Bentley Flying Spur เพิ่มเครื่องยนต์ V8 เน้นสมรรถนะสำหรับเจ้าที่อยากสนุกกับขับเองมากขึ้น
แม้ว่าตอนนี้ Flying Spur จะถูกยกเป็นรุ่นท็อปสุดของ Bentley แทน Mulsanne ที่เลิกผลิตไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้ดูเหมือนเป็นรถที่เจ้าของจะนั่งที่เบาะหลัง แต่ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากอังกฤษรายนี้ก็ได้เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ V8 มาเป็นอีกทางเลือกสำหรับเจ้าของรถสนุกกับขับรถเอง โดยระบุว่ามาพร้อมกับการออกแบบเพื่อให้ประสบการณ์ที่มีผู้ขับเป็นศูนย์กลางมากขึ้นกว่ารุ่นเครื่องยนต์ W12 ที่มีอยู่แล้ว
ใต้ฝากระโปรงของ Bentley Flying Spur V8 เป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่เหมือนกับที่ใช้อยู่ใน Continental GT ซึ่งผลิตกำลังขับเคลื่อนออกมาได้ 542 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร พร้อมกับมีการทำงานหยุดการทำงานของบางลูกสูบในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการกำลังขับเคลื่อนมากเพื่อช่วยในการประหยัดน้ำมัน
หนึ่งในจุดเด่นของ Flying Spur เครื่องยนต์ V8 คือการมีน้ำหนักของรถที่เบากว่ารุ่นเครื่องยนต์ W12 ถึง 100 กิโลกรัม ซึ่งหมายถึงการให้ความคล่องแคล่วและปราดเปรียวกว่ารวมทั้งตอบสนองต่อผู้ขับได้ดีขึ้น ส่งผลให้ในด้านอัตราเร่งใช้เวลาแค่ 4.1 วินาทีก็พารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้แล้ว ส่วนความเร็วสูงสุดของรถสามารถพาไปได้ถึง 318 กม./ชม. เรียกได้ว่ารองรับได้สำหรับผู้ซื้อที่ไม่ได้ต้องการแค่ความหรูเท่านั้น
เพื่อรองรับความปราดเปรียว Flying Spur V8 จึงมาพร้อมกับบาร์กันโคลงทั้งด้านหน้าและหลัง รวมไปถึงมีระบบควบคุมการโคลงแอคทีฟ 48-volt เป็นออฟชั่นให้เลือก ในขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถมีทั้งช่วงล่างอแดปทีฟ Three-chamber Air Suspension, Torque Vectoring จากระบบเบรก และ Drive Dynamic Control โดยที่ผู้ซื้อยังสามารถเลือกออฟชั่นระบบควบคุมการเลี้ยว 4 ล้อได้
แม้จะเป็นซีดานหรูที่ถูกระบุว่าเน้นไปที่ผู้ขับเป็นศูนย์กลางของรถ แต่ ฺBentley ก็มีให้เลือกทั้งแบบ 4 หรือ 5 ที่นั่ง โดยทาง Bentley ได้เปิดรับจอง Flying Spur V8 แล้ว ซึ่งคาดว่าการส่งมอบในสหราชอาณาจักรและยุโรปจะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 นี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th