BMW 5 Series อัพเดตรูปลักษณ์และเทคโนโลยีทั้งซีดานและแวกอน
ดูเหมือนสมรภูมิรถยนต์หรูขนาดกลางอาจดุเดือดขึ้น เพราะไม่เพียงแค่ค่ายดาว 3 แฉกจะปรับโฉมให้กับ E-Class ครบทุกแบบตัวถังเท่านั้น ทางค่ายใบพัดฟ้าขาวก็มีการปรับโฉมให้กับ 5 Series ด้วยเช่นกัน โดยที่มาครบทั้งตัวถังซีดานและแวกอนหรือ Touring พร้อมกับเพิ่มเทคโนโลยีสำหรับการเดินทาง
การปรับโฉมของ BMW 5 Series ทั้งซีดานและ Touring หรือแวกอน มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่ไม่ต้องเพ่งนานเพื่อดูความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า จากทั้งไฟหน้าอแดปทีฟ LED ใหม่ทรงเรียวขึ้นพร้อมด้วยไฟ Daytime Running Light รูปตัวแอลคู่ รวมไปถึงด้านหลังของรถที่มาพร้อมกับไฟท้ายใหม่และปลายท่อไอเสียทรงเหลี่ยม โดยการปรับโฉมครั้งนี้ยังส่งผลไปยัง M Sport Package ด้วย ที่เปลี่ยนกันชนหน้าหลังใหม่ โดยมีการขยายช่องดักอากาศที่กันชนหน้าให้ใหญ่ขึ้น ส่วนด้านหลังนอกจากมีสปอยเลอร์ติดปลายฝากระโปรงหลังแล้ว ยังมีการปรับ Diffuser ใหม่
ส่วนภายในห้องโดยสารมีจอทัชสกรีนขนาด 10.25 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับระบบ Infotainment iDrive 7 ที่มาพร้อมกับทั้งระบบนำทาง, Apple CarPlay และ Android Auto โดยที่มีจอขนาด 12.3 นิ้วเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการจอใหญ่ขึ้น ในขณะที่จอสำหรับแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลมีขนาด 12.3 นิ้ว นอกจากนี้พวงมาลัยสปอร์ตซึ่งเป็นอุปกรร์มาตรฐานใหม่ยังมีการปรับปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่นใหม่ด้วย
ด้านการขับเคลื่อนตอนนี้ทุกรุ่นเครื่องยนต์ของ 5 Series ทั้งเบนซินและดีเซลจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี Mild Hybrid ที่มีทั้ง Starter-Generator 48V และแบตเตอรีตัวที่ 2 ซึ่งสามารถเก็บสะสมพลังงานจากการเบรกได้ สำหรับทั้งให้พลังงานแก่ระบบไฟฟ้าของรถ รวมทั้งช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์และเพิ่มกำลังในการขับเคลื่อนโดยที่สามารถช่วยเพิ่มกำลังให้แก่เครื่องยนต์ได้ 11 แรงม้าเมื่อมีการเร่งความเร็ว
5 Series ใหม่เต็มไปด้วยหลากหลายทางเลือกของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินมีตั้งแต่ 520i ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้าไปจนถึง 540i กับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร 333 แรงม้า รวมทั้งมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ให้เลือกยกเว้นในรุ่นเริ่มต้นทั้งซีดานและแวกอน และมี M550i xDrive เป็นทางเลือกสมรรถนะสูงสุดกับเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร กำลัง 530 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร แต่จะมีเฉพาะตัวถังซีดานเท่านั้น
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเริ่มต้นที่ 520d กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรกำลัง 190 แรงม้า ไปจนถึง 540d ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร กำลัง 340 แรงม้า โดยที่ทุกรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ให้เลือก
นอกจากการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ปกติพร้อมเทคโนโลยี Mild Hybrid แล้ว ทั้ง 5 Series ซีดานและแวกอนยังมีรุ่นปลั๊กอินไฮบริด 530e เป็นทางเลือกซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร โดยมีกำลังรวม 292 แรงม้าแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร และสามารถเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ 62-67 กิโลเมตรในตัวถังซีดาน ขณะที่แวกอนเดินทางได้ 58-62 กิโลเมตร โดยที่กับตัวถังซีดานยังมี 545e xDrive เป็นอีกทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริด สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงขึ้นด้วยการใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มีกำลังรวม 394 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร เดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ระหว่าง 54-57 กิโลเมตร โดยที่ทุกรุ่นเครื่องยนต์และการขับเคลื่อนของ 5 Series ใช้เกียร์ Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อ
ทาง BMW ระบุว่าจะเริ่มขาย 5 Series รุ่นปรับโฉมใหม่ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมปีนี้ แต่ยังไม่มีการระบุราคาออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th