Bugatti Centodieci การตีความใหม่จาก EB110
เป็นอีกครั้งที่ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากฝรั่งเศส Bugatti สร้างความสนใจด้วยรถดีไซน์สวยพร้อมสมรรถนะสูง และแน่นอนว่ามีราคาแพงในระดับไม่ธรรมดา โดยที่มาของชื่อ Centodiece ที่ Bugatti เพิ่งเปิดตัวออกมาเป็นคำภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า 110 เนื่องจากไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดจาก Bugatti นี้ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก EB110 ที่ถูกทำออกมาในปี 1991 ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นรถยนต์มีความโดดเด่นและความเร็วสูงสุดในช่วงเวลานั้น รวมทั้งปีที่ EB110 ถูกผลิตออกมายังเป็นปีครบรอบวันเกิด 110 ปีของ Ettore Bugatti ด้วย แน่นอนว่าด้วยความเป็นมาที่พิเศษนี้ทำให้ Centodieci ย่อมมาพร้อมความโดดเด่นทั้งดีไซน์และสมรรถนะ
ด้านสมรรถนะ Centodieci ใช้เครื่องยนต์ W16 8,000 ซีซี เหมือน Chiron แต่สามารถสร้างกำลังได้ 1,600 แรงม้าซึ่งมากกว่า Chiron 100 แรงม้า โดยกำลังที่มากขึ้นส่งผลให้ Centodieci ใช้เวลา 2.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 6.1 วินาทีสำหรับการทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. และสามารถทะลุถึง 300 กม./ชม. ด้วยเวลา 7 วินาที ในขณะที่ความเร็วสูงสุดของรถถูกจำกัดไว้ด้วยอีเล็กทรอนิกที่ 380 กม./ชม.[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
สมรรถนะที่สูงของ Centodieci ไม่ได้มาจากเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมาจากการลดน้ำหนักของรถลงจนเบากว่า Chiron 20 กิโลกรัมจากการใช้วัสดุน้ำหนักเบาหลากหลายส่วนของรถซึ่งรวมไปถึงที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าและกันโคลงเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ด้วย
เนื่องจากได้แรงบรรดาลใจมาจาก EB110 ดังนั้นรถจึงถูกออกแบบเพื่อให้ชวนให้คิดถึงซูเปอร์รุ่นนี้พร้อมกับผสานความงามในยุคใหม่ที่ปรากฏใน Chiron ด้วย ทำให้ด้านหน้าของรถจึงยังคงมีกระจังหน้าทรงเกือกม้าแบบ Chiron แต่มีขนาดเล็กลง พร้อมกับมีครีบแนวนอนเหมือนที่มีใน EB110 ในขณะที่ไฟหน้า LED ของรถถูกแม้จะถูกออกแบบให้มีความเรียวยาวแต่ก็รวมไฟ Daytime Running Light เอาไว้ด้วย
นอกจากนี้รูปทรงของ Centodieci ยังถูกออกแบบให้เป็นลิ่มเหมือน EB110 รวมไปถึงมีรายละเอียดบนตัวรถที่มาจาก EB110 ทั้งช่องดักอากาศทรงกลมด้านหลังกระจกข้างของรถเหมือนที่มีใน EB110 แทนช่องดักอากาศหน้าซุ้มล้อหลังแบบ Chiron และเส้นด้านข้างของรถที่เฉียงขึ้นด้านหลัง อย่างไรแม้จะเต็มไปด้วยรายละเอียดจาก EB110 แต่ด้านหลังของรถได้รับการออกแบบให้มีความดุดันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองทั้งไฟท้ายแบบลอยตัว สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ Diffuser และปลายท่อไอเสียคู่ที่เรียงในแนวตั้งทั้ง 2 ฝั่ง
แม้จะเกี่ยวข้องกับเลข 11 แต่ Bugatti จำกัดการผลิต Centodieci ไว้ที่ 10 คัน โดยตั้งราคาไว้ที่คันละ 8.9 ล้านยูโร หากมีเงินพอแล้วอยากเป็นเจ้าของไม่ต้องกังวลว่าจะจองไม่ทัน เพราะ Centodieci ทั้ง 10 คันมีเจ้าของหมดแล้ว
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]