BMW ร่วมมือ Jaguar Land Rover พัฒนาการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นต่อไป
เมื่อ 25 ปีที่แล้ว BMW ได้ซื้อ Rover Group ซึ่งมีแบรนด์ Land Rover รวมอยู่ด้วย แต่ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีก็ไม่ได้ถือแบรนด์รถออฟโรดหรูจากอังกฤษไว้นานนัก เพราะขายออกไปในปี 2000 อย่างไรก็ตามความร่วมมือระหว่าง BMW กับ Land Rover ก็ได้มีขึ้นอีกครั้งในปัจจุบันแม้จะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบอดีต เมื่อทาง BMW และ Jaguar Land Rover ได้ออกมาประกาศถึงความร่วมมือในการพัฒนา “ชุดขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นต่อไปเพื่อรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ ACES (Autonomous, Connect, Electric และ Share) หรือยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่อ ระบบไฟฟ้า และการแบ่งปัน
ชุดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในอนาคตจากความร่วมมือของสองผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรนีและอังกฤษจะใช้พื้นฐานความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าล่าสุดของ BMW คือเทคโนโลยี eDrive เจนเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบส่งกำลัง และการให้พลังงานแก่ระบบอีเล็กทรนิกอยู่ในส่วนเดียวกัน ซึ่งจากการเปิดเผยของ BMW มอเตอร์ไฟฟ้านี้จะไม่ต้องการวัตถุดิบหายากในโลก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทลดการพึ่งพาความจำเป็นของสิ่งนี้โดยที่ระบบไฟฟ้ายังคงทำงานต่อไปได้
ความร่วมมือของ BMW และ Jaguar Land Rover จะต่อยอดขึ้นจาก eDrive เจนเนอเรชั่น 5 ซึ่งอยู่ใน BMW iX3 รถเอสยูวีไฟฟ้าที่จะเปิดตัวในปี 2020 ซึ่งด้วยการแบ่งปันการพัฒนา และค่าใช้จ่ายในแผนการผลิต รวมทั้งปริมาณการสั่งซื้อวัตถุดิบร่วมกันจะทำให้ทั้ง BMW Group และ Jaguar Land Rover สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ โดยชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าจากพื้นฐานของเจน 5 จะได้รับการพัฒนาโดยทีมซึ่งร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญของ BMW และ Jaguar Land Rover ในมิวนิค ส่วนการผลิตจะมีขึ้นโดยแต่ละบริษัทในฐานการผลิตของตนเอง
“กับ Jaguar Land Rover เราได้พบผู้ร่วมงานซึ่งมีความต้องการชุดขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นต่อไปที่ลงตัวกับเรา การร่วมมือกันทำให้เรามีโอกาสที่จะสร้างประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับความต้องการของลูกค้าโดยใช้ระยะเวลาพัฒนาที่สั้นลง และนำรถยนต์รวมทั้งเทคโนโลยีระดับสุดยอดมาสู่ตลาดได้เร็วขึ้น” Klaus Frohlich หนึ่งในกรรมการบริหารของ BMW AG กล่าว
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th