บริดจสโตน ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าธุรกิจภายใต้ “Bridgestone E8 Commitment”
บริดจสโตน ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าธุรกิจภายใต้ “Bridgestone E8 Commitment” พร้อมสู่การเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนสู่ปี ค.ศ. 2050
บริดจสโตน ประเทศไทย ประกาศพร้อมเดินหน้าธุรกิจภายใต้“Bridgestone E8 Commitment” เจาะลึกคุณค่า 8 ด้านเพื่อบรรลุเป้าองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน สู่ปี 2050
บริดจสโตน ประเทศไทย แถลงความพร้อมสู่การเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนสู่ปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ประกาศวิสัยทัศน์พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจระยะกลาง-ยาวของกลุ่มบริดจสโตนให้บรรลุเป้าหมายผ่านการเจาะลึกคุณค่าทั้ง 8 ด้านของ “พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน” ซึ่งเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กรชูแนวคิดนำนวัตกรรมสร้าง “ความยั่งยืน” ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการขาย ต่อยอดความไว้วางใจของลูกค้า พร้อมส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า เพื่อให้เป็นต้นทุนการเติบโตทางธุรกิจ และนำไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
นายเคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด เผยว่า “บริดจสโตนได้กำหนดให้ปี พ.ศ.2563 เป็นปีแรกของ Bridgestone 3.0 โดยวางเป้าหมายเรื่อง “ความยั่งยืน” เป็นแกนกลางในการกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจระยะกลาง-ยาวเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณค่าเพื่อสังคมและและลูกค้าสู่ปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน ดังนั้นเพื่อรุดหน้าสู่การยกระดับและบรรลุถึงวิสัยทัศน์นี้ จึงมีการประกาศ “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” เพื่อเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารซึ่งจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่าน “เจตจำนง” และ “กระบวนการทำงาน” ร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้าเพื่อสร้างสรรค์ความยั่งยืนให้สังคมต่อไป”
ทั้งนี้ คุณค่าทั้ง 8 ด้านของ “Bridgestone E8 Commitment” ถูกกำหนดขึ้นจากพันธกิจ และดีเอ็นเอของ บริดจสโตน ที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “E” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมโยงกับทุกแง่มุมของธุรกิจในแบบฉบับของ บริดจสโตนบนพื้นฐานของความยั่งยืนเพื่อการรักษาและได้มาซึ่ง “ความไว้วางใจของลูกค้า” รวมถึงเป็นแนวทางในการตัดสินใจ การพัฒนา และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ การบริการ โซลูชั่นด้านการเดินทาง รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า สำหรับบริดจสโตน ประเทศไทย เราดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในรายละเอียดประกอบด้วย
- Energy (พลังงาน)
สังคมแห่งการเดินทาง ต้องเป็นกลางทางคาร์บอน – เรามุ่งเน้นอย่างจริงจังที่จะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ผ่านทางห่วงโซ่คุณค่าของบริดจสโตน ซึ่งนั่นหมายถึงคำนึงถึงการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่กระบวนการการผลิตจนถึงการขาย เมื่อปลายปี พ.ศ. 2564 บริดจสโตนได้ใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครั้งแรกที่บริษัท บริดจสโตน ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดชลบุรี เพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตภายในโรงงานผลิตยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร
- Ecology (สิ่งแวดล้อม)
ตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อสิ่งแวดล้อม – ริเริ่มการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านห่วงโซ่คุณค่าของบริดจสโตน
นั่นก็คือการผลิตและการขาย โดยเน้นถึงคุณค่าของการใช้ยางรถยนต์และเมื่อถึงเวลาของการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ โดยมี “ENLITEN” หนึ่งในเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตนในการพัฒนายางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
- Efficiency (ประสิทธิภาพ)
ดีขึ้นได้อีก เพิ่มผลผลิตขึ้นได้อีก – เพื่อขีดสุดของความสามารถในการผลิตสินค้าที่ดีที่สุดของวงการยางรถยนต์ มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านห่วงโซ่อุปทานของ บริดจสโตน โดยพัฒนาและส่งมอบสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตอันล้ำหน้าของบริดจสโตน เช่น โปรแกรม Toolbox (ทูลบ็อกซ์) หนึ่งในโปรแกรมการบริหารจัดการยางแบบมืออาชีพของบริดจสโตน (B-Solution) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งานกลุ่มยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง
- Extension (การเติบโต)
เพราะโลกไม่เคยหยุด เราต้องไปให้สุดด้วยนวัตกรรม – จุดพลังแห่งการเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยืดหยัดด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำของตลาดยางรถยนต์ ที่คิดค้นมาทั้งเรื่องผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นเพื่อตอบทุกโจทย์ของสังคมแห่งการเดินทาง โดยมุ่งเน้นเรื่องนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่จะทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้ซึ่งปัจจุบันมี ค็อกพิท (Cockpit) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร และ Bridgestone Truck Tire Center (ศูนย์บริการยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์บริดจสโตน) และ Bridgestone Fleet Point (จุดบริการยางรถบรรทุกและรถโดยสาร ภายใต้เครื่องหมายการค้าแบรนด์บริดจสโตน)
- Economy (เศรษฐกิจ)
ดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปได้สุด – สะท้อนการดำเนินธุรกิจผ่านห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มคุณค่าทางการให้คุณค่าระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอกย้ำความเป็นองค์กรชั้นนำของบริดจสโตน เช่น การปรับปรุงเรื่องต้นทุน ทั้งในมิติของลูกค้าและองค์กร ได้แก่ กระบวนการผลิตยางหล่อดอกเรเดียล เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ
- Emotion (ความรู้สึก)
ปลุกพลังบันดาลใจ เติมเชื้อไฟแห่งความตื่นเต้นสู่โลกแห่งการเดินทาง – เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนเรื่องท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต กีฬา และอื่น ๆ เช่น
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Bridgestone POTENZA SPORT ยางสปอร์ตพรีเมียมใหม่ล่าสุด ภายใต้สโลแกน “ความเป็นที่สุด หยุดเราไม่ได้” หรือ “Better Never Settles” และการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในรายการ Bridgestone World Solar Challenge
- Ease (ความสะดวกสบาย)
ทุกการเดินทาง จะสร้างความสุขได้มากกว่าเดิม – หลักการที่บริดจสโตนยึดมั่นมาตลอด คือ “ยางดูแลชีวิต” เราจะให้ทุกการเดินทางของคุณ มีแต่ความสุขสงบและสบาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ภายใต้การดำเนินธุรกิจยางล้อเครื่องบินอย่างครบวงจรที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้แก่ ยางล้อเครื่องบิน ยางหล่อดอกล้อเครื่องบิน และงานบริการที่ส่งตรงถึงลูกค้าทั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินและธุรกิจสายการบิน ซึ่งเป็นจุดแข็งของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับธุรกิจการบิน
- Empowerment (พลังทางสังคม)
ผลักดันสังคมเพื่อความเท่าเทียม – สนับสนุนความหลากหลาย ยอมรับความแตกต่าง สนับสนุนความเสมอภาค ลดช่องว่างการเลื่อมล้ำเพื่อทำให้มั่นใจว่า ทุกชีวิตจะมีการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน และรวมพลังแก้ปัญหาสังคมโดยการอยู่เคียงข้างและรับฟังปัญหาจากชุมชนอย่างแท้จริง ภายใต้กิจกรรมเพื่อสังคมที่บริดจสโตนจัดขึ้น อาทิ โครงการ Bridgestone Global Road Safety (บริดจสโตน โกลบอล โรด เซฟตี้) ด้วยการเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง
“เราเชื่อมั่นว่า “Bridgestone E8 Commitment” จะช่วยให้บริดจสโตนบรรลุเป้าสู่การเป็นองค์กรเพื่อส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน เพราะบริดจสโตนไม่เพียงสร้างมูลค่าในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเท่านั้น แต่เรายังมองไกลไปถึงการสร้างมูลค่าต่อเนื่องจากการใช้ยางให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ในธุรกิจที่กำลังเติบโต เช่น ธุรกิจโซลูชั่นที่กำลังเติบโต รวมไปถึงการมุ่งหาธุรกิจใหม่ ๆ (Exploration Business) เกี่ยวกับรีไซเคิล เช่น การนำโครงยางเก่ามาหล่อเพื่อยืดอายุการใช้งาน เพราะยางเรเดียลยังคงมีค่าแม้จะผ่านการใช้งานไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับหลักการความยั่งยืนของบริดจสโตน
นอกจากนี้ การที่บริดจสโตนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 91 ปีที่แล้ว และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 55 ปี ทำให้แบรนด์บริดจสโตนแข็งแกร่ง มีศักยภาพครอบคลุมทั้งในด้านการผลิต การขายสินค้า และบริการผ่านเครือข่ายทั่วโลก มีการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการผ่านดิจิทัล ทำให้เกิดความใกล้ชิดกับลูกค้า ทำให้เข้าใจและปรับแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ตรงตามความต้องการ และหากมอง “แบรนด์” ในมุมที่กว้างขึ้น หมายถึง ความไว้วางใจ การได้ใกล้ชิดและติดตามปัญหาของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแก่นแท้ของพันธกิจตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท นั่นคือ “รับใช้สังคมด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า” เราจะยังคงยึดมั่นและพัฒนาต่อไปในขอบเขตและความหมาย เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคมและสภาพทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งความไว้วางใจนี้ถือเป็นทรัพย์สินที่มีคุณค่า นำไปสู่การเติบโตในธุรกิจ ดังนั้น บริดจสโตนจึงพร้อมแล้วที่ก้าวไปสู่ขั้นต่อไปในพันธสัญญาของเรา ด้วยการยกระดับสู่ความเหนือกว่า เพราะคุณค่าบนพื้นฐานแห่งความยั่งยืนที่บริดจสโตนตั้งใจส่งมอบให้กับสังคมและลูกค้าจะกลายเป็นแหล่งที่มาของการเติบโตทางธุรกิจ และนำไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก” นายเคอิจิ ชูมะ กล่าวทิ้งท้าย