หนึ่งในรถจักรยานยนต์ที่ทำให้บีเอ็มดับเบิลยูก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการบิ๊กไบค์ และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในบ้านเรานั้น คงไม่มีรุ่นไหนเกินเจ้าตระกูล R 1200 ไปได้ ทั้งในเวอร์ชัน R 1200 GS และยักษ์ใหญ่อย่าง R 1200 GSA รถในตระกูลทัวริ่งแอดแวนเจอร์ที่เป็นที่นิยมของไบค์เกอร์นักเดินทางมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี

วันนี้เราจะมาลองทำความรู้จักกับพระเอกของเราในฉบับนี้ BMW R 1200 GSA หรือชื่อเต็มๆ ว่า BMW R 1200 GS Adventure พี่ใหญ่สุดของตระกูล R ที่มาพร้อมคุณสมบัติในการเดินทางท่องเที่ยวที่พร้อมสรรพ ทั้งเส้นทางไฮเวย์ลาดยางที่ยาวไกล ไปจนถึงถนนหนทางที่ทุรกันดาร  ซึ่งในตระกูล R1200 GS นั้น จะมีอยู่ 2 เวอร์ชัน โดยมีรหัสเรียกขานกันว่า GS กับ GSA โดยในรุ่น GS นั้น จะว่าไปแล้วก็คือรุ่นมาตรฐานที่มีคุณสมบัติครบถ้วนของรถสไตล์ทัวริ่งแอดแวนเจอร์ ส่วนในเวอร์ชัน GSA นั้น เสมือนหนึ่งรุ่นที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มสมรรถนะและความสามารถในการใช้งานให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซค์ได้ลงตัวยิ่งขึ้น กับความสามารถในการเดินทางไกลด้วยระยะทางกว่า 500 กิโล จากน้ำมันที่มีอยู่ในถังไซซ์พิเศษที่ถูกเพิ่มเติมให้มากกว่าในรุ่น GS ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างของตัวรถที่มีตัวถังน้ำมันที่อวบอ้วนกว่า จนทำให้ตัวรถดูบิ๊กขึ้นอย่างถนัดตา เมื่อเทียบกันระหว่าง GS ปกติ กับ GSA

โดยถังน้ำมันใหม่ใบนี้สามารถจุน้ำมันได้มากถึง 30 ลิตร ตอบสนองความต้องการเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ 2 สูบ แบบสูบนอนที่เลื่องชื่อของ BMW ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเครื่องยนต์บล็อกที่ประจำการอยู่ใน R 1200 ทั้ง GS และ GSA รุ่นปัจจุบันนี้ เป็นเครื่องบล็อกใหม่ล่าสุดของ BMW ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ด้วยการหันมาใช้การระบายความร้อนแบบผสมผสานระหว่างระบบน้ำและระบบอากาศ เปลี่ยนไปจากเดิมที่ใช้ระบบความร้อนแต่เพียงอากาศอย่างเดียวในเครื่องยนต์ที่บรรจุอยู่ใน R 1200 เจเนอเรชันที่แล้ว ช่วยแก้ปัญหาเดิมๆ ของการระบายความร้อนได้ไม่ทันในการใช้งานบนถนนหนทางในเมืองของบ้านเราที่มีการจราจรหนาแน่นและสภาพอากาศที่ร้อนจัดให้หมดไปในรุ่นใหม่นี้

ซึ่งเครื่องยนต์สูบนอนตัวใหม่นี้ มาพร้อมความจุเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซี.ซี. สามารถให้พละกำลังแรงม้าได้มากถึง 125 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดที่มากถึง 125 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด ส่งกำลังด้วยระบบเพลา นับเป็นอีกจุดหนึ่งของความเปลี่ยนแปลง กับการย้ายข้างของชุดสวิงอาร์มแบบเดียวที่ซ่อนชุดเพลาขับและเฟืองท้ายเอาไว้ด้านใน มาอยู่ทางด้านขวาซ้ายของรถ สลับจากรุ่นที่แล้วที่อยู่ทางด้านขวา ส่งผลโดยตรงกับตำแหน่งของท่อไอเสียใบโตที่จำใจต้องสลับข้างตามไปด้วย โดยชุดท่อใหม่ในรุ่นนี้นับได้ว่าให้สุ้มเสียงที่ทุ้มดุดันอยู่พอตัว จนเรียกได้ว่าเป็นท่อมาตรฐานที่ให้ความพอใจในเรื่องของเสียงได้ดีใบหนึ่ง หากไม่เรียกร้องความดุดันกันมากนัก เจ้าท่อเดิมๆ ใบนี้ก็พร้อมจะรับใช้ได้ดีทีเดียว และจากท่อที่สลับข้างกันนี้ก็ทำให้กระเป๋าข้างที่ต้องเสียสตางค์เพิ่มในการหามาใส่นั้นจะต้องสลับข้างที่จะเว้าหลบชุดท่อใหม่ไปด้วย แต่ข้อดีอีกอย่างของรุ่น GSA นี้ก็คือ จะมีชุดแร็คสำหรับยึดกระเป๋าข้าง และชุดกันล้มติดมาให้พร้อมจากโรงงาน ไม่เหมือนกับรุ่น GS ที่ต้องหามาใส่เพิ่ม หลังจากเป็นเจ้าของ

แวบแรกที่เห็นเจ้ายักษ์จอดรอให้สัมผัสอยุ่ตรงหน้านั้น ต้องบอกกันตรงๆ เลยว่าดูหนักใจอยู่มิใช่น้อย จากรูปร่างที่ดูใหญ่โตจนทำให้การคาดการณ์แรกดูจะหนักอึ้งแน่ๆ แต่เมื่อได้สัมผัสกันจริงๆ  กลับพบว่า R 1200 GSA คันนี้กลับขี่ง่ายอย่างเหลือเชื่อ ด้วยบาลานซ์ของรถที่ดี สามารถทำให้รถที่หนักกว่า 260 กก.นั้น ง่ายต่อการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นการขี่ในเมือง ไปจนถึงนอกเมืองที่ต้องพลิกรถไปมาในเวลาเข้าและออกโค้ง ทำได้ง่ายและให้ความมั่นใจได้ดี ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลชวนฝัน  ตอบสนองต่อการเดินทางไกลได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังสามารถปรับระบบรองรับให้เหมาะสมกับน้ำหนักบรรทุกได้ง่ายดาย เพียงเลือกจากปุ่มควบคุมที่แฮนด์ฝั่งซ้าย เครื่องยนต์ที่ติดตัวมาถึงแม้จะมีแรงม้าอยู่แค่ 125 ตัว ที่ดูว่าอาจจะน้อยกว่าคู่แข่งจากฝั่งอิตาลีหรือออสเตรเลียอยู่หลายสิบตัว แต่ในการใช้งานนั้น R 1200 GSA มีกำลังที่เพียงพอสำหรับการเดินทางบนท้องถนนในบ้านเรา อีกทั้งความสะดวกของระบบเกียร์ที่สามารถงัดเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องบีบคลัตช์นั้น สามารถช่วยเติมความสบายในการใช้งานได้ดี

นอกจากนี้ระบบเนวิเกเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกกันว่า BMW Motorrad Navigator VI ที่ติดตั้งมาให้ใช้งานนั้น ในรุ่นนี้ก็มีภาษาไทยมาให้ใช้แล้ว มาพร้อมความสามารถในการลิงก์ระบบแผนที่กับแอปในมือถือระบบ iOS ให้ผู้ใช้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการกำหนดจุดหมายจากในมือถือ แล้วส่งไปยังตัวเนวี่ที่รถ ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น นอกเหนือจากความสามารถในการเป็นศูนย์กลางของระบบมือถือและแฮนด์ฟรีของหมวกกันน็อก สะดวกในการเลือกรับสายหรือโทรออกได้จากจอแสดงผลของตัวเนวี่ ไปจนถึงการฟังเพลงจากมือถือที่ควบคุมได้สะดวกยิ่งขึ้น และทั้งหมดนี้คงจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ BMW R 1200 GSA สามารถครองใจผู้ใช้และนักเดินทางสองล้อในบ้านเราได้อย่างเหนียวแน่น แต่การจะได้ครอบครอง GSA คันนี้เป็นพาหนะคู่ใจได้นั้น งานนี้ก็คงจะต้องเก็บหอมรอมริบกันมากสักหน่อย กับค่าตัวในระดับหนึ่งล้านกับอีกหกหมื่นบาทเท่านั้น

ข้อมูลทางเทคนิค

ยี่ห้อและรุ่นรถ                     BMW R 1200 GS Adventure

ประเทศผู้ผลิต และรุ่นปี                   ประเทศ ไทย รุ่นปี 2017

แบบเครื่องยนต์                   2 สูบ นอน DOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ

ปริมาตรความจุ (ซี.ซี.)           1,170

กำลังสูงสุด (แรงม้า/รอบ/นาที)          125/7,750

แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รอบ/นาที)       12.74/6,500

ระบบขับเคลื่อน                             ล้อหลัง

ระบบเกียร์                          เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)                    30

ระบบกันสะเทือนหน้า                  BMW Telelever

ระบบกันสะเทือนหลัง                 BMW EVO Paralever

ระบบเบรก (หน้า/หลัง)         ดิสก์เบรกคู่/ดิสก์เบรก

ฐานล้อยาว (มม.)                 1,496

เบาะสูง (มม.)                     890

น้ำหนัก (กก.)                      260

ล้อ (หน้า/หลัง)                    อัลลอย ขนาด 3” x 19” / อัลลอย ขนาด 4.5” x 17”

ยาง (หน้า/หลัง)                             120/70R19, 170/60R17

ราคาจำหน่าย                      1,060,000  บาท

เรื่อง : กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์

ภาพ : พิศิษฐ์ ธนะสารสมบัติ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th