BMW Vision iNEXT Concept จะกลายเป็นจริงในปี 2021
ขณะที่ Mercedes-Benz ขยับแนวรุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบ BEV ทางด้าน BMW ยังไม่มีอะไรใหม่ในตลาดนอกจาก i3 และ i8 แต่พวกเขาก็สะกัดความแรงของ EQS ด้วยการแสดงวิสัยทัศน์แห่งการขับเคลื่อนในยุคหน้าผ่านทางต้นแบบรุ่นใหม่แกะกล่องที่เรียกว่า Vision iNEXT Concept บนตัวถังแบบ SUV ที่มาพร้อมกับแนวทางการออกแบบสไตล์ใหม่ ซึ่งว่ากันว่าน่าจะเป็น Design Language ของ BMW รุ่นใหม่ๆ
รถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คำถามคลาสสิคของ BMW คือ ‘How will we moving around in future?’ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 จนนำไปสู่การก่อตั้งโครงการที่เรียกว่า Project i และนำไปสู่การเปิดตัวซับแบรนด์ที่เรียกว่า i ในปี 2013 พร้อมกับเปิดตัวรุ่น i3 และ i8 โดยต้นแบบใหม่รุ่นนี้มีการยกระดับอีกขั้นของแนวคิดในการตอบคำถามที่มีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นจากที่พวกเขาเคยตั้งเอาไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะรถยนต์ในยุคอีก 10 ปีข้างหน้าทั้งรุ่นที่ถูกผลิตในแบบปริมาณไม่เยอะ หรือพวกที่ผลิตในเชิงพาณิชย์จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ? รวมถึงการขับเคลื่อนจะมาในรูปแบบไหน ซึ่งตามแนวคิดของ BMW แล้วมันจะต้องเป็น Autonomy+Connectivity+Electric+Services
และที่สำคัญ มันจะไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป เพราะผลผลิตจากต้นแบบคันนี้จะถูกปรับปรุงและพัฒนาเพื่อนำไปสู่การผลิตขายจริงภายใต้ชื่อ BMW iNEXT และพร้อมเปิดตัวออกสู่ตลาดในปี 2021Adrian van Hooydonk ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ BMW กล่าวว่า ‘ทุกรายละเอียดที่เป็น BMW ยังถูกคงเอาไว้อย่างครบถ้วน แต่สิ่งที่เรานำเสนอคือ ก้าวย่างครั้งสำคัญของ BMW ในการเดินหน้าไปสู่รูปแบบใหม่ของการขับเคลื่อนของคนในยุคหน้า ซึ่งจะต้องมีเรื่องของความฉลาดของระบบที่มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายและสะดวกขึ้น’
ในส่วนของการขับเคลื่อนตัวรถนั้นจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 โหมด คือ Ease หรือ Boost ซึ่งแบบแรกจะเป็นการขับเคลื่อนด้วย A.I. หรือ Autonomous Driving ซึ่งมีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนตัวรถ และตัวพวงมาลัยก็จะถูกดันเข้าไปเก็บในแผงคอนโซลเมื่อมีการใช้งาน ส่วนแบบหลังจะเป็นการควบคุมโดยผู้ขับขี่เอง ซึ่งก็จะมีการใช้งานในรูปแบบปกติและการขับเคลื่อนก็จะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งในตอนนี้ยังใม่ได้มีการเปิดเผยสเป็กออกมา
ในตอนนี้มีการวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับการขึ้นสายการผลิต โดย iNEXT จะได้รับการผลิตที่โรงงาน Dingolfing ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งในตอนนี้มีถือเป็นฐานการผลิตใหญ่แห่งหนึ่งของ BMW ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 300,000 คันต่อปี ส่วนหน้าตาจะเปลี่ยนไปจากที่เห็นอยู่นี้มากน้อยแค่ไหน รอกันได้อีกไม่เกิน 3 ปี
เรื่อง กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์รถจักรยานยนต์รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th