‘Big Data’ อาวุธลับมาสด้า ประเทศไทย-สู่เป้าหมายยอดขาย 75,000 คัน
มาสด้า เตรียมใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ ‘Big Data’ เป็นอาวุธสำคัญเพื่อเพิ่มยอดขายสู่เป้าหมาย 75,000 คันในปี 2562 หลังจากสถิติในปีล่าสุดลูกค้าชาวไทย 40 เปอร์เซ็นต์ ตัดสินใจซื้อก่อนจะได้สัมผัสรถจริงที่โชว์รูม พร้อมส่ง 3 โมเดลใหม่ Mazda3, Mazda CX-8 และ Mazda CX-3 เปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทย
คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด และรัฐกิจสัมพันธ์บริษัทมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยถึงการนำวิธีวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Big Data เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันยอดขายของบริษัท ระหว่างงานแถลงข่าวแผนงานการดำเนินธุรกิจ และกลยุทธ์มาสด้า ปี 2562 (2019 Mazda Business Review & Way Forward) เมื่อวันอังคารที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา
“ในปี 2561 ยอดขายรถยนต์มาสด้าทางออนไลน์คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวม (70,475 คัน) คือลูกค้าจำนวนนี้จะพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ของมาสด้า ก่อนจะมาถึงโชว์รูม และ 100 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้ามาสด้า จะหาข้อมูลของรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่สนใจทางออนไลน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นอย่างน้อย โดยหากเทียบกับปีก่อนหน้านั้นจะอยู่ที่ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์” ผู้บริหารหนุ่ม เปิดเผยกับทีมงาน Grand Prix Online
“ข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์มาจากหลากหลายช่องทาง รวมถึงการเก็บข้อมูลเวลามีการจัดกิจกรรมอย่างเช่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งล่าสุด เราได้ข้อมูลของคนที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของมาสด้า ประมาณ 50,000 คน ผมจะนำข้อมูลทั้งหมดมาย่อยอีกครั้ง โดยเราจะใช้ Algorithm ที่สามารถแยก และวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วย เพื่อจะดูว่าแต่ละคนมีตัวตนอย่างไร ก่อนจะส่งข้อมูลโฆษณาออกไป อย่างเช่น มาสด้า2 กลุ่มลูกค้าจะเป็นคนรุ่นใหม่อายุ 20-35 ปี การวิเคราะห์ข้อมูลของเราจะเก็บข้อมูลว่าลูกค้ากลุ่มนี้ชอบเข้าเว็บไซต์อะไรที่เป็นเทรนด์ตอนนี้, การชมรายการผ่าน Line TV และ YouTube”
“พวกนี้จะมี Tool (เครื่องมือ) หลายๆ อย่างเช่น Google Analytics, Social Listening หรือ Facebook Marketing Services ที่จะรวบรวมข้อมูลออกมาเป็นสถิติว่าอะไรคือข้อความหรือการสื่อสารที่ติดอันดับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้เราสามารถเลือกที่จะทำการสื่อสารแบบรายบุคคลแบบเฉพาะตัวได้เลย”
Big Data: คือข้อมูลขนาดใหญ่จนซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ธรรมดาไม่สามารถจะจัดการหรือวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นการรวบรวมข้อมูลทั้ง Structured (การเก็บแบบโครงสร้างตารางข้อมูล) และ Unstructured (ข้อความขนาดยาว, รูปภาพ และวิดีโอ) เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์(อ้างอิงจาก https://medium.com)
การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Big Data ยังถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการจัดแสดงบูธตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศภายใต้ชื่องาน Mazda Skyactiv Festival โดยคุณธีร์ ให้ข้อมูลว่า “หากมีการจัดกิจกรรมยกตัวอย่างเช่น ในจังหวัดนครราชสีมา ผมก็จะใช้ Location-Based (การโฆษณาแบบกำหนดพื้นที่) เพื่อจะส่งข้อมูลโฆษณาหาคนในพื้นที่แถวนั้นให้รับรู้ว่ามาสด้า กำลังจัดงานอยู่ โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก Facebook, Google Search, YouTube และ Line ทำให้การออกอีเวนต์ในจังหวัดเล็กๆ เพียงแค่ 2 วัน เราสามารถทำยอดจองได้สูงถึง 150 คัน”
นอกจากนี้คุณธีร์ เปิดเผยว่าในปี 2562 จะมีการปรับโฉมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของมาสด้า ในประเทศไทย (mazda.co.th) เพื่อเตรียมต้อนรับการเข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 7 ของรถยนต์มาสด้า ที่จะประเดิมด้วยการมาถึงของ All-new Mazda3 ก่อนจะตามด้วยเอสยูวี 7 ที่นั่ง All-new Mazda CX-8 และปิดท้ายด้วย All-new Mazda CX-3 รวมทั้งอีก 3 รุ่นที่จะมีการปรับแบบไมเนอร์เชนจ์ เรียกว่าเป้าหมาย 75,000 คันดูจะไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับค่ายรถยนต์รายนี้
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Mazda Sales (Thailand)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th