Bentley Flying Spur Mulliner แสดงความเป็นที่สุดของรถซีดานหรู
Bentley เปิดตัว Flying Spur Mulliner ออกมาใน Montery Car Week ซึ่งด้วยชื่อ Mulliner ต่อท้ายที่แสดงถึงการมากจากฝ่ายผลิตรถตามสั่งของบริษัท ทำให้โดยพื้นฐานแล้วนี่คือเวอร์ชั่นที่มีความหรูเพิ่มขึ้นของรถซีดานรุ่นเรือธงจาก Bentley แต่นอกจากนี้แล้วนี่ยังเป็นรถรุ่นแรกที่ติดป้ายชื่อ Mulliner ที่มีทางเลือกในแบบใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย
Bentley Flying Spur Mulliner มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มความหรูขึ้นกว่าปกติตาม The Mulliner Driving Specification ซึ่งไม่เพียงมีแค่การเย็บรูปแบบ Diamond-in-diamond หรือเพชรซ้อนเพชรกับเบาะของรถที่มีการเย็บถึง 712 จุดในแต่ลายเพชรเท่านั้น แต่แนวทางการแต่งที่เน้นในเรื่องเพชรยังปรากฏที่ส่วนอื่นด้วย อย่างการมีผิว Diamond Milled ทั้งที่คอนโซลกลางและคอนโซลหลังของรถ, ช่องระบบปรับอากาศโครเมียม และนาฬิกาเงินขัดเงา Mulliner
นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการมีกราฟฟิก Mulliner ใหม่ที่จอของรถ พร้อมกับมีพวงมาลัยปรับความอุ่นได้และหลังคาซันรูฟพาโนรามิก โดยหากต้องการทำงานในขณะเดินทางก็มีโต๊ะปิกนิกขนาดเล็กควบคุมด้วยไฟฟ้าหุ้มหนังด้านหลังเบาะหน้าสำหรับผู้นั่งที่เบาะหลังให้ใช้งานได้
Flying Spur Mulliner ไม่ได้เน้นความหรูเมื่ออยู่ภายในห้องโดยสารเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกความพิเศษกับภายนอกของรถด้วย จากการใช้กระจังหน้า Double Diamond และกระจังหน้าส่วนล่างเป็นโครเมียมซึ่งเข้ากับลายที่คิ้วแต่งของ Mulliner บริเวณหลังซุ้มล้อหน้าที่ออกแบบโดยเฉพาะ และครอบกระจกมองข้างสี Satin Silver ในขณะที่ล้อขนาด 22 สีทูโทนมาพร้อมกับมีจุกกลางล้อที่ปรับให้โลโก้ตั้งตรง และไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีความโดดเด่นในตอนกลางคืน เพรารถมาพร้อมกับโลโก้ Flying B ที่มีไฟสว่าง แต่หากไม่ต้องการโดดเด่นก็ลดโลโก้หน้าลดลงเก็บได้
Bentley Flying Spur Mulliner มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ V6 ไฮบริดใหม่ เครื่องยนต์ V8 และเครื่องยนต์ W12 ซึ่งหากเลือกเครื่องยนต์หลังสุดจะทำให้รถซีดานหรูใช้เวลา 3.8 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 333 กม./ชม.
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th