BYD เปิดตัว Dolphin ที่บราซิลปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงตอนนี้แม้รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้ารุ่นนี้จะกวาดยอดขายไปแล้วกว่า 5,000 คัน แต่ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากจีนยังรุกตลาดต่อเนื่องด้วยการ เพิ่มเกรด Plus และ Diamond ให้เลือก

BYD Dolphin เพิ่มเกรด Plus และ Diamond

BYD Dolphin Plus เพิ่มความดึงดูดใจผู้ซื้อด้วยการมี 4 สีทูโทนสำหรับภายนอกให้เลือกคือสีฟ้า Surf Blue กับสีเทา Dolphin Grey, สีดำ Delan Black กับสีเทา Atlantis Grey, สีชมพู Afterglow Pink กับสีเทา Dolphin Grey และสีขาว Ski Grey กับสีเทา Dolphin Grey

ส่วนการขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร โดยใช้แบตเตอรี Blade 60.48 kWh ให้พลังงานสำหรับการเดินทาง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ใช้เวลา 7 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม.

ห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับจอทัชสกรีนตรงกลางหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้วพร้อมระบบ Intelligent Cockpit ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto สามารถควบคุมการทำงานของรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนได้ และรองรับการอัปเดต Over-the-air นอกจากนี้ยังมีหลังคาซันรูฟเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีระบบ Vtol สามารถจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน, ตรงจจับมุมบอด, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน และระบบตรวจจับป้ายควบคุมความเร็ว

สำหรับเกรด Diamond มาพร้อมกับความเข้มด้วยภายนอกสีดำล้วน ส่วนสเปกอื่นๆ เหมือนกับเกรดพื้นฐานที่เปิดตัวออกมาช่วงกลางปี ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้า แรงบิด 180 นิวตัน-เมตรขับเคลื่อน มาพร้อมแบตเตอรี Blade 44.9 kWh ให้ระยะการเดินทาง 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และใช้เวลา 30 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 30-80 เปอร์เซ็นต์เมื่อชาร์จแบบเร็ว

ส่วนราคาของรถเกรด Plus อยู่ที่ 179,800 เรียล ขณะที่เกรด Diamond ราคา 149,800 เรียลหรือประมาณ 1,288,000 บาทและ 1,073,000 บาทตามลำดับ

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th