BMW M8 MotoGP Safety Car พร้อมลงสนาม MotoGP ที่บุรีรัมย์
BMW ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน MotoGP ซึ่งเป็นรายการแข่งมอเตอร์ไซค์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลก ในฐานะ ‘Official Car of MotoGP’ เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน โดยรับหน้าที่เป็น Safety Car กับภารกิจหลักอำนวยความปลอดภัยให้กับตัวแข่ง MotoGP ในสนาม ส่วนภารกิจรอง เป็นการสร้างอิมเมจให้กับแบรนด์ BMW ดังนั้น บรรดา Safety Car ในแต่ละยุคของ BMW จึงล้วนเป็นตัวแรงประจำค่ายทั้งสิ้น ได้แก่ Z8 (2001), X6 M (2008-2009), M6 Grand Coupé (2013), M4 Coupé (2015), M2 Coupé (2016-2017) และ M5 โมเดลปัจจุบัน F90 (2018-1019) โดย Safety Car คันต่อไปจาก BMW M GmbH จะเป็น ‘M8 MotoGP Safety Car’ ซึ่งได้เข้าไปวิ่งโชว์ตัวในสนาม MotoGP ครั้งแรก รายการ Red Bull Ring Grand Prix สนาม 11 ณ ประเทศออสเตรีย เรียบร้อยแล้ว
BMW M8 [F91] กับรถแข่ง BMW M8 GTE ถูกพัฒนามาด้วยกันแบบคู่ขนาน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะต่อยอด M8 Competition ให้กลายเป็น Safety Car หลังจากทีม BMW M GmbH รับงานแปลงโฉม งานโมดิฟายหลักจึงอยู่ที่การตกแต่งตัวถังภายนอก ซึ่ง M8 MotoGP Safety Car ถูกเพิ่มเติมในหลายส่วน เพื่อเป็นรถเฉพาะกิจ รับหน้าที่พิเศษ ได้แก่ การติดไฟไซเรนบนหลังคา ให้กำเนิดแสงไฟสัญญาณกะพริบจากหลอด LED ตัวถังปรับปรุงแอโรไดนามิกเพิ่มเติม จุดหลักๆ ได้แก่ กรอบกระจังหน้า เรือนกระจกมองข้างชุดใหม่ ลิ้นสปอยเลอร์ (Lip Spoiler) ครีบรีดอากาศที่มุมกันชนหน้า สเกิร์ตข้าง ชุดดิฟฟิวเซอร์ที่ท้ายรถ และปีกหลังชิ้นใหญ่ โดยทั้งหมดผลิตจาก ‘คาร์บอนไฟเบอร์’ ปิดท้ายด้วยการอัปเกรดระบบเบรก ด้วยจานเบรกคาร์บอนเซรามิกชุดใหม่ ที่จะปรับสภาพของ M8 MotoGP Safety Car ให้เหมาะสมกับการใช้ความเร็วในแทร็กมากยิ่งขึ้น
- ระบบช่วยการทรงตัว M8 Competition มี ‘DSC’ (Dynamic Stability Control) เป็นระบบหลัก มี 3 โหมดย่อยให้ผู้ขับเลือก ได้แก่ DSC on, MDM, DSC off ขณะที่ระบบขับเคลื่อน ‘M xDrive’ ก็มีให้เลือกอีก 3 โหมดเช่นกัน คือ 4WD, 4WD Sport, 2WD สำหรับ ‘MDM’ ซึ่งเป็นโหมดย่อยของ ‘DSC’ ย่อมาจาก ‘M Dynamic Mode’ จะมีให้เลือกเล่นอีก 2 โหมด ได้แก่ MDM, 4WD Sport
เช่นเดียวกับ Safety Car ทุกโมเดลที่ผ่านมา งานห้องโดยสารจะถูกจัดเต็ม ไม่เป็นรองงานตัวถังภายนอก เบาะนั่ง M8 ชุดเดิม ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถูกถอดทิ้ง แทนที่ด้วย ‘Racing Seats’ จาก RECARO เจ้าประจำ และมีมาให้เฉพาะคู่หน้า มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด พื้นที่โดยสารด้านหลังถูกแทนที่ด้วย ‘Roll Cage’ พ่นด้วยสีขาว วางแบบเต็มพื้นที่ พื้นรถติดตั้งถังดับเพลิง เพิ่มความปลอดภัยให้กับงานภาคสนามซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่องานด้าน ‘ฟังก์ชัน’ หรือประโยชน์ใช้สอยครบถ้วนตามมาตรฐาน งานด้าน ‘แฟชั่น’ จึงเดินหน้าต่อ ได้ พวงมาลัยเพิ่มความดุด้วยวัสดุ Alcantara ขณะที่คอนโซลและขอบคิ้วในส่วนต่างๆ เน้นความดิบด้วยงานคาร์บอนไฟเบอร์
- ระบบเบรก ‘M Carbon-ceramic Brakes’ ใช้จานเซรามิกมาตรฐานเดียวกับรถแข่ง คู่หน้ามาพร้อมคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ ขณะที่ด้านหลังเป็นคาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว ตัวคาลิเปอร์ใช้สีทอง คู่หน้ามี ‘M logo’ ประทับไว้เรียบร้อย เบรกเซรามิกชุดนี้ลดน้ำหนักได้ร่วม 23 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับจานเบรกเหล็กหล่อที่มีขนาดเท่ากัน
สำหรับเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบขับเคลื่อน M8 MotoGP Safety Car ยกชุดมาจาก M8 Competition ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรงสุดของ M8 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4,395 ซี.ซี. พร้อมระบบ Direct Injection (High Precision Injection) พ่วงมาด้วยเทคโนโลยี ‘M TwinPower Turbo’ สร้างกำลังได้สูงถึง 625 hp ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 Nm ที่ 1,800-5,800 รอบ/นาที ถูกจับคู่กับเกียร์ ‘M Steptronic’ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน ‘M xDrive’ ล้อทั้งสี่ตะกายผ่านหลัก 100 กม./ชม. รอเพียง 3.3 วินาที ผ่าน 200 กม./ชม. ใช้เวลา 11.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม. (M Driver’s Package) อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 9.43-9.52 กิโลเมตร/ลิตร และมีตัวเลข CO2 อยู่ที่ 242-238 กรัม/กิโลเมตร
จากระบบขับเคลื่อน ‘xDrive’ ถูกอัปเกรดไปเป็น ‘M xDrive’ ในส่วนของ ‘ฮาร์ดแวร์’ ไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน ส่วนที่ถูกปรับแต่งเพิ่มเติมจะเป็น ‘ซอฟต์แวร์’ ที่ใช้ควบคุมระบบขับเคลื่อน ที่ถูกพัฒนาเพื่อรถตระกูล M โดยเฉพาะ และเริ่มต้นใช้งานครั้งแรกใน M5 [F90] จากเดิมอัตราส่วนในการกระจายกำลังเป็นแบบอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ก็จะมีฟังก์ชันมาให้ผู้ใช้รถเลือกปรับได้ 3 โหมด คือ 4WD, 4WD Sport และ 2WD
โหมด 4WD ใช้งานในสภาพถนนปกติ รองรับการกระจายกำลังในถนนแรงเสียดทานต่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่ 4WD Sport จะเน้นการกระจายกำลังไปให้ขับเคลื่อนด้วยล้อหลังมากเป็นพิเศษ เมื่อล้อหลังเริ่มสูญเสียสภาพการยึดเกาะ ระบบจึงเริ่มส่งกำลังไปเติมให้ล้อหน้า ซึ่งช่วงเวลาสั้นๆ นี้เอง จะให้ฟีลลิ่งและแฮนด์ลิ่งที่ถูกใจนักขับสายฮาร์ดคอร์เป็นอย่างยิ่ง ปิดท้ายด้วย 2WD รถขับเคลื่อนด้วยล้อหลังล้วนๆ เช่นเดียวกับ M Car ทุกโมเดลในอดีต และสายดริฟต์น่าจะถูกใจโหมดสุดท้ายมากเป็นพิเศษ
ภารกิจของ M8 MotoGP Safety Car ไม่ได้จบลงเพียงแค่ในสนาม MotoGP เท่านั้น แต่อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ถูกเติมแต่งเข้าไป ล้วนทำงานต่อให้ BMW ได้ทั้งหมด เพราะมันจะแปรสภาพไปเป็น ‘M Performance Parts’ ให้กับ BMW 8 Series ตัวมาตรฐาน ไล่เรียงมาจนถึง M8 ที่เจ้าของอยากยกระดับความหล่อขึ้นอีก จากสารพัดอุปกรณ์ที่ติดตราสัญลักษณ์ ‘M’ ประเด็นสำคัญ ทั้งเรื่องดีไซน์ และงานผลิต จะเป็นไปตามมาตรฐานโรงงาน BMW ทุกประการ
เรื่อง: พิทักษ์ บุญท้วม
คอลัมน์ Concept Car : GRAND PRIX ISSUE 598
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th