เคลือบสีรถควรเลือกแบบไหนดี
สำหรับคนรักรถการขับเคลือบสีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง (หรือมากกว่านั้นตามโอกาส) เพื่อให้สีรถคงสภาพสดใส อยู่กับเราไปนานๆ ซึ่งการเคลือบสีก็มีอยู่หลายวิธีจนบางครั้งเราก็เลือกไม่ถูกว่าจะทำแบบไหน สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเคลือบสีรถวิธีไหนดี เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการเคลือบสีรถมาฝาก รับรองว่าสีรถของคุณจะสดใสไปตลอดทั้งปี
การเคลือบแวกซ์ (Wax)
การเคลือบสีรถด้วยแว็กซ์จะทำให้รถดูสวย เงางาม สามารถลบรอยอะไรที่บางๆ ได้ เช่น รอยขนแมว ซึ่งการเคลือบแวกซ์นั้น จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ แวกซ์ประเภทครีม และ แวกซ์ประเภทน้ำ โดยแวกซ์ประเภทครีมที่ใช้เคลือบสีรถยนต์ คือ “คาร์นูบาร์แว็กซ์” จะช่วยเพิ่มความเงางามให้สีรถยนต์เป็นหลัก แต่มีข้อเสียที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานสั้น ทนความร้อนได้ต่ำ ซึ่งสามารถใช้งานได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์
ส่วนการเคลือบประเภทแวกซ์ประเภทน้ำที่ส่วนใหญ่ใช้เคลือบสี คือ “โพลิเมอร์ซีลแลนท์ หรือ ซินเตติกซีลแลนท์” จะอยู่ได้นานกว่าและทนความร้อนได้มากกว่าการใช้แวกซ์ประเภทครีม และจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน แต่มีข้อเสียที่คือ จะให้ความเงางามที่น้อยกว่าแวกซ์ประเภทครีม
การเคลือบซิลิโคน
การเคลือบซิลิโคน จะช่วยปกป้องสีรยถนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนานถึง 1 ปี ซึ่งนับว่านานกว่าการเคลือบสีรถยนต์แบบธรรมดา หรือ แบบแวกซ์ แถมป้องกันรังสี UV และอันตรายจากฝนกรดได้ด้วย แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาจากการเคลือบสีรถด้วยแว็กซ์อยู่พอสมควร
ถึงแม้ว่าการการเคลือบซิลิโคนจะมีความเงางามและมีประสิทธิภาพยาวนานถึง 1 ปี แต่ก็มีข้อควรระวังเหมือนกันคือ ไม่ควรเทผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบเงารถยนต์ซิลิโคนลงบนพื้นผิวโดยตรง และไม่ควรใช้ซิลิโคนในบริเวณที่มีแสงแดด ซึ่งจะทำให้สีรถเกิดคราบออกไซด์มากๆ อาจทำให้ขัดเงาได้ไม่ดี และไม่ควรทาซิลิโคนไว้นานเกินไป เพราะจะแห้งแข็งติดพื้นผิวและเช็ดออกยาก
การเคลือบแก้วรถยนต์
การเคลือบแก้วรถยนต์ หรือ Glass Coating คือ การเคลือบชั้นผิวของสีรถยนต์ สภาพเหมือนกับกระจกเงาใสที่มีความแข็งและหนา บนชั้นของสีชั้นเคลือบตัวถังรถที่มาจากโรงงานเหนือชั้นสีของตัวรถ ซึ่งระดับความหนาของชั้นเคลือบจะมีระดับที่แตกต่างกัน โดยมีหลายระดับราคาและคุณภาพ (ตั้งแต่ 1 – 9 H) โดยประโยชน์ของการเคลือบแก้ว คือป้องกันรถจากรอยขนแมว สะเก็ดหิน กิ่งไม้เกี่ยว และรอยขีดข่วนได้มากกว่าชั้นเคลือบตัวถังรถที่มาจากโรงงาน รวมทั้งลดการเกิดรอยด่างบนสีตัวถังรถที่เกิดจากคราบต่าง ๆ ทำให้ตัวถังรถยังมีความสดใสและเงางามอยู่เสมอ ที่สำคัญการเคลือบแก้วครั้งนึงจะอยู่ได้ประมาณ 2 – 3 ปี (ขึ้นอยู่กับแต่ละศูนย์บริการ) ซึ่งนานกว่าเคลือบแว๊กซ์
การเคลือบเซรามิก
เคลือบเซรามิก คือ คือการใช้น้ำยาพิเศษสร้างชั้นพื้นผิวเพิ่มจากชั้นแลคเกอร์ อีก 1 ชั้น เพื่อป้องกันการทำรอย ปฏิกิริยา กับชั้นแลคเกอร์โดยตรง แต่มีนำสารเคมีในกลุ่มเซรามิกมาเคลือบบนผิวรถ เพื่อนำคุณสมบัติความแข็งและความทนทานต่อสารเคมีสูงกว่า เช่น SiC (ซิลิกอนคาร์ไบด์) ทำให้มีความแข็งที่เหนือกว่าเคลือบแก้ว มีการปกป้องที่สูงกว่า
การเคลือบเซรามิกทำครั้งเดียวอยู่ได้ถึง 1 – 2 ปี บางยี่ห้ออยู่ได้ถึง 5 ปี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการดูแลสีรถที่ให้คุณสมบัติที่ยาวนานกว่า อีกทั้งยังให้คุณสมบัติที่ช่วยให้รถเงาใสตลอดเวลา เป็นรอยยากและยังทำให้สิ่งสกปรกเกาะบนรถได้ยากขึ้น และสามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายมากขึ้น
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th