BMW ขยายทางเลือกปลั๊กอินไฮบริดด้วย 320e และ 520e
เข้าปีใหม่มาไม่ถึงเดือนทาง BMW ก็เดินหน้าเพิ่มรถรุ่นต่างๆ ของตนในตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เพียงเปิดตัวรถแรงสุดในสายการผลิตของตนอย่าง M5 CS ออกมาเท่านั้น ยังขยายทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริดให้กับทั้ง 3 Series และ 5 Series ด้วยรุ่นเริ่มต้น 320e และ 520e ด้วย โดยที่เลือกได้ทั้งตัวถังซีดานและแวกอนหรือ Touring
แน่นอนว่าทั้ง BMW 320e และ 520e ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นในแบบปลั๊กอินไฮบริดของรถทั้ง 2 เซ็กเม้นต์มาพร้อมกับขุมกำลังไฮบริดเหมือนกันคือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 163 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งให้กำลังรวม 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ Steptronic 8 ส่งกำลังสู่ล้อหลังหรือทั้ง 4 ล้อ สำหรับระยะการเดินทางโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนจะต่างออกไปในแต่ละรุ่นและตัวถัง โดย 320e ซีดานสามารถเดินทางได้ 48-57 กิโลเมตร 320e Touring เดินทางได้ 46-54 กิโลเมตร ส่วน 520e ซีดานเดินทางได้ 41-55 กิโลเมตร ในขณะที่ Touring เดินทางได้ 45-51 กิโลเมตร
เช่นเดียวกับระยะการเดินทางโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ที่สมรรถนะของรถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นเริ่มต้นแต่และขนาดตัวถังรวมทั้งระบบขับเคลื่อนจะแตกต่างกันออกไป โดย 320e ซีดานใช้เวลา 7.6 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในขณะที่ 320e Touring ใช้เวลา 7.9 วินาที แต่หากเป็น 320e xDrive Touring จะใช้เวลา 8.2 วินาทีเพื่อทำความเร็วเดียวกัน สำหรับความเร็วสูงสุดของรถก็แตกต่างกันโดยอยู่ที่ 225 กม./ชม., 220 กม./ชม. และ 219 กม./ชม. ตามลำดับ
ในส่วนของ 520e หากเป็นตัวถังซีดานการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. จะใช้เวลา 7.9 วินาที และ 8.2 วินาทีสำหรับ Touring โดยที่มีความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. และ 218 กม./ชม. สำหรับซีดานและแวกอนตามลำดับ โดย 320e และ 520e ทั้งหมดจะใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. เมื่อขับเคลื่อนโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้า
ในส่วนของแบตเตอรี 12 kWh ซึ่งถูกติดตั้งที่เบาะหลังของทั้ง 320e และ 520e สามารถชาร์จพลังงานสูงสุด 3.7 kW จึงทำให้ใช้เวลา 2.6 ชั่วโมงเพื่อชาร์จพลังงานจาก 0-80 เปอร์เว็นต์ แต่หากต้องการชาร์จพลังงานจนเต็มต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมง
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานของรุ่นเริ่มต้นปลั๊กอินไฮบริดทั้ง 3 Series และ 5 Series มีทั้ง BMW Live Cockpit Plus พร้อมกับ Connect Package Professional เพื่อให้ผู้ขับสามารถใช้บริการดิจิตอลต่างๆ ของผู้ผลิตได้ รวมไปถึงการปรับระบบปรับอากาศ ความอุ่น และบรรยากาศในห้องโดยสารล่วงหน้าผ่านแอพพ์ในสมาร์ทโฟน โดยทาง BMW จะเริ่มขาย 320e และ 520e ทุกตัวถังในตลาดยุโรปตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th