หากชื่นชอบเอสยูวีจากค่ายใบพัดฟ้าขาวแต่รู้สึกว่า X5 ยังเล็กเกินไไป หรูน้อยเกินไป ตอนนี้ BMW มีทางเลือกของเอสยูวีที่มีทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีความหรูมากขึ้น แถมยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อให้สมกับเป็นเอสยูวีรุ่นหรูสุดของตน จนมีสื่อสายรถยนต์ในอเมริกาเทียบ X7 ว่าใหญ่เทียบเท่ากับ Cadillac Escalade และหรูเทียบเท่ากับ Rolls Royce

ขนาดที่ว่าใหญ่ของ X7 มาจากมิติความยาว ของตัวถัง 5,151 มม. กว้าง 2,000 มม. สูง 1,850 มม. โดยที่มีระยะฐานล้อยาว 3,105 มม. ซึ่งมีมิติตัวถังบางด้านที่เหนือกว่า Cadillac Escalade แต่หากเทียบกับเอสยูวีฟูลไซส์จากคู่แข่งชาติเดียวกันแล้ว X7 มีตัวเลขที่มากกว่าในทุกมิติ ส่วนในด้านความหรูของ X7 เริ่มตั้งแต่ที่ภายนอกด้วยกระจังหน้าไตคู่โครเมียมที่ติดกันเป็นชิ้นเดียวขนาดใหญ่พร้อมมี Active Air Flaps เพื่อควบคุมการรับอากาศผ่านกระจังหน้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ไฟหน้าทรงยาวของ X7 มีไฟ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่เพิ่มความหรูในการส่องสว่างได้ด้วยไฟ BMW Laserlight ที่มีระยะการส่องสว่างถึง 600 เมตรหรือสองเท่าของไฟ LED โดยที่แสดงความแตกต่างจากไฟ LED มาตรฐานด้วยหลอดไฟสีฟ้ารูปตัว X และแน่นอนว่า X7 มาพร้อมไฟท้าย LED โดยที่ได้รับการออกแบบไฟเป็นสองส่วนในรูปทรงแนวยาว และเสริมความหรูด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้ว โดยที่มีขนาด 21 และ 22 นิ้วเป็นทางเลือก

ภายในห้องโดยสารของ X7 มาพร้อมเบาะนั่งสามแถวสำหรับ 7 ที่นั่งเป็นมาตรฐาน โดยทาง BMW อ้างว่าเบาะแถบที่สามเป็นขนาดฟูลไซส์ที่ให้ความสบายในการเดินทาง แต่หากต้องการความสบายเพิ่มขึ้นในเบาะแถวที่สองก็มีทางเลือกด้วยการเปลี่ยนเป็นเบาะแยกแบบแถวแรกได้ ทั้งความหรูและความสบายภายในห้องโดยสารของ X7 มาจากการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะใช้กระจกหน้า Acoustic เพื่อลดเสียงรบกวนโดยสามารถเลือกติดกระจกข้างทั้งหมดก็ได้ ส่วนวัสดุที่ใช้ในการแต่งรุ่นมาตฐานคือหนัง Vernasca และหลังคาเป็นกระจก Panoramic สามส่วนซึ่งทำให้ผู้นั่งเบาะแถวที่สามได้รับความรู้สึกที่โปร่งโล่งขณะเดินทางได้เช่นเดียวกับเบาะสองแถวหน้า รวมทั้งยังให้ความรู้สึกดีและสบายในขณะเดินทางระบบควบคุมอากาศอัตโนมัติสี่โซน พร้อมมีแพกเก็จ Ambient Air ช่วยให้กลิ่นหอมขณะเดินทางโดยมีให้เลือกแปดกลิ่น ขณะที่ไฟในห้องโดยสารมีหกสีของแสงให้เลือกและเพิ่มความหรูด้วยแสง Welcome Light Carpet ส่วนพื้นที่เก็บของสามารถขยายได้ตั้งแต่ 326 ลิตรจนถึง 2,120 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวที่สามและสองลง

ระบบความบันเทิงของ X7 หรูมาตั้งแต่เริ่มด้วยระบบเสียงสามมิติ Boewn & Wilkins Diamond 3D Surround Sound พร้อมลำโพง 20 ตัว พลังเสียง 1,500 วัตต์ และความบันเทิงที่เบาะหลังด้วยจอทัชสกรีนขนาด 10.2 นิ้วหลังเบาะแถวแรกทั้งสองเบาะ ขณะที่การแสดงข้อมูลสำหรับผู้ขับทำผ่านจอ 12.3 นิ้วคู่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมทั้งมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาดใหญ่ขึ้นและแสดงข้อมูลได้มากขึ้น

เอสยูสีรุ่นใหญ่สุดจาก BMW มีสี่ทางเลือกของเครื่องยนต์คือ สองรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน xDrive50i 462 แรงม้า, xDrive40i 340 แรงม้า และสองรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล xDrive30d และ M50d ซึ่งทุกรุ่นใช้ระบบส่งกำลัง Steptronic 8 สปีดสู่ล้อทั้งสี่หรือสองล้อหลัง พร้อมกับมีสี่โหมดการขับบนเส้นทางที่ท้าทายมาให้ในรุ่น xDrive คือ xSand, xGravel, xRocks และ xSnow แน่นอนว่าในเมื่อเป็นรุ่นใหญ่สุด หรูสุด XBMW X7 จึงถูกอัดมาด้วยการทำงานเพื่อช่วยในการขับและความปลอดภัยแพกเก็จ Driving Assinstant Professional ที่ประกอบด้วยการทำงานต่างๆ เช่นช่วยควบคุมพวงมาลัยและเลน, เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน, ระบบเตือนเมื่อข้ามทางแยก รวมทั้งระบบช่วยในการจอด

BMW จะเริ่มจำหน่าย X7 ในเดือนมีนาคม 2019 ซึ่งในตอนนั้นจะมีการทำงาน BMW Intelligent Personal Assistant รวมอยู่ในระบบปฏิบัติการของรถด้วย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th