Bentley เปิดเบื้องหลังความหรูของ Mulsanne ก่อนปิดฉาก
Bentley ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะยุติการผลิต Mulsanne ในช่วงกลางปีนี้ โดยที่จะยก Flying Spur ขึ้นมาเป็นรุ่นหรูสุดแทน Mulsanne ที่รับหน้าที่นี้มาเกือบ 10 ปีและจะมีการผลิตคันสุดท้ายเมื่อโรงงานที่ Crew กลับมาทำงานอีกครั้งหลังการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามก่อนจะถึงวันนั้นทางผู้ผลิตรถยนต์จากอังกฤษรายนี้ได้ออกมาเปิดเผยถึงบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความหรูของMulsanne ที่มีความปราณีตในการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นและใช้เวลากว่า 400 ชั่วโมงในการผลิตรถแต่ละคัน
Crispin Marshfield ผู้รับผิดชอบงานออกแบบภายนอกของ Mulsanneได้บอกว่า “สำหรับผม Mulsanneจะเป็นหนึ่งในโครงการณ์ที่ผมภาคภูมิใจอยู่เสมอ ตอลดเวลา Mulsanne ถูกจดจำในฐานะสัญลักษณ์ของความทันสมัยที่ไม่เหมือนใครบนถนน” ในขณะที่ Peter Guest ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าด้านตัวถังและการตกแต่งให้กับรถรุ่นเรือธงที่กำลังยุติการผลิต รวมทั้งรับผิดชอบวิศวกรรมของโครงสร้างตัวถังและห้องโดยสารเปิดเผยว่า “ตัว Mulsanneเองเป็นความทะเยอทะยานทางวิศวกรรม ด้วยโครงสร้างตัวถัง สถาปัตยกรรมอีเล็กทรอนิก การออกแบบภายนอกและภายในที่ใหม่ทั้งหมด พร้อมกับการวิศวกรรมใหม่อย่างหนักทั้งแชสซีส์และเครื่องยนต์ เช่นตัวรถมี Hand-brazed ขนาดใหญ่ซ่อนไว้ที่เสาดีซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดความแข็งกระด้างที่ปรากฏบนรถ
Guest ยังบอกถึงรายละเอียดภายในของ Mulsanneเพิ่มว่า “ภายในของรถใหม่หมดและมีความซับซ้อนสูง ประกอบด้วยหนังที่ใช้แต่งนับร้อยชิ้นและมีการติด Ring of Wood เพื่อล้อมรอบได้สมบูรณ์แบบ นี่คืออีกสิ่งที่เราทำด้วยความปราณีตในโรงงานเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราวิศวกรรมจะถูกทำในการผลิต มันเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่เราทำในสิ่งนั้น และรถยังคงดูยอดเยี่ยมในปัจจุบัน”
นอกจากนี้ Ian Johnson ซึ่งรับผิดชอบงานบนตัวถังที่ต้องทำด้วยมือก่อนส่งไปทำสีได้บอกว่า “ผมใช้เวลากว่า 8 ปีในหน้าที่นี้ที่ Bentley เพื่อทำงานกับตัวถังของ Mulsanneด้วยมือสำหรับลูกค้าทั่วโลก โดยระหว่างนั้นผมได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่สืบทอดกันมาในเทคนิคด้านโลหะโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อความมั่นใจว่าตัวรถไปถึงมาตรฐานที่สูง”
Tim Seipel ที่ทำงานกับเครื่องยนต์ V8 6.75 ลิตร และพัฒนาระบบหยุดการทำงานของลูกสูบสำหรับเครื่องยนต์เป็นครั้งแรกใน Volkswagen Group โดยตอนนี้รับหน้าที่ด้านเครื่องยนต์ V8 ได้บอกว่า “กับเครื่องยนต์ L-Series ถูกผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1959 เป็นสิ่งสำคัญอย่างแท้จริง ผมได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมที่พัฒนาและปรับปรุงมันหลายปี”
ส่วน Hans Holzgartner ที่เข้ามาใน Bentley ปี 2007 ในฐานะผู้จัดการด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Mulsanneได้บอกว่า “ในฐานะผู้จัดการผลิตภัณฑ์คุณสามารถที่จะแนะนำการใช้วัสดุ ขั้นตอนการผลิต รวมทั้งสิ่งอื่นๆ ที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นไม่แม้แต่จะฝันถึงได้ เช่นสเตนเลสสตีลที่มีความแวววาวจากการขัดด้วยมือเป็นเวลา 10 ชั่วโมง Mulsanneเป็นช่วงเวลาที่จะไม่ย้อนกลับมาอีก มันมาถึงการสิ้นสุดยุคสมัย สำหรับมันแสดงถึงจุดสูงสุดของ 100 ปีแรกของเราและทุกสิ่งที่เราเรียนรู้ในช่วงเวลานั้น และตอนนี้เราพร้อมอย่างมากสำหรับโฉมหน้าใหม่”
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th