Bentley Flying Spur Speed สำหรับผู้บริหารที่อยากไปได้เร็วขึ้น
Bentley เพิ่มทางเลือกใหม่ในรถซาลูนหรูด้วย Flying Spur Speed ที่ขับเคลื่อนด้วยครื่องยนต์ W12 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ โดยจะมาเป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงสุดของรถซาลูนหรูรุ่นนี้ และเป็นอีกรุ่นของรถซาลูน 4 ประตูจาก Bentley ที่มีขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์ W12 นอกจาก Flying Spur Mulliner ที่เน้นด้านความหรู หลังจากที่ตัดรุ่น Flying Spur W12 ออกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เครื่องยนต์ W12 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบที่อยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าของ Bentley Flying Spur Speed ให้กำลังขับเคลื่อน 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ซึ่งหมายความว่าเมื่อเทียบกับ Flying Spur S แล้วรุ่น Speed จะมีกำลังมากกว่า 85 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดมากกว่า 130 นิวตัน-เมตร ในขณะที่อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ของ Flying Spur Speed อยู่ที่ 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. ส่วนการส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 ของรถเป็นหน้าที่ของเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดจาก ZF เหมือนที่ใช้ใน Continental GT
ทาง Bentley ระบุว่าระบบขับเคลื่อนทุกล้อของ Flying Spur Speed จะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลัง พร้อมกับมีการกระจายแรงบิดของรถอย่างสมดุลย์เพื่อให้ความรู้สึกถึงความรวดเร็วและลดอาการ Understeer หรือหน้าดื้อโค้งให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังมี Torque Vectoring และระบบควบคุมการเลี้ยวทุกล้อเพื่อช่วยให้รถมีความปราดเปรียวในโค้ง
ส่วนการบ่งบอกถึงการเป็นรุ่นแรงของรถซาลูนหรูมีทั้งการใช้ Splitter หน้า, สเกิร์ตข้าง, Diffuser หลัง และสปอยเลอร์หลังใหม่ที่ภายนอกรถ โดยทั้งหมดเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เงาที่ผลิตด้วยมือ และผู้ซื้อยังสามารถเลือก Blackline Specification ที่เปลี่ยนส่วนแวววาวภายนอกรถเป็นสีดำเพิ่มความดุให้รถได้ รวมทั้ง Flying Spur รุ่นที่มีความเร็วมากที่สุดยังมาพร้อมกับล้อ Speed ขนาด 22 นิ้วที่มีดิสก์เบรกขนาด 420 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดงที่ล้อหน้าสำหรับการหยุดรถ
ในห้องโดยสารของรถมีการใช้ Dinamica Plus และวัสดุไมโครไฟเบอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มากขึ้นจนทำให้มีถึง 73 เปอร์เซ็นต์ที่มาจากการรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์ อย่างไรก็ตามยังคงมีการใช้หนังแต่งภายในห้องโดยสารจำนวนมาก โดยที่มีให้เลือกถึง 15 สี รวมทั้งมีการแต่งด้วย Piano Black เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็มีไม้ Crown Cut Walnut, Dark Stained Burr Walnut และ Dark Fiddleback Eucalyptus เป็นออฟชั่นให้เลือกใช้แต่งในห้องโดยสาร ส่วนระบบ Infotainment ในรถมีโหมด Performance ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์สปอร์ตให้เลือกใช้
ตลาดหลักของ Bentley Flying Spur Speed อยู่ที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง ส่วนราคาของรถยังไม่เปิดเผยออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th