รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือที่เราเรียกกันว่า BIGBIKE ได้รับความนิยมจากเหล่าบรรดาไบค์เกอร์ในประเทศไทยทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ที่จะขยับไซต์ขึ้นไปขี่ เรามารู้จักรถจักรยานยนต์ BIGBIKE กันก่อนเลย BIGBIKE เข้าใจง่ายๆ ก็คือว่ารถที่เรียกว่า BIGBIKE นั้นจะมีขนาดความจุตั้งแต่ 250 cc ขึ้นไปจนถึง 2400 cc และด้านเครื่องยนต์นั้นจะแตกต่างกันออกไปในรถของแต่ละค่าย นอกจากนี้ BIGBIKE จะถูกแตกแขนงแยกออกมาเป็นประเภทอีกนะครับโดยจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Sport, Naked, Touring, และ Chopper นั้นเอง

ทีนี้พอเราฝึกซ้อมขับขี่ใช้งานได้สักระยะคุ้นชินกับรถแล้ว แน่นอนสเต็บต่อไปเราก็อยากจะเข้าโค้งได้แบบกริบๆบ้าง เพราะหลายครั้งที่คุณเห็นว่าการบรรดานักบิดที่ช่ำชองนั้นเข้าโค้งได้อย่างงดงาม มอเตอร์ไซค์เอียงกับทางโค้งได้แม้ว่าจะมาด้วยความเร็วขนาดไหนก็ตาม แต่หากว่าคุณต้องการเข้าโค้งอย่างมืออาชีพ ต้องทำอย่างไร แน่นอนฝึกฝนบ่อยๆ แต่ผมก็จะเน้นย้ำไว้เลยว่าอย่าจะฝึกฝนควรเข้าคอร์ดการฝึกอบรมแบบจริงจัง และฝึกในสนามปิด เท่านั้น ไม่ใช่ฝึกบนถนนหลวง เพราะมันอันตรายมากทั้งตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทาง เห็นได้จากที่เป็นข่าวที่รถ BIGBIKE แบนโค้งแล้วพลาดล้มไถลไปชนกับรถยนต์ที่สวนมาถึงแก่ชีวิต เพราะฉะนั้นไม่ควรฝึกเข้าโค้ง หรือเค้าโค้งเท่ห์ๆเพื่อถ่ายรูป บนถนนหลวงเด็ดขาด

เอาละเรามาเข้าเรื่องกันเทคนิดการเข้าโค้งของรถ BIG BIKE ก่อนอื่นคุณควรทำความเข้าใจว่าการขับขี่รถจักรยานยนต์  BIG BIKE เข้าโค้งนั้นต้องใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย สายตาเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องมองในมุมที่กว้างมองเห็นไปถึงทุกที่ของเส้นทางพยายามกวาดสายตาให้ทั่วทั้งถนน ต่อมาคุณควรเก็บข้อศอกและไม่ควรเกร็งแขนจนเกินไป อย่าลืมปล่อยไหล่ตามอิสระอย่าฝืนท่าทางเพราะจะทำให้การขับขี่ไม่เป็นธรรมชาติ ควรที่จะจับมือที่บริเวณกลางปลอกแฮนด์ไม่ควรหักข้อมือในขณะที่ขับขี่รถเนื่องจากจะทำให้คุณนั้นฝืนท่าทางของการขับขี่ สะโพกให้ปล่อยตามธรรมชาติเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรถ ควรเก็บเข่าให้มิดชิดแนบกับตัวรถ และสุดท้ายคือให้วางอย่างหนักแน่นที่คันเกียร์และเบรก

การเข้าโค้งแบ่งได้ออกทั้งหมดเป็น 4 แบบ แต่ละแบบก็มีจุดที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ซึ่งการแบ่งนี้ใช้หลักเกณฑ์ตามท่านั่งดังนี้

Lean-out

สำหรับการเข้าโค้งในลักษณะ Lean-out ผู้ที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์จำเป็นจะต้องถ่วงน้ำหนักของตัวคุณไปทางด้านนอกของโค้งมากกว่าด้านในโค้ง สำหรับตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปที่ด้านในของโค้งเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนมากแล้วการเข้าโค้งท่านี้มักจะใช้การเข้าโค้งลักษณะนี้ในมอเตอร์ไซค์วิบาก ในโค้งแคบ นั่นก็เพราะว่าผู้ที่ขับขี่จะคอนโทรลรถได้แม้ว่ารถไถลก็ตาม

Lean-with

สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้ คุณจะต้องหลอมรวมตนเองเป็นส่วนหนึ่งของรถมอเตอร์ไซค์ โดยตัวรถมอเตอร์ไซค์จะเอียงไปในองศาที่เท่ากันกับผู้ขับขี่ โดยเท้าทั้งสองข้างของผู้ขับขี่จะอยู่ที่พักเท้า หัวเข่าหรือก็จะแนบชิดกับถังน้ำมัน ศีรษะของผู้ขับขี่ตั้งตรงอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อช่วยให้สมดุลร่างกายและตัวรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเหมาะสม สำหรับการเข้าโค้งแบบนี้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โค้งที่มาด้วยความเร็วปานกลาง และเหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าคุณจะควบคุมรถได้อย่างง่ายดาย และแม้แต่การเปลี่ยนทิศทางรถก็ทำได้อย่างดีมีประสิทธิภาพจนคุณต้องประทับใจ

Lean-in

สำหรับการขับขี่มอเตอร์ไซค์เข้าโค้งแบบนี้ คุณจะต้องถ่วงน้ำหนักของตนเองไปทางด้านในโค้ง โดยลำตัวของผู้ขับขี่จะเอียงมากกว่าตัวรถมอเตอร์ไซค์สักเล็กน้อย ซึ่งการเข้าโค้งในลักษณะนี้ จะเหมาะสมกับการขับขี่มอเตอร์ไซค์มายังโค้งด้วยความเร็วสูง และต้องการความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของการเข้าโค้งแบบ Lean-out คือผู้ขับขี่จะคอนโทรลรถได้น้อยกว่า Lean-with

Hang-on

สำหรับการเข้าโค้งด้วยวิธีนี้ คุณจะต้องถ่วงน้ำหนักของตนเองไปด้านในโค้งอย่างมาก อาจจะเปรียบได้ว่าเป็นการโหนรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังขับเลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่คอนโทรลรถมอเตอร์ไซค์ได้ยาก จึงไม่เหมาะสำหรับการขับขี่โดยทั่วไปหรือมือใหม่นั่นเอง ส่วนมากแล้วจะพบการเข้าโค้งแบบนี้ในสนามแข่งที่มีถนนเรียบๆเท่านั้น ไม่ควรทำบนท้องถนนเด็ดขาดอันตรายถึงชีวิตนะครับ

จากท่าทางการเข้าโค้ง 4 แบบที่กล่าวมา เราจะพบว่าการขับขี่เข้าโค้งแบบ Lean-with เป็นท่าที่เหมาะสมและให้ความปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้คุณควรให้ความสำคัญในเรื่องของความเร็วgบาเครื่องแล้วจึงค่อยเปลี่ยนให้เกียร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมห้ามบีบคลัตช์ระหว่างเข้าโค้ง และสุดท้ายเมื่อพ้นโค้งแล้วให้ผู้ขับขี่เร่งเครื่อง ที่สำคัญที่สุดอย่าประมาท

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th