BMW เดินหน้าขยายทางเลือกการเดินทางในแบบปลั๊กอินไฮบริดให้ 5 Series จากที่มี 530e ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบอยู่แล้ว ด้วย 545e xDrive ที่จับคู่ระบบไฮบริดแบบเสียบปลั๊กกับเครื่องยนต์ 6 สูบเทอร์โบชาร์จสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่สูงพร้อมกับอากาศที่สะอาดขึ้น

ระบบปลั๊กอินไฮบริดใน BMW 545e xDrive เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ทวินเทอร์โบกำลัง 286 แรงม้า กับมอเตอร์เตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 109 แรงม้า ซึ่งทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร และใช้เกียร์ Steptronic 8 สปีด ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ BMW xDrive

จากการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งให้ 545e xDrive มีสมรรถนะในการเคลื่อนที่เพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 4.7 วินาที และไปสุดที่ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยหากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวในการเดินทางจะสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. ในขณะที่ระยะการเดินทางเฉพาะการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 54-57 กิโลเมตร

BMW 545e xDrive มี 4 โหมดการขับมาให้เลือกใช้ โดยทาง BMW ระบุว่าโหมดการขับมาตรฐานจะเป็นโหมดไฮบริดที่ถูกปรับตั้งเพื่อให้ความสมดุลย์ในการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า แต่หากต้องการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็จะมีโหมด Hybrid Eco Pro มาให้ใช้ หรือหากต้องการปลดปล่อยกำลัง 394 แรงม้าของรถก็เลือกโหมดสปอร์ต ส่วนโหมด Electric มีให้เลือกสำหรับการใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อน

เช่นเดียวกับรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่นของ BMW ที่ 545e xDrive มาพร้อมกับ Ready to Drive ซึ่งเป็นเสียงเพื่อเตือนคนเดินถนนให้รู้ถึงการมาอยู่บริเวณนั้นของรถ โดยเป็นเสียงที่ทาง BMW ทำงานร่วมกับนักแต่งเพลง Hans Zimmer  และนอกจากใช้เตือนคนเดินถนนแล้ว ยังมีการออกแบบเพื่อให้ความเพลิดเพลินยิ่งขึ้นเมื่อขับด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้า เมื่อผู้ขับเข้าสู่ภายในรถแล้วกดปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์

นอกจากนี้รถซีดานปลั๊กอินไฮบริดล่าสุดจาก BMW ยังมีบริการ eDrive Zone ซึ่งจะเปลี่ยนมาใช้โหมดการขับด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ เมื่อเข้าสู่เขตตัวเมืองซึ่งเป็นโซนมลพิษต่ำและพื้นที่ชั้นในของตัวเมือง อย่างไรก็ตามทาง BMW ยังคงไม่เปิดเผยทั้งราคาและเวลาขายออกมา

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th