The All New Flying Spur สปอร์ตซีดานหรูใหม่จาก Bentley
“ฟลายอิ้ง บี” (FLYING B) เบนท์ลีย์ไอคอนสุดล้ำเผยโฉมใน “ดิออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” (The All New Flying Spur) สปอร์ตซีดานหรูใหม่ล่าสุด และเป็นที่รู้กันเป็นอย่างดีกับสัญลักษณ์แห่งที่สุดในโลกแห่งยนตกรรมอย่าง ฟลายอิ้ง บี มาสคอตของเบนท์ลีย์ ซึ่งจะถูกนำมาเพิ่มความหรูหราและผสานความร่วมสมัยเป็นครั้งแรกให้กับ ดิออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ แกรน ทัวเรอร์ 4 ประตู สุดหรูสัญชาติอังกฤษ
ด้วยดีไซน์สุดล้ำสมัยตอบรับทศวรรษหน้า ฟลายอิ้ง บี ถูกออกแบบมาให้ฝังอยู่ภายใต้โลโก้ปีกนกของเบนท์ลีย์บริเวณฝาประโปรงหน้า และสามารถปรับขึ้นมาเหนือฝากระโปรง ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งในด้านเทคโนโลยีความล้ำสมัยของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ในเจนเนอเรชั่นที่ 3
ในส่วนอนาคตของต้นแบบยนตกรรมหรู ฟลายอิ้ง บี ได้ถูกนำมาใช้กับคอนเซปคาร์อย่าง EXP 100 GT ซึ่งถือเป็นไอคอนสุดอัจฉริยะ ด้วยฟังก์ชันเรืองแสง โดยสามารถปรับแสงตั้งแต่งกระจังหน้ารถ ผ่านตัวมาสคอต ฟลายอิ้ง บี ตลอดจนตัวถังถึงห้องโดยสาร
ฟลายอิ้ง บีได้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อเกือบ 90 กว่าปีที่แล้ว กับโมเดลเครื่อง 8 ลิตร ปี 1930 ตัวมาสคอตไม่ได้ถูกใช้ให้เป็นมาตรฐานในสมัยนั้น เพียงแต่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าเท่านั้น
มาสคอตแบบดั้งเดิมเป็นตัวอักษร B ประกบด้วยปีกนก และมีลักษณะแบนเรียบ ถือกำเนิดโดย W.O. Bentley ผู้ก่อตั้งบริษัท Bentley Motor ในปี 1919 ซึ่งเป็นเวลากว่า 100 ปี
เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี รูปแบบมาสคอตได้ถูกออกแบบใหม่ให้สอดคล้องกับอีกทศวรรษของเบนท์ลีย์ และถือเป็นวิวัฒนาการของการออกแบบมาสคอตแบบดั้งเดิม สำหรับ เดอะ นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ นั้น ตัวมอสคอตได้ถูกออกแบบมาให้สามารถควบคุมและปรับแสงด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมกับ Welcome Lighting และระบบกุญแจอัจฉริยะเมื่อผู้ขับเข้าใกล้ตัวรถ
ดิออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์ รวมเอาความโฉบเฉี่ยวของสปอร์ต ซีดาน และนิยามใหม่ของความหรูหราแบบร่วมสมัยเข้าด้วยกัน ซึ่งการออกแบบ การประกอบและวางระบบ รวมถึงงานฝีมือได้ถูกดำเนินการในประเทศอังกฤษ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตรถแกรนทัวร์เรอร์อันดับต้นๆของโลก ทำให้มั่นใจได้ถึงความเป็นที่สุดของความปราณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด
สำหรับฟลายอิ้ง สเปอร์ เจ้าของวิฒนาการขุมพลังใหม่ 6 ลิตร เครื่องยนต์ทวิน เทอร์โบชาร์จ W12 พร้อมแล้วสำหรับการสั่งจอง โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป
ฟลายอิ้ง บี – สัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ
ฟลายอิ้ง บี แบบดั้งเดิม ที่กำลังจะเผยโฉมครั้งแรกกับฟลายอิ้ง สเปอร์ ถูกออกแบบโดย Charles Sykes ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดโลโก้รูปตัว B ประกบด้วยปีกนก และเป็นตัวมอสคอตที่ได้อยู่บนเกือบทุกโมเดลของเบนท์ลีย์ ถึงแม้ว่าในอดีตจะมีการใช้มาสคอตที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเองโดยเจ้าของรถก็ตาม
ฟลายอิ้ง บี เผยโฉมครั้งแรกในช่วงต้นปี 1930 บนโมเดลรถรุ่น 8 ลิตร แต่ยังถือเป็นแค่ตัวเลือกให้กับลูกค้า และไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก ถึงกระทั้งทางเบนท์ลีย์เคยพิจารณาที่จะยกเลิกมาสคอตตัวนี้มาแล้ว
ในปี 1953 เบนท์ลีย์ได้จัดให้มีการแข่งขันออกแบบมาสคอตด้วยการเชิญผู้อ่านนิตยสาร Autocar มาร่วมการแข่งขันเพื่อทดแทนมาสคอตที่ใช้อยู่ ณ ตอนนั้น โดยมีเงินรางวัลมอบให้แก่ผู้ชนะเป็นเงิน 50 ปอนด์สเตอร์ลิง แต่ผลการตัดสินปรากฎว่าไม่มีไอเดียใดผ่านการคัดเลือก
อย่างไรก็ตาม รางวัลปลอบใจมูลค่า 25 ปอนด์สเตอร์ลิงมอบให้กับผู้เข้าแข่งขัน 2 ทีม โดย ฟลายอิ้ง บี ได้ถูกเลือกและนำมาใช้ตั้งแต่นั้นมา
บี ปีกนก – สัญลักษณ์แห่งความโดดเด่น
ในอดีตเบนท์ลีย์ไม่เคยมีโลโก้ของตัวเอง โลโก้เบนท์ลีย์ปีกนกเพิ่งจะถูกออกแบบโดย ศิลปินชาวอังกฤษชื่อ F. Gordon Crosby ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ถึงแม้ว่าโลโก้จะถูกออกแบบมาอย่างสมมาตรกัน แต่จำนวนขนนกของปีกทั้งสองข้างมีจำนวนไม่เท่ากัน ข้อแตกต่างนี้เองได้ถูกนำมาใช้ในการจับผิดผู้ที่พยายามเลียนแบบ
Crosby ทำงานให้กับนิตยสาร Autocar มาเกือบตลอดทั้งชีวิต เขามีความโด่ดเด่นในเรื่องของการใช้สีน้ำสร้างสรรค์ผลงาน และด้วยคาเรคเตอร์ของเขา เขาเคยจะได้เป็นศิลปินแนวหน้าในวงการยานยนต์ของประเทศอังกฤษมาแล้ว
สัญลักษณ์ ตัวอักษร บี ปีกนก ได้ปรากฎในหลากหลายสีสันในช่วง 100 ปีทีผ่านมา โดยเริ่มจาก สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีดำ ปัจจุบัน ตัวอักษร บี ปีกนก ยังคงเป็นที่น่าจดจำในฐานะสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ
100 ปีบนเส้นทางสุดพิเศษ
10 กรกฎาคม 2562 ได้ถูกบันทึกให้เป็นวันครบปีที่ 100 ของเบนท์ลีย์ เราได้บรรลุเป้าหมายสุดพิเศษที่ตั้งไว้ และกิจกรรมสุดพิเศษมากมายได้เกิดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในอีเว้นท์ต่างๆทั่วโลก พวกเราได้โชว์วิวัฒนาการตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมาของยนตกรรมสุดหรูระดับตำนาน โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ความสำเร็จในวันนี้และอนาคตที่น่าจับตามองบนเส้นทางของสุดยอดยนตกรรมหรู
อนึ่ง เบนท์ลีย์ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคัน ด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงนานกว่า 27ปี เอเอเอสได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อจัดส่งวิศวกรไปฝึกอบรมที่โรงงานเบนท์ลีย์ทุกปีทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถเบนท์ลีย์ทุกท่านตาม นโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name you can Trust” มานานกว่า 27 ปี
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th