ด้วยการที่ Lamborghini Huracan Sterrato เป็นรถซูเปอร์คาร์ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถลุยไปบนทางขรุขระได้ จึงทำให้ต้องใช้ยางที่มีคุณสมบัติเพื่อทำให้รถซูเปอร์คาร์รุ่นนี้สามารถไปได้บนทุกพื้นผิวถนน ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์จากอิตาลีจึงร่วมมือกับ Bridgestone ในการพัฒนายางออกมาสำหรับใช้ร่วมกับรถโดยเฉพาะ ซึ่งผลรับคือยาง Dueler AT002

ยาง Bridgestone Dueler AT002 ซึ่งมาจากความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตยางกับผู้ผลิตรถซูเปอร์คาร์อิตาลีสำหรับรัดอยู่ที่ล้อของ Lamborghini Huracan Sterrato เป็นยางออล-เทอร์เรนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีรันแฟลต (Run-Flat) ซึ่งถูกออกแบบเป็นพิเศษสำหรับใช้งานร่วมกับรถซูเปอร์คาร์ โดยทางผู้ผลิตยางระบุว่ายางถูกผลิตจากโพลีเมอร์คุณสมบัติต่างๆ ผสมผสานกันเพื่อสร้างคอมพาวด์ใหม่สำหรับการยึดเกาะพื้นผิวให้มากที่สุด พร้อมกับมีไหล่ยางที่ให้การยึดเกาะมากขึ้นในพื้นกรวดและโคลน ส่วนลายดอกยางถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสำหรับความเร็วสูงและการควบคุมรถโดยยังคงให้ประสิทธิภาพบนทางออฟโรดได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้หากยางรั่วผู้ขับยังสามารถขับรถเดินทางได้ต่อถึง 50 ไมล์หรือประมาณ 80 กิโลเมตรที่ความเร็วสูงสุดถึง 80 กม./ชม. โดยไม่มีลมยาง

คุณสมบัติข้างทั้งหมดของยางออล-เทอร์เรนรันแฟลตรุ่นแรกสำหรับรถซูเปอร์คาร์ยังมาพร้อมกับลักษณะของยางแก้มเตี้ยเพื่อการใช้งานในรถซูเปอร์คาร์ โดยยางถูกทำออกมา 2 ขนาดคือ 235/40 ZR19 สำหรับใช้กับล้อหน้าของ Hurancan Sterrato และมีความกว้างขึ้นเป็น 285 ซีรีส์สำหรับล้อหลังของรถ โดยนอกจากยางที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะนี้แล้ว ทางBridgestone ยังมียาง Bizzak LM005 เป็นออฟชันให้เลือกสำหรับเจ้าของ Huracan Sterrato ที่อยากนำรถซูเปอร์คาร์ออล-เทอร์เรนไปลุยพื้นหิมะด้วย

ก่อนหน้าความร่วมมือในการทำยางสำหรับ Huracan Sterrato ทั้ง Lamborghini และผู้ผลิตยางรายนี้เคยมีความร่วมมือเป็นพิเศษสำหรับ Huracan รุ่นต่างๆ ทั้ง STO, EVO และ Tecnica มาแล้ว ในขณะที่ยางออล-เทอร์เรนจากความร่วมมือล่าสุดทำให้ Bridgestoneเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์เนอร์ของ Lamborghini สำหรับรุ่น Huracan Sterrato

ทาง Steven De Bock รองประธานด้าน Consumer Replacement and OE ที่Bridgestone บอกว่า “กับยาง Dueler All-Terrain AT002 เราได้สร้างยางเป็นพิเศษโดยเฉพาะที่มีความสมบูรณ์แบบสำหรับเติมเต็มแนวคิดรถออล-เทอร์เรนความเร็วสูงของ Lamborghini Huracan Sterrato เราสร้างยางที่มีประสิทธิภาพรองรับความเร็วสูงบนทางเรียบ ขณะเดียวกันเมื่อขับไปบนทางออฟโรดก็ให้ทั้งความมั่นคงที่ความเร็วสูงไปพร้อมกับความสามารถด้านออฟโรด เหมาะกับความท้าทายต่างๆ ทั้งบนโคลน กรวด และสภาพต่างๆ”