BMW Isetta คิดนอกกรอบจนกลายเป็นตำนาน

ใครบ้างที่จะรู้ว่า เจ้า BMW Isetta (อิเซทต้า) หรือเจ้าไข่น้อยคันนี้ กำเนิดขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิต “ตู้เย็น” แถมยังเคยสร้างความสำเร็จเป็นรถที่ขายดีที่สุดในโลกมาแล้ว ซึ่งมาจากแนวคิดที่นอกกรอบกระทั่งกลายเป็นความสำเร็จในช่วงปี 1953-1961

BMW Isetta เป็นรถไมโครคาร์ (Micro Car) ออกแบบและผลิตครั้งแรกในปี 1953 โดยบริษัท ISO Autoveicoli S.p.A. เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งเดิมทีบริษัทนี้ผลิตตู้เย็นและรถสกู๊ตเตอร์ สภาพเศรษฐกิจในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2 สิ้นสุด ยุโรปต้องต้องเผชิญหน้ากับสภาวะข้าวยากหมากแพง ผู้คนยังมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการซื้อรถยนต์ ยังคงซื้อได้เพียงรถสกู๊ตเตอร์เท่านั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ Mr. Renzo Rivolta ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทในขณะนั้น จึงมีแนวคิดที่ยังไม่มีใครเคยทำ นั่นคือ นำเครื่องยนต์ขนาดเล็กของรถสกู๊ตเตอร์มาใส่ในยานพาหนะ 4 ล้อขนาดเล็กแทน ซึ่งจะทำให้รถมีราคาที่ไม่สูงเกินไป แต่สามารถใช้งานได้เหมือนรถยนต์ (ต่างกันแค่นั่งได้สองคนเท่านั้น) น่าจะทำออกมาขายได้เป็นแน่แท้ เมื่อคิดได้อย่างนั้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นก่อร่างสร้างโครงการของเจ้าไข่น้อย Isetta

BMW Isetta museum_2

และด้วยรูปแบบตัวถังที่ดูเล็ก กะทัดรัด และดูน่ารัก อีกทั้งยังแปลกใหม่ในยุคนั้น ด้วยรูปทรงเหมือนไข่เป็ด มีความยาวเพียง 2,290 มม. กว้าง 1,370 มม. ฐานล้อหลังห่างกัน 48 ซ.ม. มองเผินๆ จึงดูเหมือนเป็นรถสามล้อ ซึ่งการออกแบบให้ล้อคู่หลังอยู่ใกล้ชิดกันก็เพื่อประคองรถให้ทรงตัวได้ และไม่ล้อง่ายเวลาเลี้ยวหรือเข้าโค้ง แต่ที่สะดุดตามากกว่านั้นคือ ประตูที่เปิดออกจากทางด้านหน้าตัวรถ แถมมือจับเปิดประตูยังดูเหมือนมือจับเปิดตู้เย็นอีกต่างหาก

สำหรับเครื่องยนต์ของ Isetta รุ่นแรกถูกพัฒนามาจากเครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่เรียกว่าสกู๊ตเตอร์ ติดตั้งอยู่ท้ายรถ มีความจุขนาด 236 ซีซี แบบ 2 สูบ แรงม้าสูงสุด 9.5 แรงม้า (7.1 กิโลวัตต์) ทำความเร็วสูงสุดได้ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งถังน้ำมันขนาด 13 ลิตร ซึ่งเจ้าไข่น้อยรุ่นนี้ยังเคยลงแข่งระยะทางไกลในรายการ Mille Miglia ที่ถือว่าเป็นการแข่งขันที่เป็นตำนานของโลกมอเตอร์สปอร์ตมาแล้ว เป็นการแข่งที่ต้องขับรถจากเมืองเบรสเซีย (Brescia) มุ่งหน้าลงทางใต้ ซึ่งจะผ่านเมืองสำคัญต่างๆ ของอิตาลีแล้ววกกลับมาที่เมืองเบรสเซียอีกครั้ง รวมระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตร ผลจากการแข่งในครั้งนั้นยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นกับสมรรถนะที่ต่างจากตัวถังที่ดูน่ารักอย่างสิ้นเชิง และที่สำคัญประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปหลายประเทศ พยายามที่จะขอซื้อ License เพื่อไปผลิตในประเทศของตน

BMW Isetta museum_3

แต่สุดท้าย BMW กลับได้ License นั้นมา แล้วนำมาเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งนำเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ ขนาด 274 ซีซี ของ BMW มาใส่แทนเครื่องเดิมและเริ่มจำหน่ายในประเทศและส่งออกในปี 1955 ซึ่งกลายเป็นว่า Isetta ที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นเยอรมนีได้รับความนิยมถึงขนาดขายได้มากถึง 161,728 คัน และสร้างรายได้ให้กับ BMW เยอรมนีอย่างมหาศาล

ความสำเร็จมีขึ้นก็ต้องมีลง หลังจาก Isetta สร้างกระแสให้เกิดการใช้รถยนต์ขนาดเล็ก ค่ายรถต่างๆ ในยุคนั้นจึงหันมาแข่งขันกันในตลาดรถเล็กมากขึ้น อีกทั้งทำความเร็วและมีความสะดวกสบายได้มากกว่า จนกระทั่งปี 1960 ความนิยมในตัวของ Isetta เริ่มลดลง แต่ได้ข่าวมาอยู่เหมือนกันว่า BMW พยายามที่จะสร้าง Isetta รุ่นใหม่ให้กลับมาโลดแล่นในโลกยนตรกรรมอีกครั้งหนึ่งอยู่เหมือนกัน