เรเว่ฯ ย้ำเซอร์วิส Dolphin ไม่ซ้ำรอย Atto 3-เตรียมเปิดตัวอีก 1 รุ่นดันยอดขายปี 66 ทะลุ 50,000 คัน
ผู้บริหารเรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ยืนยันความพร้อมบริการหลังการขายของ Dolphin รถยนต์แฮตช์แบ็กไฟฟ้ารุ่นใหม่ ไม่เกิดปัญหาซ้ำรอยกับ Atto 3 อย่างแน่นอน พร้อมเล็งเปิดตัวอีก 1 รุ่นใหม่ดันยอดขายปี 2566 ทะลุ 50,000 คัน
หลังจากความสำเร็จของ BYD Atto 3 ที่เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยมียอดขายรวมมากกว่า 15,000 คัน แต่ประสบปัญหาด้านบริการหลังการขาย จนกลายเป็นประเด็นหลายครั้งบนโซเชียลมีเดีย ทำให้ทางทีมผู้บริหารเรเว่ ออโตโมทีฟ เร่งจัดการแก้ไข และมีการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บอะไหล่เพื่อรองรับการเปิดตัวของ Dolphin ที่อยู่ในเซกเมนต์ซับคอมแพ็กต์ซึ่งมีฐานลูกค้าที่ใหญ่กว่า
คุณประธานวงศ์ พรประภา (ขวา) และ คุณประธานพร พรประภา 2 ผู้บริหารบริษัทเรเว่ ออโตโมทีฟ
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยถึงความพร้อมของ After-Sale Service ล่าสุดว่า “เอาเป็นว่าตอนนี้เราพร้อมกว่าช่วงเปิดตัว Atto 3 เราต้องยกระดับการทำงานขึ้นมา ก่อนจะเปิดตัว Atto 3 เราก็คิดว่าเตรียมความพร้อมอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมียอดขายสูงกว่า 10,000 คันในเวลาที่รวดเร็วขนาดนั้น ปัญหาที่เราเจอพอขายรถออกไปเยอะคือสต็อกชิ้นส่วนที่เตรียมเอาไว้ เราต้องยอมรับว่าประสบปัญหาขาดแคลนอะไหล่จริงๆ”
“แต่ตอนนี้จากที่เห็นในหลายแพล็ตฟอร์มลูกค้าที่เข้าไปแสดงความเห็นได้รับการแก้ไขปัญหาสำเร็จ และใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในหลายๆ เคส เราเรียนรู้จาก Atto 3 มากพอสมควร ทำให้พอมาถึง Dolphin ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีตลาดใหญ่กว่า Atto 3 เราเตรียมความพร้อมในระดับของตัวเลขยอดขายที่เราจะทำได้จริง และมีการสต็อกเผื่อเอาไว้ เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ต้องเรียนตามตรงว่าถึงจะจัดการจนเรียบร้อย แต่ตอนนั้นเรามีปัญหาจริงๆ”
เล็งเปิดตัว 1 รุ่นใหม่ก่อนสิ้นปีดันยอดขายทะลุ 50,000 คัน
การเปิดตัว Dolphin ที่มีราคาเริ่มต้นในรุ่น Standard Range 699,999 บาท ทำให้เรเว่ ออโตโมทีฟ ตั้งเป้าหมายทำยอดขายเป็นอันดับ 1 ในเซกเมนต์รถยนต์ไฟฟ้าซับคอมแพ็กต์ โดยคุณประธานวงศ์ ให้ความเห็นว่า “สำหรับ Dolphin เราคาดหวังยอดขายจนถึงสิ้นปี 2566 ประมาณ 30,000-40,000 คัน โดยเราพร้อมจะส่งมอบในช่วงแรก 1,200 คัน ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และรถจะเริ่มทยอยส่งเข้ามาล็อตละ 500 คัน”
“คู่แข่งในเซกเมนต์ของ Dolphin จะรวมถึงรถยนต์น้ำมัน และปลั๊ก-อิน ไฮบริด การขึ้นเบอร์หนึ่งของเป้าหมายของเรา แต่ไม่ใช่ว่าเปิดขายแล้วจะทำได้ทันที คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง การจะเข้าสู่เซกเมนต์ใดก็ตาม BYD มีความทะเยอทะยานจะเป็นอันดับ 1 และอยากไปถึงตรงนั้นให้เร็วที่สุดเสมอ”
อย่างไรก็ตามเพื่อไปถึงเป้าหมายยอดขาย 50,000 คันในปี 2566 ผู้บริหารเรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยว่ามีแผนเปิดตัวอีก 1 โมเดลใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามที่ตั้งเอาไว้ โดยทีมงาน Grand Prix Online คาดการณ์ว่าจะเป็น Seal ซีดานสไตล์ฟาสต์แบ็กที่อยู่ในกลุ่ม Ocean Series ร่วมกับ Atto 3 และ Dolphin โดยรุ่นสแตนดาร์ดขับเคลื่อนล้อหลังมีกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 201 แรงม้า และระยะการขับไกล 550 กม./ชาร์จ (ตามมาตรฐาน CLTC) และเคยมาโชว์ตัวให้คนไทยได้สัมผัสคันจริงระหว่างงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
จับมือ SHARGE เดินหน้าสร้าง EV ECOSYSTEM
ในงานแถลงข่าวเปิดตัว BYD Dolphin เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรเว่ ออโตโมทีฟ มีการประกาศความร่วมมือกับบริษัทชาร์จ แมเนจเม้นท์ (SHARGE) เพื่อร่วมสร้าง EV Charging Ecosystem ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน โดยเปลี่ยนสถานี SHARGE ทั้งหมดเป็น RÊVERCHARGER ให้กระจายทั่วประเทศไทย เช่น คอนโดมิเนียม, หมู่บ้าน, โรงแรม, สถานที่ทำงาน, ห้างสรรพสินค้า, ปั๊มน้ำมัน, สถานที่ใช้สอยผสมผสาน และโชว์รูม BYD โดยกำหนดเป้าหมายการติดตั้งหัวชาร์จไฟฟ้าเพิ่มเติมให้ได้ครบ 1,100 หัว ภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อให้บริการเชิงรุก และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ
คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยว่า “หากมองตามความเป็นจริงแล้ว หลายคนคงทราบว่าลูกค้าที่ซื้อ Dolphin จะพักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม ตอนนี้ในประเทศไทยมีหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 4,000 หัวชาร์จ ทำให้เราจับมือกับ SHARGE เพื่อเพิ่มจำนวนหัวชาร์จให้ได้ 14 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปีนี้”
“ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลของผู้ซื้อ เราจะเห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้ Atto 3 จะมีบ้านการที่เราให้อุปกรณ์ชาร์จไฟไปติดที่บ้านสร้างความสะดวกสบายให้พวกเขา แต่การเปิดตัว Dolphin ที่เป็นอีกตลาดหนึ่ง เราพิจารณาว่าคนที่อยู่คอนโดมิเนียมจะมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน เป็นเหตุผลที่เราปรับแต่ง Rever Care ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดมากขึ้น”
นอกจากนี้ทางเรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยแผนการสร้างสังคมใหม่ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยผ่านนวัตกรรมสีเขียว โดยคุณประธานพร ให้ข้อมูลว่า “เราได้ก่อตั้งโครงการคาร์บอนเครดิต “RÊVERLUTION Initiative” เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการดำเนินการตามแผน NDC ของประเทศไทยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยผู้ขับขี่ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและขับเคลื่อนโลกของเราสู่สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน สะท้อนกลับไปเป็นสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้รถ BYD ทุกคันอีกด้วย”
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท* และ Extended Range ราคา 859,999 บาท* ทุกคันมาพร้อมสิทธิพิเศษ Rêver Care ออกรถเริ่มต้นเพียง 35,000 บาทหรือดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.88%, ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี, การรับประกันตัวรถ และแบตเตอรี่ระยะเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร, บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงระยะเวลา 8 ปี, สายต่อพ่วง VtoL และสายชาร์จฉุกเฉิน, ค่าจดทะเบียนรถ, พรมเข้ารูป+กรอบป้ายทะเบียน+ฟิล์มหน้าจอ และผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ยังได้รับสิทธิ์ในการซื้อโฮมชาร์จเจอร์พร้อมการติดตั้งเพียง 25,000 บาท (จากราคา 35,000 บาท) เท่านั้น
*ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: เรเว่ ออโตโมทีฟ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th