BMW X6 เจนเนอเรชั่น 3 ที่ดุดันขึ้น
BMW เข้าสู่ตลาดรถเอสยูวีคูเป้หรือที่เรียกรถลักษณะนี้ของตนเองว่า Sports Activity Coupe ด้วยรุ่น X6 ซึ่งเปิดตัวรุ่นแรกออกมาในปี 2008 หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนโฉมใหม่ให้ X6 ในปี 2015 อย่างไรก็ตามเพียง 5 ปีในการทำตลาด X6 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ตอนนี้ทาง BMW ได้เปิดตัว X6 รุ่นใหม่ออกมาแล้วในรูปลักษณะที่ดุดันขึ้นพร้อมกับขยายมิติตัวถังหลายด้านให้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า
X6 ใหม่มาพร้อมกับตัวรถที่มีความยาว 4,935 มม. กว้าง 2,004 มม. และสูง 1,696 มม. โดยที่มีระยะฐานล้อยาว 2,975 มม. ซึ่งด้วยมิตินี้ของรถทำให้มีความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 26 มม. กว้างขึ้น 15 มม. และฐานล้อยาวขึ้น 42 มม. ในขณะที่ความสูงของรถลดลง 6 มม. ในขณะที่พื้นที่เก็บของก็ถูกเพิ่มความจุด้วยเช่นกันซึ่งทำให้สามารถเก็บสัมภาระได้ตั้งแต่ 580 ลิตรถึง 1,530 ลิตรด้วยการพับเบาะแถวที่ 2 ลง
[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
ในด้านการออกแบบทาง BMW เพิ่มความดุดันให้กับรถเอสยูวีคูเป้ขนาดกลางของตนมากขึ้นทั้งจากกระจังหน้าไตคู่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียวขนาดใหญ่ในแบบรถรุ่นใหม่ๆ ของ BMW และกันชนหน้าที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุม นอกจากนี้ยังเพิ่มความโดดเด่นให้กับรถในตอนกลางคืนด้วยออฟชั่นเสริมไฟที่กระจังหน้าซึ่งจะสว่างเมื่อรถวิ่งหรือเมื่อเปิด-ปิดประตู ในขณะที่หลังคาของรถที่ลาดลงด้านหลังถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตในลักษณะ Double-Bubble ซึ่งได้รับความนิยมนำมาใช้ในรถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น ส่วนด้านท้ายรถนอกจากไฟท้าย LED ทรงเรียวพร้อมไฟที่ถูกออกแบบเป็นเส้นยาวแล้วยังมาพร้อมกับช่องระบายอากาศทั้ง 2 ข้างของกันชนในแบบ 8 Series และทาง BMW ยังปิดท้ายความสปอร์ตภายนอกของ X6 ด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
ทาง BMW มีทางเลือกของเครื่องยนต์ 4 รุ่นใน X6 โดยเป็น 2 เครื่องยนต์เบนซินและ 2 เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์เบนซินมีรุ่นแรงสุดคือ X6 M50i ซึ่งใช้เครื่องยนต์ V8 4,400 ซีซี ทวินเทอร์โบ 530 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร ส่วนอีกรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่มีกำลังน้อยลงมาเป็น X6 xDrive40i ที่มากับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ในขณะที่ X6 M50d เป็นทางเลือกของรุ่นที่มีกำลังมากสุดของเครื่องยนต์ดีเซลจากการใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร โดยที่มี X6 xDrive30d กับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3,000 ซีซี ทวินเทอร์โบ 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตัน-เมตรเป็นอีกทางเลือกของเครื่องยนต์ดีเซล โดยทุกรุ่นเครื่องยนต์จะใช้เกียร์ Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4
ส่วนช่วงล่างของ X6 ที่รองรับการเดินทางด้านหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบนซึ่งมีโครงสร้างอลูมิเนียม ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 5-Link ซึ่งมีโครงสร้างเป็นเหล็กกล้าน้ำหนักเบา โดยที่มีช่วงล่าง Air Suspension พร้อมกับระบบปรับระดับอัตโนมัติเป็นทางเลือกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สำหรับผู้ที่ต้องสมรรถนะในแบบออฟโรดเพิ่มขึ้นทาง BMW มีออฟชั่นออฟโรดแพ็กเกจมาให้เลือกซึ่งจะประกอบด้วยช่วงล่าง Air Suspension, ระบบควบคุมเฟืองท้าย Differential M Sport และ 4 โหมดการขับบนเส้นทางออฟโรดสำหรับการเดินทางบนพื้นหิมะ ทราย กรวด หรือหิน แต่หากไม่สนใจการลุยต้องการสมรรถณะการควบคุมบนทางเรียบเพียงอย่างเดียวจะมีออฟชั่น Dynamic Handling แพ็กเกจมาให้เลือกซึ่งมาพร้อมกับกันโคลงแบบ Active, ระบบควบคุมพวงมาลัย Active และเบรก M Sport
ภายในห้องโดยสารของเอสยูวีคูเป้ขนาดกลางรุ่นใหม่จาก BMW ให้ความหรูจากการใช้เบาะสปอร์ตหนัง Vernasca และ Sensatec กับแผงแดชบอร์ด โดยที่มีจอขนาด 12.3 นิ้วเท่ากันทั้งสำหรับการแสดงข้อมูลด้านหลังพวงมาลัยแก่ผู้ขับและจอระบบ Infotainment รวมไปถึงมาพร้อมกับระบบผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant โดยรถมาพร้อมกับฮาร์ดไดร์ฟขนาด 20 GB สำหรับเก็บมัลติมีเดียต่างๆ และมีระบบกุญแจดิจิตอลซึ่งใช้สมาร์ทโฟนล็อกและปลอดล็อกรถด้วยเทคโนโลยี NFC มาให้เลือกใช้ ในขณะที่ความบันเทิงขณะเดินทางมีระบบเสียง Bowen & Wilkins Diamond Surround Sound เป็นออฟชั่นเสริม
ทาง BMW จะเปิดตัว X6 รุ่นใหม่ในงานแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์เดือนกันยายนนี้ จากนั้นจึงเริ่มการจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนโดยจะผลิตที่โรงงาน Spatanburg ที่เซ้าต์ แคโรไลน่าในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นศูนย์การผลิตรถเอสยูวีของ BMW ทั้ง X3, X4, X5 และ X7
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
[/expander_maker]