BOSCH SM Mega Power แบตฯไฟแรงสำหรับรถทุกประเภท
เคยคิดว่าการเลือกใช้อุปกรณ์หรืออะไหล่ทดแทนจะใช้แบบไหนก็ได้ เอาราคาที่สู้ไหวหรือถูกๆ เอาไว้ก่อน แต่พอเอามาใช้งานจริงๆ แล้วกลับให้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม สุดท้ายแล้วเลือกใช้ของดีมีคุณภาพดีกว่า ครั้งนี้จึงมาขอแนะนำแบตเตอรี่ที่ได้ลองใช้แล้วถือว่ามั่นใจได้ในพลังไฟที่แรงสม่ำเสมอและให้ความเสถียร ไม่ต้องดูแลรักษาอะไรมากมายอีกด้วย
อย่างรถของผู้เขียนเองเป็นรถยนต์นิสสัน เซนทรา รุ่นปี 1992 (Nissan Sentra) หรือที่เรียกว่ารุ่น B13 เป็นรถที่ไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรเลย แถมยังถูกใช้งานเพื่อตระเวนทำข่าวทุกวันทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด แต่เชื่อหรือไม่ว่าเจ้า B13 คันนี้ยังคงใช้งานได้อย่างปกติ ด้วยการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอและเลือกใช้ของแท้ (หากยังพอหาได้) ส่วนสิ่งอื่นๆ ที่ช่วยทำให้รถคันนี้ยังคงฟิตเปรี๊ยะคงหนีไม่พ้นพละกำลังไฟฟ้าที่มาจากแบตเตอรี่นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนใช้แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นมาตลอด มีบางช่วงที่ใช้แบตฯ แห้ง (แบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น) แต่สุดท้ายกลับมาใช้แบตฯ แบบเดิม เพราะรู้สึกว่าแบตฯ จะไฟหมดเมื่อผ่านเข้า 1 ปี และมีช่วงหนึ่งได้ลองใช้แบตฯ ของบ๊อชซึ่งมีราคาสูงกว่าพอสมควรแต่ผลที่ได้นั้นคุ้มค่า ทั้งยังจ่ายไฟได้ค่อนข้างเสถียรและมีกำลังไฟในการสตาร์ที่แรงเป็นพิเศษ มีการคายประจุที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับแบตฯ ยี่ห้ออื่น และชาร์จไฟกลับเข้าแบตฯ ได้เร็วกว่าอีกด้วย แบตเตอรี่เยอรมันลูกนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ล่าสุดของลองของใหม่กับ BOSCH SM Mega Power แบตเตอรี่ที่ให้พลังการสตาร์ทที่สูง เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกประเภท ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์รุ่นเก่าที่ใช้กระจกแบบหมุนด้วยมือ บ๊อชได้ออกแบบแบตเตอรี่สำหรับใช้งานเอาไว้ครบทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดหรือรถเก่าที่มีอายุเกิน 20 ปี ก็สามารถใช้เทคโนโลยีของบ๊อชได้เช่นกัน แถมแบตฯ ลูกนี้ยังสามารชาร์ไฟได้อย่างรวดเร็ว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ความจุไฟฟ้าสูง และทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศอีกด้วย (อายุการใช้งานปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์ BOSCH จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 2 ปี หรือประมาณ 70,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งาน และรับประกันเฉลี่ย 1 ปี)
ข้อดี คือ มีความปลอดภัยสูงสำหรับใช้งานในทุกรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยี Double Fine Mesh Flame Trap, กล่องบรรจุมีความหนาแน่น ป้องกันการรั่วซึมของน้ำกรดได้ดี, ติดตั้งได้ง่ายๆ พร้อมหูจับที่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายยกไปไหนมาไหน, ไม่ต้องบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งไม่ต้องเติมน้ำกลั่นนั่นเอง และมีไฟแสดงสถานะกำลังไฟเป็นตาแมวที่อยู่ด้านบนของแบตฯ เพื่อให้รู้ว่าแบตฯ มีพลังไฟมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ แบตเตอรี่รถยนต์ทุกลูกมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้งานและประเภทของเทคโนโลยี แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ในรถยนต์เกิดความเสียหาย หรือชำรุด ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหากอุปกรณ์ควบคุมในรถยนต์เกิดการทำงานผิดพลาดระหว่างขับขี่บนท้องถนนด้วยเช่นกัน
แบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำจะต้องดูแลรักษาเป็นประจำเพื่อให้มีการทำงานที่สมบูรณ์และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยประมาณร้อยละ 50 ของแบตเตอรี่ประเภทนี้ จะมีการทำงานที่บกพร่องซึ่งเกิดจากสูญเสียน้ำกรด เนื่องจากขาดการดูแลรักษาหรือน้ำกรดระเหยจากความร้อนในห้องเครื่องยนต์ และจากสภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทย บ๊อช จึงได้สร้างแบตเตอรี่ที่มีการปิดผนึกป้องกันการระเหยและการสูญเสียน้ำกรดของน้ำกรดแบตเตอรี่จากสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น เป็นแบตเตอร์แบบแห้งรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
ส่วนการรักษาระดับประจุชาร์จไฟให้เต็มตลอดเวลามีความสำคัญ โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการกำลังไฟมาก และขับขี่ในระยะสั้น ยิ่งการใช้งานในเมืองอย่างในกรุงเทพเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว เนื่องจากมีระยะเวลาการชาร์จไฟกลับน้อย ดังนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์ทั่วโลกจึงเริ่มหันไปใช้แบตเตอรี่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการดูแลรักษา และสามารถชาร์จไฟกลับได้เร็วในระยะเวลาที่สั้น รวมถึงให้ประโยชน์ด้านความสะดวกสบาย พร้อมกับรองรับการใช้งานอุปกรณ์ภายในรถยนต์อย่างเช่นระบบนำทางและการชาร์จสมาร์ทโฟนในรถที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน
แบตเตอรี่ บ๊อช มีค่ากำลังไฟที่สูงกว่าจึงทำให้การสตาร์ทรถยนต์ทำได้นุ่มนวลและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการประจุชาร์จไฟกลับคืนเร็วกว่าและศักยภาพการชาร์จไฟสูงกว่าด้วยเช่นกัน ทำให้รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ดีกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ แบตเตอรี่ บ๊อช ยังมีตัวบ่งชี้ว่าค่าประจุไฟฟ้าอยู่ในระดับที่พร้อมใช้งาน และสิ่งสำคัญยิ่งกว่าก็คือ แบตเตอรี่ บ๊อช ยังมีคุณสมบัติป้องกันประกายไฟหรือเปลวไฟจากภายนอกไม่ให้ไหลย้อนกลับเข้าไปในแบตเตอรี่และเจอกับก๊าซที่ทำปฎิกิริยาภายในแบตเตอรี่ ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้นั่นเอง
บ๊อช ได้เริ่มผลิตแบตเตอรี่มาตั้งแต่ปี 1927 เพื่อเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำหรับเครื่องยนต์ นับแต่นั้นมาแบตเตอรี่ก็เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสามารถรองรับระบบต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกในรถยนต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบกระจกไฟฟ้า ระบบเบรก ABS เครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงการทำงานของถุงลมนิรภัย ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยในรถยนต์ อุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้มีความต้องการกำลังที่มากขึ้น บ๊อช จึงได้พัฒนาแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของรถยนต์สมัยใหม่ที่ต้องการพลังไฟฟ้าที่สูงขึ้น
สุดท้ายนี้ “ไม่ลองก็ไม่รู้” แต่สำหรับผู้เขียนที่ลองแล้วยอมรับว่าเป็นแบตเตอรี่ที่คุ้มค่าคุ้มราคา ที่สำคัญแม้ว่าจะเป็นแบตเตอรี่แบบแห้ง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แต่หน้าที่ของการดูแลรักษารถยนต์ให้ทำงานได้สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถ สิ่งที่ควรทำคือหมั่นดูแลให้ดี แล้วรถที่คุณรักจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ..ดูรถของผู้เขียนสิ ถึงข้างนอกจะดูเก่า แต่พร้อมใช้งานเสมอนะ ไม่ได้โม้.
เรื่อง/ภาพ : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th