ตอนที่ BMW เปิดตัว XM ออกมาพร้อมกำลัง 653 แรงม้า เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีบอกว่าในอนาคตจะมีรุ่น Label Red ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นออกมาเพิ่มอีก และตอนนี้รถเอสยูวีรุ่นที่มีสมรรถนะสูงขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐานได้ถูกเผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้ที่คิดว่ากำลังขับเคลื่อน 653 แรงม้าในรถรุ่นทั่วไปไม่เพียงพอ

BMW XM Label Red มาพร้อมกับการได้ตำแหน่งรถรุ่น M สำหรับใช้งานบนถนนสาธารณะที่มีกำลังมากที่สุดจากการใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบกำลัง 585 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ 1,800-5,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 145 kW หรือ 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 748 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตัน-เมตร ซึ่งมีกำลังมากกว่ารุ่นทั่วไปถึง 95 แรงม้าและมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 200 นิวตัน-เมตร ส่งผลให้ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดของรถซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. สามารถเพิ่มขึ้นเป็น 290 กม./ชม. ได้ด้วยออฟชัน M Driver’s Package

แม้จะมาพร้อมกำลังขับเคลื่อนที่สูงแต่ทางค่ายกังหันฟ้า-ขาวก็ระบุว่ารถเอสยูวีรุ่นแรงของตนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 1.7-1.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ขณะที่การใช้พลังงานไฟฟ้ามีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 34.5-33.0 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร และมีค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 39-35 กรัมต่อกิโลเมตร

ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนแรงดันสูงที่ถูกติดตั้งอยู่ใต้ตัวรถซึ่งเป็นผลผลิตเจเนเรชันที่ 5 ของเทคโนโลยีBMW eDrive โดยแบตเตอรีมีขนาด 25.7 kWh ให้ระยะการเดินทางได้ 75-83 กิโลเมตรโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้า และสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. เมื่อใช้เฉพาะพลังงานจากแบตเตอรีในการเดินทาง ส่วนการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีรองรับไฟกระแสสลับได้ถึง 7.4 kW ซึ่งทำให้ใช้เวลา 4.25 ชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟจาก 0-100 เปอร์เซ็นต์

รถรุ่น M ที่มีกำลังมากที่สุดสำหรับถนนสาธารณะยังมาพร้อมกับแชสซีส์เฉพาะสำหรับรุ่นซึ่งถูกปรับตามระบบขับเคลื่อน พร้อมมีช่วงล่างอแดปทีฟ M Suspension Professional ที่ประกอบด้วยแดมเปอร์ควบคุมด้วยอีเล็กทรอนิก กันโคลงแอคทีฟพร้อม Active Roll Comfort เพื่อลดการโคลงที่ด้านใดด้านหนึ่งของตัวรถ รวมทั้ง Integral Active Steering นอกจากนี้ยังมีระบบเบรก M Sport ที่ใช้คาลิเปอร์เบรก 6 ลูกสูบที่ล้อหน้า

ภายนอกของรถบ่งบอกถึงชื่อLabel Red ด้วยการใช้สีแดง Toranto Red ตามส่วนต่างๆ อย่างขอบกระจังหน้าไตคู่ ขอบกระจกหน้าต่างด้านข้าง ที่ Diffuser รวมทั้งที่ล้อ Light-alloy ขนาด 21 นิ้ว ร่วมกับการใช้สีดำเงาที่บางส่วนภายนอกรถอย่างกระจังหน้าและ Diffuser ส่วนสีของรถมีให้เลือก 1 สี Solid และ 8 สีเมทัลลิก

ห้องโดยสารจะมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเบาะ M มัลติฟังก์ชัน การแสดงข้อมูล M-specific บนจอ BMW Curved Display การแสดงข้อมูล Head-up Display หัวเกียร์ M และแผงควบคุม M-specific ที่คอนโซลกลาง ในขณะที่พวงมาลัยหนัง M แต่งด้วยแบล็กโครม โดยมีแป้นชิฟต์เกียร์คาร์บอนและเครื่องหมาย+/- สีแดง ส่วนด้านหลังเป็นเบาะ M Lounge รวมทั้งมีระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon และ Travel & Comfort System เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาพร้อมกับรถเช่นเดียวกับเทคโนโลยีช่วยขับต่างๆ และBMW Live Cockpit Professional

รถเอสยูวีรุ่นแรงถูกเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานเซียงไฮ้ออโตโชว์ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายของรถนอกเหนือจากสหรัฐอเมริกาและตะวันออกกลาง ส่วนการผลิตรถจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2023 ที่โรงงานในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับมีรถรุ่นพิเศษผลิตจำกัด 500 คันซึ่งมีภายนอกเป็นสีดำ Frozen Carbon Black Metallic ออกมาด้วย ส่วนราคาของรถยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th