ถ้าสปอร์ตเอสยูวีรุ่นเล็กอย่าง X2 ดูเรียบเกินไป BMW ในสหราชอาณาจักรก็มีการแต่งเพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับรถเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นนี้ด้วย M Mesh Edition ที่มาพร้อมกับการแต่งทั้งภายนอกเและภายในพิ่มเติมจากการใส่อุปกรณ์แต่ง M Sport X โดยที่เลือกได้กับหลากหลายขุมกำลังใต้ฝากระโปรง

จุดเด่นหลักที่เห็นได้อย่างชัดเจนของ BMW X2 M Mesh Edition จาก X2 เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าที่กระจังหน้าไตคู่ซึ่งถูกเปลี่ยนจากที่มีขอบโครเมียมพร้อมช่องแนวตั้ง เป็นกระจังหน้าขอบสีดำมันพร้อมกับมีลาย Mesh 3D หรือลายตาข่ายด้านใน โดยที่ลาย Mesh สีดำยังถูกใช้กับที่ช่องดักอากาศใต้กระจังหน้าและที่ด้านข้างของกันชนหน้าด้วย นอกจากนี้ทั้งที่คิ้วซุ้มล้อ สเกิร์ตข้าง และกาบข้างประตูมาในสีดำ Frozen Black-Brown ใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของการแต่ง ส่วนล้ออัลลอยแอโรไดนามิกขนาด 19 นิ้วเป็น Bi-color สีดำและเงิน โดยที่มีล้ออัลลอย Bi-Color ขนาด 20 นิ้วเป็นออฟชั่นให้เลือกหากต้องการขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากการแต่งข้างต้นแล้ว X2 M Mesh Edition ยังเสริมด้วยชุดแต่ง Individual High-gloss Shadow Line มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจึงทำให้ทั้งรอบกระจกหน้าต่าง รวมไปถึงรอบกระจกมองข้างและฐานกระจกเป็นสีดำมัน พร้อมมีการการแต่งที่เสาบีและเสาซีของรถด้วยสีเดียวกัน ในขณะที่ขอบโลโก้ BMW ที่ประตูท้ายและปลายท่อไอเสียเป็นแบล็กโครม ส่วนตัวรถมีสีพิเศษเทา Brooklyn Grey

ความพิเศษของ X2 M Mesh Edition ยังอยู่ที่มีการฉายโลโก้ BMW จากกระจกมองข้างฝั่งผู้ขับ นอกจากนี้ยังมีไฟส่องสว่างที่มือจับเปิดประตู ไฟส่องสว่างที่พื้นรถ กระจกมองข้าง และที่ประตูรถ รวมทั้งมีการอัพเดตอุปกรณ์มาตรฐานของรถอย่างมาพร้อมกับไฟหน้า LED และไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม

ภายในห้องโดยสารให้ความสปอร์ตขึ้นจาก X2 ปกติด้วยเบาะ M Seat หนัง Dakota สีดำเดินด้ายสีเทา เช่นเดียวแผงเหนือเรือนไมล์ คอนโซลกลาง และที่พรมปูพื้น รวมทั้งยังมีพวงมาลัยหนัง M เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยหากเลือกส่งกำลังด้วยเกียร์แมนนวลจะมีโลโก้ BMW ที่หัวเกียร์ นอกจากนี้ยังมีคิ้วประตูพร้อมตัวหนังสือ Edition และเพิ่มการแต่งในห้องโดยสารด้วย Aluminium Hexagon Anthracite ส่วนบุหลังคามาจาก BMW Individual ด้วยสี Anthracite โดยที่มีหลังคาพาโนรามิกเป็นออฟชั่นให้เลือกเมื่อต้องการแสงธรรมชาติมากขึ้นในห้องโดยสาร

BMW ในสหราชอาณาจักรมีทางเลือกที่หลากหลายด้านขุมกำลังสำหรับ X2 M Mesh Edition ทั้ง 3 เครื่องยนต์ดีเซล 3 เครื่องยนต์เบนซิน รวมทั้งปลั๊กอินไฮบริด เช่นเดียวกับการขับเคลื่อนที่เลือกได้ทั้งแบบล้อหน้าหรือ 4 ล้อ และเกียร์แมนนวลหรืออัตโนมัติ Steptronic โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 43,510 ปอนด์ และเริ่มส่งมอบรถตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th