หลัง BMW ปรับโฉม X5 และ X6 เพียงสองสัปดาห์ X5 M Competition และ X6 M Competition ซึ่งเป็นรถเอสยูวีรุ่นแรงบนพื้นฐานจากรถเอสยูวีทั้ง 2 รุ่นก็ถูกปรับโฉมตามไปด้วย ทำให้มาพร้อมกับการอัพเดตทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร รวมไปถึงส่วนของจุมกำลังที่ใส่ระบบไฮบริดเข้ามา

BMW Competition

ในส่วนของขุมกำลังแม้ว่าทั้ง BMW X5 M Competition และ X6 M Competition จะยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบที่สร้างกำลังขับเคลื่อนออกมา 625 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตรเหมือนกับรุ่นก่อนปรับโฉม แต่สองรถเอสยูวีรุ่นใหม่มีเทคโนโลยีไมลด์ไฮบริด 48V ช่วยในการขับเคลื่อน โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่รวมกับระบบส่งกำลัง M Steptronic 8 สปีดของรถช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนได้ 12 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดอีก 200 นิวตัน-เมตร ส่วนพลังงานที่มอเตอร์ไฟฟ้าใช้มาจากแบตเตอรี 48V ที่อยู่ในส่วนของเครื่องยนต์ ซึ่งจะได้รับการชาร์จพลังงานมาจากการเบรกและพลังงานส่วนเกินของรถ

รถเอสยูวีสมรรถนะสูงทั้ง 2 รุ่นใหม่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนทุกล้อผ่านระบบ M xDrive พร้อมมีเฟืองท้าย Active M Differential ที่ด้านหลัง และใช้เวลา 3.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 250 กม./ชม. แต่สามารถเพิ่มเป็น 290 กม./ชม. ได้ด้วยออฟชัน M Driver’s Package นอกจากนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนียังระบุว่าในส่วนของเครื่องยนต์ได้รับการอัพเกรดหลายส่วนทั้งเพลาข้อเหวี่ยง เทอร์โบชาร์จ ระบบไอดี ระบบระบายไอเสีย พร้อมมีอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ จาก M อย่างระบบระบายไอเสีย M Sport, ระบบเบรก M Compound Brake และช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional

ด้านรูปลักษณ์ภายนอกของรถมีไฟหน้าและไฟท้ายที่ถูกปรับดีไซน์ตามรุ่นปรับโฉมของX5 และ X6 ที่มีกำลังน้อยกว่า แต่มีการปรับกระจังหน้าใตคู่ในในสไตล์เดียวกับ XM รวมทั้งมีชุดแต่งเสริมความสปอร์ตเฉพาะรุ่น โดยทั้งกระจังหน้า ช่องดักอากาศที่กันชนหน้า Splitter หน้า ปลายท่อไอเสีย Diffuser ที่กันชนหลัง และป้ายต่างๆ บนตัวรถเป็นสีดำ รวมทั้งมีการเพิ่ม 3 สีใหม่คือสีเทา Brooklyn Grey Metallic สีเขียว Isle of Man Green Metallic และสีเทา Frozen Pure Grey Metallic เข้ามาให้เลือก

ส่วนห้องโดยสารของรถเอสยูวีรุ่นแรงทันสมัยขึ้นด้วยBMW Curve Display ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว และจอระบบ Infotainment ขาด 14.9 นิ้วอยู่ในกรอบเดียวกันที่แผงแดชบอร์ด พร้อมใช้ระบบปฏิบัติการ BMW Operation System 8 และมีกราฟฟิก M-specific บนหน้าจอ รวมไปถึงมีการแสดงข้อมูล Head-up Display เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาพร้อมกับรถ

อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ในห้องโดยสารยังมีทั้งแถบไฟ Ambient Lighting ที่แผงแดชบอร์ด  แป้นชิฟต์เกียร์คาร์บอนไฟเบอร์ ใช้คาร์บอนไฟเบอร์แต่งในห้องโดยสาร พวงมาลัยหนัง M เบาะปรับความอุ่นได้ ใช้หนัง Merino หุ้มในห้องโดยสาร และระบบเสียง Harman Kardon ขณะที่ระบบช่วยขับอย่าง Parking Assistance Professional มีการทำงาน Reversing Assistant และ Maneuver Assistant เพิ่มเข้ามา

รถเอสยูวีสมรรถนะสูงทั้งสองรุ่นจะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Amelia Island Concours d’Elegance เดือนมีนาคมนี้ ส่วนการผลิตจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th