Car of The Year 2018 : MAZDA
[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”57721″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST HATCHBACK DIESEL UNDER 1,600 c.c.
MAZDA2 SKYACTIV-D
ยนตรกรรมจากแบรนด์ Mazda คือยนตรกรรมที่ทำให้คณะกรรมการต่างยอมรับในความไม่ธรรมดา ชนิดที่เรียกว่าทำให้สถานีทดสอบต่างๆ ในงานกิจกรรม Thailand Car of The Year ที่ผ่านมา เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุก ด้วยอรรถรสการขับขี่ที่สามารถรับรู้ได้ถึงความสปอร์ตที่สื่อสารออกมาได้อย่างชัดเจน แม้เป็นยนตรกรรมต่างสไตล์ก็ตาม
เริ่มต้นด้วยเจ้าของรางวัล Best Hatchback Diesel Under 1,600 c.c. กับ Mazda2 SKYACTIV-D ที่ฉายแววความสปอร์ตผ่านรูปลักษณ์ของยนตรกรรม Hatchback 5 ประตู ที่มีดีไซน์อันโดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งช่วยขับเน้นอารมณ์ความสปอร์ตออกมาเต็มๆ แม้จะจอดนิ่งเพื่อรอรับการทดสอบจากคณะกรรมการก็ตาม
นอกเหนือจากความหล่อเหลาจากรูปลักษณ์แล้ว ไฮไลต์ของ Mazda2 SKYACTIV-D ก็คือ สมรรถนะที่ไม่เป็นสองรองใคร ด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการอัปเกรดใหม่เรียกว่า SKYACTIV – VEHICLE DYNAMICS ซึ่งทำหน้าที่ประสานการทำงานของรถทั้งคันให้ประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวคิด Jinba-Ittai
โดยจะประกอบไปด้วย SKYACTIV-BODY โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นคง ตามด้วย SKYACTIV-Chassis ระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นคง และการยึดเกาะถนนที่ดี ตลอดจนความเฉียบคมในการควบคุม โดยมีหัวใจหลักสำคัญในการขับเคลื่อน คือ SKYACTIV-D เครื่องยนต์คลีนดีเซล พิกัด 1.500 ซี.ซี. ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีระดับสูง เช่นเดียวกับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive ที่รวมทุกข้อดีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
พิสูจน์ได้ด้วยการทดสอบบนสถานีต่างๆ เช่น อัตราเร่งที่เห็นได้ชัดเจนถึงความสามารถของพละกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ที่เพิ่มความเร้าใจด้วยชุดเทอร์โบแปรผัน มอบพละกำลังสูงสุดมาให้ใช้ 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดน่าประทับใจในระดับ 250 นิวตันเมตร ที่รอบต้ำตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที ไปจนถึง 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า
โดยทันทีที่กดคันเร่งออกตัว จะรู้สึกได้ถึงพละกำลังที่มีให้ใช้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย พร้อมด้วยความต่อเนื่องไหลลื่นของการส่งต่อกำลังจากชุดเกียร์ที่ทำให้ในอึดใจเดียวก็มาจากจุดหมายปลายทาง แต่เหนืออื่นใด สถานีที่ทำให้ Mazda2 SKYACTIV-D แสดงความสามารถออกมาได้อย่างชัดเจนในเรื่องอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ต ก็คือ Lane Change และ Slalom ที่ต้องอาศัยความคล่องตัว และความเฉียบคมเป็นส่วนประกอบสำคัญ
ซึ่งทั้ง 2 สถานี คณะกรรมการจะเห็นถึงความยอดเยี่ยมของระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPAS รวมถึงช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ทอร์ชันบีม ที่ทำงานสอดประสานกันอย่างเป็นระบบ ด้วยความฉับไวของการควบคุม ผสมผสานด้วยการทรงตัว และการยึดเกาะถนนที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ตลอดจนการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่สามารถสั่งการได้ตามต้องการ หรือถ้ายังสปอร์ตเร้าใจไม่มากพอ ก็สามารถเลือกขับขี่ด้วย Manual Mode ด้วยระบบ Activematic ได้ เพื่อให้สามารถเรียกแรงตอบสนองจาก Mazda2 SKYACTIV-D ได้อย่างที่ใจต้องการ
และไม่ใช่เพียงแค่ความเร้าใจในการขับขี่เท่านั้น ที่ทำให้คณะกรรมการต่างชื่นชอบ หากแต่ยังรวมถึงฟังก์ชันล้ำต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย เช่น ระบบความปลอดภัยของที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นใหม่กับระบบ i-ACTIVSENSE ที่จะช่วยเตือนทุกครั้งหากเกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ตามด้วยระบบ G-Vectoring Control (GVC) กับหน้าที่ควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างความสมดุลในทุกจังหวะการขับขี่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารอารมณ์สปอร์ต ก็ยังมาพร้อมกับเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของระบบการเชื่อมต่อ MZD Connect ที่ใช้งานง่าย และครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งด้วยความ “ครบเครื่อง” ทั้งสมรรถนะ และอรรถรประโยชน์ใช้สอยมากมาย ในรถพิกัดเล็กระดับนี้ คือ สิ่งที่ทำให้เป็นจุดขายหลักที่พิสูจน์ถึงความเหมาะสมกับรางวัล Best Hatchback Diesel Under 1,600 c.c. ในปีนี้ได้อย่างชัดเจน
[/vc_column_text][vc_separator][vc_single_image image=”57725″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST SUV UNDER 1,600 c.c. DIESEL
MAZDA CX-3 DIESEL
อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมที่เหมาะสมกับรางวัล Best SUV Under 1,600 c.c. Diesel ก็คือ Mazda CX-3 Diesel รถอเนกประสงค์ Crossover SUV ที่สะดุดตาด้วยงานดีไซน์ภายใต้แนวคิด Kodo Design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการเคลื่อนไหวที่งดงาม และทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ด้วยท่วงท่าที่สง่างาม ปราดเปรียว พร้อมพุ่งทะยานได้ด้านหน้า ทั้งยังให้ความรู้สึกสปอร์ตที่มากขึ้น เช่นเดียวกับงานออกแบบห้องโดยสารภายในที่เน้นโทนสีดำ-แดง พร้อมการติดตั้งฟังก์ชันอำนวยสะดวกที่ครบครัน บนงานดีไซน์ที่เรียบง่าย ลงตัวกับอารมณ์ความสปอร์ต
ไฮไลต์ของ Mazda CX-3 Diesel นั้น ยังคงเป็นความประทับใจของคณะกรรมการในเรื่องของสมรรถนะจากเทคโน SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่ช่วยให้รถทั้งคันเคลื่อนไหวได้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่ ตามคอนเซปต์ Jinba-Ittai ซึ่งจะประกอบด้วย 4 ส่วนหลักๆ คือ โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา อันแข็งแกร่ง เพื่อสร้างความมั่นคง มั่นใจในการขับขี่ที่เรียกว่าเทคโนโลยี SKYACTIV-Body พร้อมด้วยความเฉียบคม และเสถียรภาพการยึดเกาะถนน ตลอดจนอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตจากระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว SKYACTIV-Chassis
ในขณะที่ขุมพลัง Mazda CX-3 Diesel นั้น มากับเทคโนโลยี SKYACTIV-D แบบคลีนดีเซล ความจุด 1,500 ซี.ซี. พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive ที่รวมเอาข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกชนิดบนโลกเอาไว้ด้วยกัน ทำให้สนามทดสอบของงานกิจกรรม Thailand Car of The Year ในปีนี้ ราวกับเป็นสนามเด็กเล่นให้กับ Mazda CX-3 Diesel โชว์สมรรถนะได้อย่างเต็มที่
เริ่มตั้งแต่สถานีอัตราเร่ง สำหรับโชว์สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน ที่มีกำลังสูงสุดให้ใช้ 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่รอบต้ำตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที ไปจนถึง 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า และมาพร้อมกับความมั่นใจในทัศนวิสัยที่ดี จากลักษณะของตัวถังรถ SUV ที่มีความสูงเป็นทุน ช่วยให้สามารถมองเห็นสถานการณ์เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน สร้างความมั่นใจในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานีทดสอบ Slalom และ Lane Change
แม้ Mazda CX-3 Diesel จะเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีความสูงก็ตาม แต่ในสถานีทดสอบทั้ง 2 สถานี คือ Slalom และ Lane Change ก็สามารถสอบผ่านได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่การตองสนองดีในรอบต่ำ ทำให้การเพิ่มความเร็วนั้นสามารถทำได้อย่างทันใจ ในขณะที่การควบคุมนั้นก็เปี่ยมด้วยความฉับไว และทำให้ผ่านอุปสรรคสิ่งกีดขวางต่างๆ ไปได้แบบสบาย
พร้อมด้วยความมั่นใจจากระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ทอร์ชันบีม ที่มีการปรับเซตมาอย่างเหมาะสม ด้วยอารมณ์ของความนุ่มหนึบ และความสปอร์ตที่มีการยึดเกาะถนน และการทรงตัวที่ดี รวมไปถึงระบบเบรกสมรรถนะสูงแบบดิสก์เบรก 4 ล้อที่หยุดยั้งได้ตามใจสั่ง ซึ่งด้วยคุณสมบัติด้านสมรรถนะที่ครบถ้วน ตอบโจทย์ได้ดี จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ Mazda CX-3 Diesel เป็นอีกหนึ่งในรถที่คณะกรรมการนำไปทดสอบบ่อยครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่ามีความเหมาะสมกับกับรางวัลในปีนี้
โดยนอกจากสมรรถนะพื้นฐานแล้ว Mazda CX-3 Diesel ยังเสริมความมั่นใจเข้าไปอีกขั้นด้วยตัวช่วยด้านความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ทั้งระบบ i-Activsense ที่จะช่วยเตือนทุกครั้งหากเกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และระบบ G-Vectoring Control (GVC) เพื่อช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติ ยกระดับมาตรฐานรถอเนกประสงค์ใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เพียงใช้งานเท่านั้น และยังสามารถสร้างความเร้าใจในการขับขี่ได้ตามสไตล์ Zoom-Zoom อีกด้วยเช่นกัน จนไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Mazda CX-3 Diesel คือยนตรกรรมที่คู่ควรกับรางวัล Best SUV Under 1,600 c.c. Diesel อย่างแท้จริง[/vc_column_text][vc_separator][vc_single_image image=”57724″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST SUV UNDER 2,500 c.c. DIESEL
MAZDA CX-5 DIESEL
ความยอดเยี่ยมของเทคโนโลยี SKYACTIV ที่ส่งต่อมาถึงรถอเนกประสงค์ SUV พี่ใหญ่สุดในค่าย และเป็นอีกหนึ่งใจความสำคัญที่ทำให้ Mazda CX-5 Diesel ครอบครองรางวัล Best SUV Under 2,500 c.c. Diesel ในปีนี้ไปครองเช่นกัน
Mazda CX-5 คือความลงตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุนทรียศาสตร์ของงานศิลปะญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Japanese Aesthetic) กับแนวทางที่เรียกว่า “Less is More” หรือการออกแบบด้วยการลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นเพื่อให้ดูเรียบง่าย แต่ยังคงความสุขุม และความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวภายใต้แนวคิด Kodo Design เจเนอเรชันใหม่ พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารการออกแบบราวงานศิลปะชั้นสูง ที่มีความประณีตในทุกรายละเอียด และการเลือกใช้วัสดุคุณภาพเกรดพรีเมียม เพื่อสร้างความหรูหราในสไตล์ยุโรป ผสานด้วยความสปอร์ต ตลอดจนการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานในตําแหน่งศูนย์กลาง เพื่อให้สะดวกต่อผู้ขับขี่ พร้อมกันนี้ยังมีความอเนกประสงค์จากเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับเอนและแยกพับได้ 3 ส่วน แบบ 40:20:40 รวมถึงประตูท้ายที่ระบบไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิด ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และรีโมตคอนโทรล และสามารถปรับตั้งระดับการเปิดได้ตามต้องการ
Mazda CX-5 Diesel ยังคงมากับการนำเสนอเทคโนโลยี SKYACTIV-Vehicle Dynamics ที่สร้างความยอดเยี่ยมให้กับยนตรกรรมจากแบรนด์ Mazda โดดเด่นเหนือใคร เช่น ขุมพลัง SKYACTIV-D 2.2 เครื่องยนต์คลีนดีเซล พิกัด 2.2 ลิตร ที่มาพร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 ขั้น สร้างกำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูง 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive แบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่รวมข้อดีของเกียร์อัตโนมัติทุกระบบไว้ด้วยกัน
เสริมด้วยความปลอดภัย และอรรถรสการขับขี่สไตล์สปอร์ต ด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV-Body โครงสร้างตัวถังที่น้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง ผสานการทำงานกับระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยวแบบ SKYACTIV-Chassis ที่สร้างบุคคลิกปราดเปรียวด้วยการควบคุมที่แม่นยำ พร้อมด้วยการยึดเกาะถนนอย่างมั่นคง ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบ i-ACTIV AWD ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนนมากยิ่งขึ้น
และด้วยสมรรถนะของ Mazda CX-5 Diesel ที่เพียบพร้อมในระดับนี้ ทำให้การโลดแล่นในสนามทดสอบของงาน Thailand Car of the Year ในปีนี้ สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากสำหรับคณะกรรมการ ตั้งแต่สถานีอัตราเร่งที่เรียกได้ว่ามีพละกำลังให้ใช้แบบล้นเหลือ ทั้งยังมีชุดเกียร์ที่ส่งถ่ายกำลังได้อย่างต่อเนื่อง นุ่มนวล ตามด้วยสถานีทดสอบ Slalom และ Lane Change ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นรถอเนกประสงค์ SUV ที่มีความเฉียบคม คล่องตัว ด้วยการตองสนองของระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPAS
ตลอดจนความมั่นคง และมั่นใจในเรื่องของการทรงตัว และการยึดเกาะถนนของระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบกึ่งอิสระทอร์ชันบีม ที่ปรับเซตมาอย่างลงตัวทั้งในเรื่องของความนุ่มนวล และการสื่อสารความสปอร์ต ออกมาให้สัมผัส ราวกับไม่ใช่รถอเนกประสงค์คันใหญ่ ซึ่งส่วนหนึ่งของความมั่นใจระดับนี้ไม่ได้เกิดจากสมรรถนะเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงตัวช่วยด้านความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกณ์มาตรฐาน อย่างระบบ G-Vectoring Control (GVC) ที่คอยควบคุมเสถียรภาพของตัวรถให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รถอยู่ภายใต้การควบคุม และสร้างความปลอดภัยได้สูงสุดในการขับขี่ โดยยังรวมไปถึงเทคโนโลยีไฮไลต์อย่างระบบ i-Activsense ที่จะช่วยเตือนทุกครั้งหากมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนตัวช่วยต่างๆ ทั้งระบบ Active และ Passive Safety ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอย่างครบครัน จนทำให้ Mazda CX-5 Diesel เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่ “คุ้มค่า” และเหมาะสมที่สุดกับรางวัล
[/vc_column_text][vc_separator][vc_single_image image=”57727″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST PERFORMANCE COMPACT CAR
MAZDA3
Best Performance Compact Car คือ รางวัลที่เหมาะสมกับ Mazda3 อย่างที่สุด ด้วยเรื่องของ “สมรรถนะ” และ “อรรถรส” ในการขับขี่ เริ่มตั้งแต่ความสปอร์ตที่สื่อสารผ่านงานดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอก และภายในด้วยโทนสีดำ ตลอดจนการออกแบบเบาะนั่ง และตำแหน่งที่รับรู้ได้ถึงความสปอร์ตทันทีเมื่อประจำตำแหน่งคนขับ รวมถึงตำแหน่งของการปรับระดับพวงมาลัยที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
ส่วนจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ Mazda3 คือความรู้สึกสนุกสนานในการขับขี่ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMIC ที่ช่วยให้รถทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ตั้งแต่ขุมพลังเทคโนโลยี SKYACTIV-G แบบเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร DOHC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มากับระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT โดยมีพละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ถ่ายทอดกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV Drive 6 สปีด พร้อมระบบ Activmatic หรือความเร้าใจในสไตล์ Manual Mode
โดยมีความมั่นใจจากโครงสร้างตัวถังแข็งแกร่ง และน้ำหนักเบา SKYACTIV Body ตลอดจนระบบบังคับเลี้ยว และระบบช่วงล่าง SKYACTIV-Chassis คือ ระบบพวงมาลัย แร็คแอนด์ พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS) และระบบช่วงล่างที่ด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบอิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมการติดตั้งระบบ GVC หรือ G-Vectoring Control ซึ่งจะทำหน้าที่ผสานการทำงานระหว่างแรงบิดของเครื่องยนต์ และช่วงล่างให้สัมพันธ์กัน เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้มีความมั่นคงมากขึ้น
และทั้งหมด คือสิ่งที่ทำให้ Mazda3 เป็นรถที่มีความ “ลงตัว” ด้าน “สมรรถนะ” มากที่สุดรุ่นหนึ่งในทุกๆ องค์ประกอบ ไม่ว่าจะด้านอัตราเร่ง หรือการควบคุม ที่คณะกรรมการหลายคนได้ลอง ต่างก็บอกว่า “ติดใจ” ในอรรถรสการขับขี่จากสถานีทดสอบต่างๆ โดยเฉพาะความเฉียบคม และอารมณ์ของช่วงล่างที่ได้รับจากสถานี Lane Change และ Slalom ฉะนั้น Mazda3 จึงเป็นความเหมาะสมอย่างที่สุดกับรางวัล Best Performance Compact Car ในปีนี้
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]