BMW Vision M Next แสดงรูปแบบของการเดินทางในอนาคต
ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง BMW ต้องการให้ความมั่นใจว่ารถทุกรุ่นของตนยังคงเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของผู้ขับในอนาคตที่ผู้ขับรถสามารถเลือกได้ว่าจะให้รถขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติหรือถูกขับโดยผู้ขับ
ด้วยการเปิดตัวแนวคิด Vision M Next ออกมาที่ BMW Welt ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทาง BMW ใช้เพื่อแสดงเทคโนโลยีล่าสุดของตนด้านการออกแบบ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ การเชื่อมต่อ และการบริการต่างๆ
“BMW Vision M Next เป็นการแสดงด้านหนึ่งของการขับเคลื่อนแบบสปอร์ตในอนาคต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติถูกปรับเพื่อให้เข้าชีวิตของเราเมื่ออยู่ในรถอย่างไร BMW Vision M Next ได้สาธิตถึงเทคโนโลยีระดับแนวหน้าที่ยังคงสร้างประสบการณ์การขับเองล้วนๆ ได้พร้อมกับที่ให้ความรู้สึกในการขับมากขึ้น โดยมี 2 โหมดให้ผู้อยู่ในรถ โดยการออกแบบและเทคโนโลยีจะทำให้ประสบการณ์ทั้งในโหมด EASE และ BOOST มีความเป็นธรรมชาติและเร้าใจขึ้น” Adrian van Hooydonk นักออกแบบอาวุโสของ BMW บอก โดย EASE เป็นโหมดที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ขณะที่ BOOST เป็นโหมดที่ผู้ขับจะมีประสบการณ์การขับรถด้วยตนเอง
การออกแบบภายนอกของ Vision M Next แสดงแนวทางที่มาจาก BMW Turbo และ i8 ปลั๊กอินไฮบริดพร้อมกับใส่ความล้ำหน้าเข้าไปในตัวรถที่มีรูปทรงลิ่ม ประตูที่เปิดแบบปีกนก นอกจากนี้ทาง BMW ยังระบุถึงรายละเอียดที่ภายนอกของรถว่าใช้ไฟหน้า Laser Wire, ช่องดักอากาศทรง Blade-Shape ใต้กระจังหน้าไตคู่, สเกิร์ตข้างคาร์บอนไฟเบอร์รีไซเคิล, ล้อลาย 3 มิติ, ไฟท้าย Laser Wire เช่นเดียวกับไฟหน้า และกระจกหลังแบบ BMW M-1
ในขณะที่ภายในรถถูกระบุว่ามาพร้อมกับเทคโนโลยีการจดจำที่รถจะปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ขับมาถึง และเมื่อกดที่เซ็นเซอร์บนประตู ประตูก็จะเปิดออก สิ่งที่สำหคัญภายในห้องโดยสารคือ BOOST Pod ที่แสดงถึงอินเตอร์เฟชระหว่างผู้ขับกับรถ เพื่อให้ทุกทางเลือกในการควบคุมและข้อมูลที่ผู้ขับต้องการใช้ใน 3 ตำแหน่งของการมองเห็น โดยมี 2 ส่วนที่อยู่หลังพวงมาลัย และอีกส่วนเป็นการแสดงแบบ Head-Up Display ที่กระจกหน้า ในขณะที่วัสดุในห้องโดยสารมีตั้งแต่หนังสัตว์สังเคราะห์จากไฟเบอร์ไปจนถึงไทเทเนียมอโนไดซ์ โดยที่พยายามใช้หนังให้น้อยที่สุดเฉพาะส่วนที่มือของผู้ขับและผู้โดยสารสัมผัสโดยตรงอย่างพวงมาลัยและที่เปิดประตูเท่านั้น แต่เน้นการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ให้ความรู้สึกทั้งการมองและสัมผัสที่เหมือนหนังแทน
ด้านการขับเคลื่อนของ Vision M Next เป็นระบบ Power PHEV ซึ่งมีทางเลือกระหว่างขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยไฟฟ้าหรือขับเคลื่อนเฉพาะล้อหลังโดยใช้ไฟฟ้าทั้งหมดหรือร่วมกับการใช้น้ำมันของเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบ ขณะที่กำลังรวมจากทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์อยู่ 600 แรงม้า ซึ่งเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดได้ 300 กม./ชม. และการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3 วินาที หากใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจะสามารถเดินทางได้ 100 กิโลเมตร ซึ่งทาง BMW ระบุว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในเมืองโดยไม่ปล่อยมลพิษ
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th