Polestar 2 BST Edition 230 รุ่นผลิตจำกัดเน้นรายละเอียดด้านสมรรถนะ รวมทั้งเลือกแต่งได้
Polestar 2 มีรุ่นผลิตจำกัดในชื่อ BST Edition 230 ออกมาอีกครั้ง ซึ่งถูกระบุว่ามาพร้อมกับการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ที่เน้นสมรรถะของรถ รวมทั้งยังให้ผู้ซื้อเลือกแต่งรถทั้งสี และกราฟฟิกได้ โดยมีการผลิตจำกัด 230 คันสำหรับยุโรปและอเมริกาเหนือตามเลขในชื่อรุ่นพิเศษ
Polestar 2 BST Edition 230 มาในสไตล์ที่แตกต่างจากรถรุ่นพิเศษชื่อเดียวกันที่ต่อท้ายด้วยเลข 270 และผลิต 270 คันเมื่อปีที่แล้ว ด้วยสีภายนอกรถที่ต่างออกไปรวมทั้งในส่วนกระจังหน้าซึ่งเป็นไปตามการปรับโฉมของรถรุ่นปกติเมื่อเร็วๆ นี้ โดยในส่วนของกระจังหน้ารถถูกระบุว่ามีการติดตั้ง SmartZone เพิ่มเข้าไป แต่ก็เลือกติดกระจังหน้าแบบเดิมของรถได้หากผู้ซื้อต้องการ
สำหรับสีของรถรุ่นพิเศษมีเฉดสีเขียว Green Nebular ใหม่หรือสีดำ Space Black ให้เลือก ซึ่งทั้ง 2 สีมีแถบสีดำด้านตั้งแต่กลางฝากระโปรงหน้าถึงฝาท้ายของรถพร้อมเลข 2 บนฝากระโปรงหน้าเป็นออฟชันให้เลือกติดเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีล้ออัลลอย BST-exclusive สีดำขนาด 21 นิ้วและคาลิเปอร์เบรกสีทองด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ส่วนในห้องโดยสารมีการแทรกสิ่งทอ MicroSuede ซึ่งผลิตโดยมีบางส่วนมาจากการรีไซเคิลหนัง Nubuck ที่เบาะและพวงมาลัย พร้อมมีเข็มขัดนิรภัยสีทองตัดกับการแต่งด้วยสีดำในห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างแพกเก็จ Plus ทำให้มีหลังคากระจกพาโนรามิก และระบบเสียงพรีเมียม Harman Kardon รวมทั้งแพกเก็จ Pilot ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอย่างระบบช่วยขับ ไฟหน้า Pixel LED กล้อง 4 ตัวสำหรับการดูภาพ 360 องศา รวมทั้งสิ่งอื่นๆ เป็นอุปกรณ์มาพร้อมกับรถ
ด้านสมรรถนะของรถไม่แตกต่างจากรถรุ่นพิเศษที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังรวม 476 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร ทำให้ใช้เวลา 4.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. อย่างไรก็ตามรถรุ่นพิเศษเน้นสมรรถนะกลับมาพร้อมกับแบตเตอรี 78 kWh แทนแบตเตอรี 82 kWh ในรถรุ่นปกติที่ได้รับการอัพเดตไป จึงทำให้มีระยะการเดินทาง 460 กิโลเมตรต่อการชาร์จเหมือนกับรถรุ่นพิเศษที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว
ในส่วนช่วงล่างของรถน่าจะยังคงเป็น BST-specific ซึ่งทำให้รถสูงน้อยกว่ารถมาตรฐาน 25 มม. พร้อมใช้แดมเปอร์ Ohlins ปรับได้ 2 ทาง ใช้สปริงและสตรัตบาร์ที่ด้านหน้าทนต่อการบิดตัวเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนยางที่มากับรถเป็น Pirelli P Zero ขนาด 245/35R21 ที่พัฒนาสำหรับรถรุ่น BST โดยเฉพาะ
รถซีดานไฟฟ้ารุ่นพิเศษเน้นสมรรถนะที่ถูกผลิตจำกัด 230 คันสำหรับขายในปีนี้ถูกตั้งราคาไว้ที่ 81,000 ยูโร โดยหากต้องการแถบสีดำด้านบนตัวรถต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,000 ยูโร และจะเริ่มส่งมอบรถได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th