวอย่างกระจังหน้า ขอบรอบไฟหน้าและไฟท้าย แถบข้างตัวรถ แถบที่กันชนหลัง รวมทั้ปลายท่อไอเสียยังถูกเปลี่ยนเป็นแบล็อกโครมทั้งหมด โดยยังคงเหลืออยู่แค่โลโก้ของ Bentley ที่เป็นโครเมียมปกติ ในขณะที่บริเวณซุ้มล้อหน้าของรถมีตัวหนังสือเอสสีดำเงาเพื่อบ่งบอกถึงรุ่นของรถ

ในห้องโดยสารใช้การแต่งสไตล์ทูโทนสำหรับรุ่น S โดยเฉพาะ ด้วยการใช้ Dinamica หุ้มในส่วนของพวงมาลัย เกียร์ ที่นั่งและพนักพิงหลังของเบาะ พร้อมกับใช้หนังที่ปีกข้างของเบาะ ประตู แผงเรือนไมล์ และคอนโซลกลาง โดยเบาะสปอร์ตที่มาพร้อมกับรถสามารถเลือกได้ระหว่างปักตัวหนังสือเอสหรือ Bentley ที่พนักพิงศรีษะ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นในห้องโดยสารมีครอบบันไดพร้อมไฟสว่าง มีกราฟฟิกใหม่บนหน้าจอ และป้าย S ที่แผงแดชบอร์ด

ในส่วนขุมกำลังของ Continental GT S และ Continental GTC S ทาง Bentley เลือกใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่มีกำลัง 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตร โดยใช้เวลา 4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. พร้อมกับใช้ระบบท่อไอเสียสปอร์ตที่ให้เสียงดุดันขึ้น และมีระบบป้องกันการโคลงแบบแอคทีฟ Bentley Dynamic Ride 48V เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวพร้อมกับเพิ่มความสบายในการเดินทาง

อย่างไรก็ตามทาง Bentley ยังไม่ประกาศราคารุ่น S ของ Continental GT และ Continental GTC ออกมารวมไปถึงช่วงเวลาที่จะเริ่มขายรถ