ด้วยชื่อรุ่น Edition M Heritage ย่อมเป็นการบ่งบอกถึงที่มาของ M4 คูเป้รุ่นพิเศษนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตของ BMW ซึ่งเริ่มต้นในปี 1972 แล้วประสบความสำเร็จในสนามแข่งด้วยรถที่ใช้พื้นฐานจาก BMW 3.0 CSL จนทำให้แถบสีฟ้าอ่อน, สีฟ้าเข้ม และสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ  BMW M Motorsport เป็นที่รู้จักและจดจำของคนทั่วไป แต่นอกจากความสำเร็จในอดีตแล้ว M4 Edition M Heritage ยังผสานบางส่วนมาจาก M4 DTM ซึ่งเป็นรถแข่งเยอรมันทัวริงคาร์ที่  M Motor Sport พัฒนาในยุคปัจจุบันด้วย

BMW M4 Edition M Heritage ซึ่งจะถูกเปิดตัวในช่วงการแข่งเยอรมัน ทัวริงก์ คาร์ มาสเตอร์ที่ Nurburgring ช่วงสุดสัปดาห์กลางเดือนกันยายนนี้จะมาใน 3 สีภายนอกของรถให้เลือกคือสีฟ้า Laguna Seca Blue, สีฟ้าเมทัลลิก Velvet Blue และสีแดง Imola Red เพื่อสะท้อนถึงแถบสีของ BMW M ที่ประกอบด้วยสีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม และสีแดง นอกจากนี้หลังคาของรถซึ่งเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เรนฟอร์ซพลาสติกยังมาพร้อมกับแถบสี BMW M ด้วยเช่นกัน โดยไม่ใช่เพียงแค่การทำสีภายนอกเท่านั้น แต่เป็นการทำให้มีแถบสีนี้รวมอยู่ในตัวคาร์บอนไฟเบอร์จากขั้นตอนการผลิตพิเศษมาจากโรงงานเลย และปิดท้ายความพิเศษภายนอกรถด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้วลายก้าน Star สีเทา Orbit Grey

ภายในของ M4 Edition M Heritage จะมาพร้อมกับเบาะสปอร์ตทูโทนซึ่งมีความแตกต่างกันตามสีภายนอกของรถอย่างรถที่มีภายนอกเป็นสีฟ้า Laguna Seca Blue และ Velvet Blue จะใช้เบาะทูโทนสีขาว Silverstone และสีดำ โดยที่มีเส้นด้ายสีเทอร์คอยซ์ หรือสี Velvet Blue และสีส้ม ส่วน M4 Edition M Heritage สีแดง Imola Red มีเบาะสปอร์ตสีแดง/ดำ โดยใช้เส้นด้ายสีเหลืองและแดง

โดยรถทุกคันจะมาพร้อมกับป้าย M4 และสัญลักษณ์ Motorsport ที่พนักพิงหลัง รวมทั้งปักชื่อรุ่นพิเศษ Edition M Heritage ที่พนักพิงศรีษะ โดยมีป้ายระบุหมายเลขการผลิตจากจำนวนการผลิตจำกัด 750 คันทั้งที่แผงแดชบอร์ดและฐานประตู

ทาง BMW ยังไม่ได้ระบุราคาของ M4 Edition M Heritage ไว้ แต่นอกจากการระบุจำนวนการผลิตจำกัด 750 คันเพื่อจำหน่ายทั่วโลกแล้ว ยังจำกัดช่วงเวลาการผลิตด้วยว่าจำกัดแค่ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ถึงเมษายนปีหน้า

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th