Bugatti เผยโฉม Tourbillon ไฮเปอร์คาร์ 2 ที่นั่งรุ่นใหม่มาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดใหม่ เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ W16 ที่ประจำการในรถของตนมานานเป็นเครื่องยนต์ V16 ร่วมกับ 3 มอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมเสริมความหรูในห้องโดยสารด้วยเรือนไมล์จากผู้ผลิตนาฬิกาสวิสส์ โดยมีการผลิตจำกัดแค่ 250 คัน

Bugatti Tourbillon มีขุมกำลังเป็นระบบไฮบริดใช้เครื่องยนต์ V16 8.3 ลิตรไร้ระบบปรับอากาศทำงานได้สูงสุด  9,000 รอบ/นาที มีกำลัง 1,000 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ร่วมกับ 3 มอเตอร์ไฟฟ้าที่แต่ละตัวมีกำลัง 250 kW โดยอยู่ที่เพลาหน้า 2 มอเตอร์และเพลาหลัง 1 มอเตอร์ ให้กำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบ 1,800 แรงม้า พร้อมใช้ระบบส่งกำลัง Longitudinal ดูอัลคลัตช์ 8 สปีดเพื่อนำกำลังสู่ทุกล้อของรถ

ในด้านความเร็วของรถทางผู้ผลิตระบุว่าใช้เวลา 2.0 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ไปถึงความเร็ว 300 กม./ชม. ด้วยเวลาไม่ถึง 10 วินาที และไปถึง 400 กม./ชม. ภายในเวลาไม่ถึง 25 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดของรถถูกจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม. แต่สามารถปลดล็อกไปถึง 445 กม./ชม. ได้ด้วย Speed Key

จากตัวเลขแรงม้าและความเร็วหมายความว่ารถไฮเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นใหม่ไม่เพียงมีแรงม้ามากกว่า Chiron ที่มีกำลังขับเคลื่อน 1,500 แรงม้าเท่านั้น แต่ยังมากกว่า Chiron Super Sport ที่มีกำลัง 1.600 แรงม้าด้วย รวมทั้งทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เร็วกว่า Chiron 0.4 วินาที ขณะที่การทำความเร็วจาก 0-300 กม./ชม. รถรุ่นใหม่ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อน 3-4 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดตามปกติของรถแม้จะเท่ากับรุ่นก่อนหน้า แต่หากใช้ Speed Key จะทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่ารุ่นก่อน 25 กม./ชม.

นอกจากมีความเร็วแล้ว เนื่องจากเป็นรถไฮบริดจึงทำให้สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าจากแบตเตอรี 800V ระบายความร้อนด้วยน้ำมันความจุ 24.8 kWh ของรถได้มากกว่า 60 กิโลเมตรจากการระบุของผู้ผลิต

รถไฮเปอร์คาร์ไฮบริดถูกสร้างขึ้นบนแชสซีส์และโครงสร้างใหม่หมด โดยโครงสร้างของรถเป็นคาร์บอนคอมโพสิต T800 เจเนเรชันใหม่ พร้อมกับใช้หลายนวัตกรรมเพื่อลดน้ำหนักรถ และช่วงล่างที่มีน้ำหนักเบา ทำให้รถมีน้ำหนัก 1,995 กิโลกรัม

เพื่อให้สมกับชื่อรุ่นของรถที่เหมือนกับกลไกนาฬิกาที่ถูกประดิษฐ์มายาวนานและใช้ในนาฬิกาหรูราคาแพง ห้องโดยสารของรถจึงมีเรือนไมล์ที่ถูกออกแบบและสร้างโดยผู้ผลิตนาฬิกาสวิสส์ที่มีเชี่ยวชาญ มีโครงสร้างและกว่า 600 ชิ้นส่วนเป็นไทเทเนียม ร่วมกับอัญมนีอย่างแซฟไฟร์และทับทิม พร้อมเผยให้เห็นกลไกภายใน โดยเรือนไมล์ที่ดูเหมือนนาฬิกาหรูถูกติดไว้ที่แกนพวงมาลัย

อีกจุดเด่นในห้องโดยสารคือคอนโซลกลางที่ถูกออกแบบโดยใช้ทั้งกระจกคริสตัลและอลูมินัมร่วมกัน โดยกระจกที่ใช้ถูกผลิตจาก 13 ชั้นตอนเพื่อให้ความมั่นใจว่ามีความใสเคลียร์อย่างสมบูรณ์พร้อมมีความแข็งแกร่งและปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในขณะที่อลูมินัมมาจากโลหะชิ้นเดียว อย่างไรก็ตามนอกจากความหรูและคลาสสิกแล้ว รถยังมีจอดิจิตอลความละเอียดสูงที่ถูกซ่อนไว้จนกระทั่งต้องการใช้งานสำหรับแสดงข้อมูลของรถเหนือคอนโซลกลางพร้อมมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

ภายนอกของรถถูกระบุว่ามี Diffuser แนวคิดใหม่เพื่อสร้างสมดุลย์ที่สมบูรณ์ให้กับรถ รวมทั้งมีปีกหลังที่ยกตัวขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ในขณะที่ด้านหน้าของรถมีศูนย์กลางอยู่ที่กระจังหน้า Horseshoe ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นสายต่างๆ บนรถ อย่างไรก็ตามนอกจากจำนวนการผลิตที่จำกัดแค่ 250 คันแล้ว ทางผู้ผลิตไม่ได้ระบุราคารถออกมา

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th