Bentley เผยโฉม Flying Spur เจเนเรชันใหม่ออกมาโดยเริ่มต้นกับเกรดสมรรถนะสูงสุด Speed  ที่แม้ภายนอกของรถจะดูคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างในรถ รวมทั้งยังใช้ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไอบริดใหม่แทนเครื่องยนต์ W12

รูปลักษณ์ของ Bentley Flying Spur Speed ใหม่ดูคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่เมื่อเจาะในรายละเอียดจะพบว่ามีกระจังหน้าลายใหม่ ได้รับการออกแบบช่องดักลมที่กันชนหน้าแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า รวมทั้งมีล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วลายใหม่ ขณะที่ห้องโดยสารของรถยังคงยกส่วนใหญ่มาจากรุ่นก่อนแต่มีการเย็บลาย Precision Diamond ใหม่ที่เบาะพร้อมมีลาย 3 มิติเข้ากับลายเย็บที่ประตูรถ

แม้จะคล้ายกับรุ่นปรับโฉม แต่ทางผู้ผลิตรถยนต์จากสหราชอาณาจักรเรียกรถรุ่นใหม่ของตนว่าเป็นเจเนเรชันใหม่ เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อน Ultra Performance Hybrid ที่ทำให้ถูกอ้างว่าเป็นรถซูเปอร์คาร์ 4 ประตูรุ่นแรก โดยระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดของรถใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 600 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า ทำให้มีกำลังรวมจากระบบ 782 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร มีกำลังมากกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ใช้เครื่องยนต์ W12 19 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งใช้เวลา 3.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 0.3 วินาที

รถซูเปอร์คาร์ 4 ประตูมากับแบตเตอรี 25.9 kWh ให้พลังงานสำหรับการเดินทางได้ถึง 76 กิโลเมตร ขณะที่ใช้วลาชาร์จไฟ 2 ชั่วโมง 45 นาที โดยเมื่อขับในโหมด EV ใช้เฉพาะไฟฟ้ารถจะมีกำลังเหลือ 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร และทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. ส่วนการเดินทางโดยมีน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็มทำได้ถึง 829 กิโลเมตร

รถซีดานที่มีชื่อ Speed ต่อท้ายไม่แตกต่างจากรุ่นอื่นที่มีชื่อนี้ด้วยการมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่าง Performance Active Chassis, ระบบควบคุมการเลี้ยวทุกล้อ, ช่วงล่างBentley Dynamic Ride, Active Torque Vectoring และ Limited Slip Differential ควบคุมด้วยอีเล็กทรอนิก เพื่อให้การควบคุมที่เฉียบคมและเพิ่มความสบายมากขึ้นขึ้นอยู่กับโหมดขับที่เลือกใช้

สำหรับราคาของรถและการขายยังไม่ถูกระบุออกมาจากผู้ผลิต

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th