BMW X1 เจนใหม่เฉียบคมและใหญ่ขึ้นทุกด้าน
BMW เผยโฉมรถเอสยูวีรุ่นเล็กสุดของตน X1 เจเนเรชันใหม่ออกมา ซึ่งแม้ทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีจะบอกว่าเป็นรถCompact Sport Activity Vehicle แต่ก็มาพร้อมกับความใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าในทุกด้าน พร้อมกับเส้นสายที่เฉียบคมบนตัวรถตั้งแต่ด้านหน้าถึงด้านหลัง และมีครบทั้งเครื่องยนต์ปกติ ไมลด์ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด รวมทั้งไฟฟ้าล้วนเป็นทางเลือก
BMW ระบุว่า X1 ใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่เพิ่มความโดดเด่นขึ้น การออกแบบภายในที่ล้ำหน้า พร้อมเพิ่มความดึงดูดใจด้วยการรวมทั้งความอเนกประสงค์ การทำงานที่ล้ำหน้า ความพรีเมียม และอุปกรณ์มาตรฐานที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าเอาไว้ด้วยกัน ร่วมกับการให้ประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจทั้งการขับและการใช้งานที่ปลายนิ้วไว้ในรถ
ภายนอกของ X1 ใหม่มาพร้อมกับการเน้นเส้นสายที่เฉียบคม โดยด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ชิ้นเดียวทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงยาวพร้อมกับไฟ Daytime Running Light รูปตัวแอลคว่ำและกันชนหน้าที่มีเหลี่ยมสันชัดเจน โดยความเฉียบคมของ X1 ยังต่อเนื่องไปที่เส้นไหล่ด้านข้างและเส้นที่ส่วนล่างของประตูรถ
ขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้ายรูปตัวแอลที่ล้ำเข้าไปในส่วนของฝาท้ายรถ พร้อมกับมีกันชนหลังที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง และเพิ่มความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังที่ถูกออกแบบให้มีเส้นต่อเนื่องมาจากแนวเส้นหลังคาและด้านข้างของรถ รวมไปถึงมีคิ้วสีดำที่ส่วนล่างรอบตัวรถและมีแผ่นกันกระแทกทั้งที่กันชนหน้าและกันชนหลังเพื่อให้ความแข็งแกร่งในสไตล์รถเอสยูวี
ในด้านขนาดของ X1 ใหม่มีความยาวของตัวรถ 4,500 มม. กว้าง 1,845 มม. และสูง 1,642 มม. ส่วนตัวเลขระยะฐานล้อขงรถเอสยูวีรุ่นใหม่จากค่ายกังหันฟ้า-ขาวอยู่ที่ 2,692 มม. ซึ่งทำให้รถมีความยาวขึ้น 53 มม. กว้างขึ้น 24 มม. สูงขึ้น 44 มม. ส่วนระยะฐานล้อมีความยาวมากขึ้น 22 มม. เมื่อเทียบกับเจเนเรชันก่อนหน้า
ในห้องโดยสารของ X1 มาพร้อมกับ BMW Curve Display ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 10.25 นิ้ว และจอระบบ Infotainment ขนาด 10.7 นิ้วยาวต่อเนื่องกัน โดยที่รถเอสยูวีรุ่นใหม่ใช้ระบบ iDrive Operation System 8 ที่เน้นการควบคุมด้วยการสัมผัส นอกจากนี้ทาง BMW ยังออกแบบคอนโซลกลางให้มีช่องวางสมาร์ทโฟนในแบบตั้งพร้อมที่ล็อกสมาร์ทโฟนให้อยู่กับที่เพื่อให้ผู้ขับสามารถมองเห็นได้หากจำเป็นต้องมองในขณะขับ และแน่นอนว่ารถมาพร้อมกับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้งมีระบบผู้ช่วยส่วนตัว กุญแจดิจิตอล และมีกล้องในห้องโดยสารเพื่อให้เจ้าของรถสามารถตรวจสอบรถได้ผ่านแอปป์ BMW
X1 มีหลากหลายทางเลือกของขุมกำลังทั้งเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล ไมลด์ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน โดยในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินมี X1 sDrive18i กับเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตรเทอร์โบ 136 แรงม้า และ X1 xDrive23i กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบพร้อมระบบไมลด์ไฮบริดมีกำลัง 218 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเริ่มตั้งแต่ X1 sDrive 18d กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ และรุ่นแรงขึ้น X1 xDrive23d ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรพร้อมระบบไมลด์ไฮบริดมีกำลังรวม 211 แรงม้า
ในขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมี 2 รุ่นให้เลือกคือ X1 xDrive25e และ X1 xDrive30e ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น โดยรุ่นแรกมีกำลังขับเคลื่อนรวม 245 แรงม้า ส่วนรุ่นหลังมีทั้งกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่าจนทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 326 แรงม้า ปิดท้ายด้วย iX1 xDrive30 ซึ่งเป็นทางเลือกในแบบใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนโดยใช้มอเตอร์คู่ให้กำลังรวม 313 แรงม้า
ทาง BMW จะเริ่มขาย X1 ด้วย 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินและ 2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลก่อนในเดือนตุลาคม 2022 นี้ จากนั้นรุ่นปลั๊กอินไฮบริดและรุ่นไฟฟ้า iX1 จะตามมาในเดือนพฤศจิกายน