BMW ไทย จัดของแรง เปิดตัว M4 GTS 500 แรงม้า
บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ต่อยอดความเป็นที่สุดด้านสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe ไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยีและรูปลักษณ์ภายนอกที่ส่งตรงจากสนามแข่ง พร้อมตอบสนองทุกโจทย์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่งหรือบนท้องถนนทั่วไป นอกจากจะเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่เร็วและแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ยังเป็นยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 700 คันทั่วโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของรถยนต์สปอร์ตระดับตำนานอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู M3 ที่ได้เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1986
บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ใช้ขุมพลังเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร รุ่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 รุ่นเดิม แต่เสริมสมรรถนะอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีระบบหัวฉีดน้ำ (water injection) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก หลังจากที่ช่วยขับเคลื่อนให้รถแข่ง บีเอ็มดับเบิลยู M4 DTM ของนักขับชาวเยอรมัน มาร์โก วิทแมนน์ สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันทัวริ่งคาร์รายการ DTM (Deutsche Tourenwagen Masters) ประจำปี 2014 และ 2016 ไปครองได้สำเร็จ เทคโนโลยีหัวฉีดน้ำนี้ช่วยให้เครื่องยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS มีพละกำลังสูงสุดถึง 368 กิโลวัตต์ / 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe รุ่นมาตรฐาน
นอกจากเครื่องยนต์อันทรงพลังแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ยังตอบสนองฉับไวด้วยตัวถังน้ำหนักเบาที่มีอัตราน้ำหนักต่อกำลังขับที่ 3.0 กิโลกรัมต่อแรงม้า โดยในส่วนกระโปรงหน้า-หลัง หลังคา สปลิตเตอร์หน้า และสปอยเลอร์ เลือกใช้วัสดุล้ำยุคอย่าง CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) ที่ทั้งแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เข้ากันกับงานออกแบบภายในที่เน้นการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อความหรูในสไตล์สปอร์ตพันธุ์แท้ ส่วนระบบเกียร์ M DCT (M Double Clutch Transmission) 7 สปีด ทำงานผสานกับเครื่องยนต์อย่างลงตัวเพื่อส่งพละกำลังลงสู่ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาสีส้ม Acid Orange รุ่น 666 M Styling เสริมความมั่นใจบนทุกเส้นทางด้วยระบบช่วงล่างแบบ M coilover และเบรกคาร์บอนเซรามิก
บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS มาพร้อมกับการวิวัฒนาการเทคโนโลยีไฟท้ายแบบ OLED (BMW Organic Light) สำหรับการผลิตซีรี่ส์รถยนต์เป็นครั้งแรกในโลก โดยระบบไฟแบบ OLED นี้ ให้แสงสว่างบนพื้นผิวแบบกระจายตัวทั่วๆกัน แทนที่จะเป็นแบบจุดเฉพาะเช่นไฟ LED ทั่วไป ผ่านวัสดุเซมิคอนดัคทีฟบางเฉียบ สร้างแสงไฟท้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ราคาจำหน่าย 13,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th