[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”58141″ img_size=”full”][vc_column_text]

ท่ามกลางความมืดมิดที่มีประกายแสงสว่างของดวงดาว ความหมายที่บ่งบอกถึงความมีคุณค่าที่สวยงาม และเป็นพลังแห่งความหวัง ก็เปรียบเสมือนกับโลโกดาวสามแฉกของ MERCEDES-BENZ ที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ชั้นนำของโลก ด้วยความสวยงามจากการดีไซน์ชั้นเลิศ ความหรูหราสง่างามจนเป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็น พร้อมกับสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจนสามารถครองใจผู้ใช้รถยนต์จากทั่วโลกมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน

MERCEDES-BENZ คือความทรงคุณค่าของยนตรกรรมที่มีมาตั้งแต่ในอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน

“Car of The Year” งานซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพของรถยนต์ที่ได้รับรางวัลว่ามีความยอดเยี่ยม และโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน โดยพิสูจน์ได้จากรางวัลแห่งชัยชนะที่ยนตรกรรมชั้นนำจาก MERCEDES-BENZ สามารถคว้ามาครอบครองได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับงาน Car of The Year 2018 เหล่าบรรดายนตรกรรมชั้นยอดของ MERCEDES-BENZ ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นรถยนต์ชั้นยอด โดยสามารถคว้ารางวัลแห่งเกียรติยมาครองได้ถึง 8 รางวัล คือ

1. BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c.

2. BEST MID-SIZE ESTATE DIESEL

3. BEST ROADSTER

4. BEST SPORT SEDAN

5. BEST SPORT HATCHBACK 5 Door

6. BEST SUPER CAR OVER 4,000 c.c.

7. BEST LUXURY MPV

8. BEST LUXURY SUV PETROL

สำหรับรถยนต์ที่จะได้รางวัลนั้น ต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาจากเหล่าคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติ ซึ่งในส่วนแรกจะพิจารณาจากองค์ประกอบส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของความสวยงาม อรรถประโยชน์การใช้สอย สมรรถนะ ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานของราคา

ส่วนที่ 2 คณะกรรมการจะมีการเปรียบเทียบจากการขับขี่จริง ในสถานีทดสอบต่างๆ ที่ได้มีการจัดเตรียมไว้ โดยจำลองอุปสรรคต่างๆ ที่อิงมาจากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และนำคะแนนที่ได้มารวมกับคะแนนในช่วงแรก เพื่อลงมติให้เป็นเอกฉันท์ว่ารถรุ่นไหน ประเภทไหน เหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่ง “Car of The Year” เพื่อเป็นเครื่องการันตีถึงความเป็น “ที่สุด”

[/vc_column_text][vc_separator][vc_single_image image=”58138″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c.
MERCEDES-BENZ C350 e Avantgarde

ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามกับการได้รับตำแหน่ง BEST HYBRID SEDAN UNDER 2,000 c.c. ไปครองในครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ MERCEDES-BENZ C350 e Avantgarde คือยนตรกรรมคุณภาพที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำแถวหน้าของโลก

ด้วยการออกแบบที่ให้ความรู้สึกถึงการเติบโตขึ้นของตัวถังอย่างเห็นได้ชัด การดีไซน์ที่ทันสมัย ฉีกตัวเองออกจากรุ่นก่อนๆ การประสานสอดรับอย่างกลมกลืนของเส้น มุม และความโค้งเว้าของพื้นผิว ก่อให้เกิดรูปแบบที่พลิ้วไหวและการตัดกันที่นำสู่ความประทับใจตลอดทั้งคัน
การออกแบบด้านหน้าที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน ทั้งกระจังหน้าแบบคลาสสิกในรูปแบบ 3 มิติ หรือแบบสปอร์ตที่มีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกขนาดใหญ่อยู่กึ่งกลางกระจังหน้า ช่องดักอากาศขนาดใหญ่และรูปทรงของไฟหน้าที่เฉียบคมชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นถึงใบหน้าแบบคลาสสิก ที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองตามแบบฉบับของ C-Class Saloon

วัสดุที่นำมาใช้กับตัวรถล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุในระดับเกรดพรีเมียม ซึ่งเราจะสามารถรับรู้ได้ทั้งจากการสัมผัส หรือแม้เพียงการเหลือบมองด้วยสายตา รวมถึงการดีไซน์ที่ลงตัวจนทุกคนที่ได้พบเห็นต่างก็หลงใหลกับบรรยากาศของห้องโดยสารแบบไม่มีใครที่กล้าจะปฏิเสธ

เทคโนโลยี PLUG-IN HYBRID สร้างมาตรฐานใหม่แห่งประสิทธิภาพ ระบบการขับขี่และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้การขับขี่ที่ไร้มลพิษ และให้ความสบายในแบบฉบับของรถยนต์ชั้นเลิศ
โดดเด่นด้วยระบบ E-MODE ที่สามารถขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ราว 130 กม./ชม. ซึ่งถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดีสำหรับการขับขี่ในเมือง จึงนับเป็นความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีที่ผู้ครอบครองจะได้ทั้งความประหยัด และการช่วยลดมลพิษให้กับโลกใบนี้

ด้วยคุณสมบัติแค่เพียงบางส่วนจากที่กล่าวมา ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นหรือสัมผัสเกิดความประทับใจ และความโดดเด่นที่มีก็สามารถชนะใจกรรมการผู้ตัดสิน จนสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติไปครอง

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,991
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 211/155/5,500
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 350/1,200-4,000
กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า (แรงม้า/กิโลวัตต์) 82/60
แรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า (นิวตันเมตร) 340
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) 5.9
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.) 250[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58140″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST MID-SIZE ESTATE DIESEL
MERCEDES-BENZ E 220d Estate AMG Dynamic

เหนือชั้นด้วยรูปทรงการออกแบบที่สวยงามอย่างลงตัว รวมถึงความโดดเด่นจากประโยชน์ในการใช้สอยที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการ

การดีไซน์ภายนอกได้มีการผสมผสานรูปแบบที่ล้ำสมัยเหนือระดับ กับความงามสไตล์สปอร์ตเข้าไปด้วยกันอย่างกลมกลืน แนวเส้นต่างๆ สื่อถึงพลังและสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เร้าใจแม้ในขณะที่จอดนิ่ง อเนกประสงค์กับประตูบานท้ายที่สามารถเปิดออกได้กว้าง เพื่อรองรับการใช้งานในการขนของที่มีขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์การกีฬาที่คุณโปรดปราน

การออกแบบภายในได้มีการสานต่อความเยี่ยมยอดจากภายนอก การจัดวางอุปกรณ์อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ความกว้างขวางนับเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ และความสะดวกสบายที่มีให้ก็เป็นคำตอบของคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม
บรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย รวมถึงวัสดุที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพในระดับพรีเมียม ซึ่งนำมาใช้ผสมผสานกันอย่างลงตัว รวมทั้งความประณีตพิถีพิถันของงานฝีมือ และการเลือกใช้โทนสีที่ช่วยสื่อถึงความหรูหรา โอ่อ่า ที่ชวนสะกดทุกสายตาได้เป็นอย่างดี
ความพิเศษทางด้านอารมณ์จากชุดหลอดไฟ LED ภายในห้องโดยสาร ที่สามารถเลือกได้ถึง 64 เฉดสี เพื่อตอบสนองความต้องการในการสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร

พลังแห่งการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ซึ่งให้ความโดดเด่นในเรื่องของพละกำลัง และความประหยัดเชื้อเพลิง รวมทั้งสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 5 รูปแบบ และยังมีฟังก์ชัน Auto Start/Stop เพื่อช่วยในเรื่องความประหยัดและลดมลพิษด้วย

เมื่อใดที่คุณได้สัมผัส คุณจะเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า ทำไมรถยนต์รุ่นนี้ถึงได้รางวัล BEST MID-SIZE ESTATE DIESEL ในครั้งนี้ไปครอบครอง

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,950
กำลังสูงสุดเครื่องยนต์ (แรงม้า/รอบต่อนาที) 194/3,800
แรงบิดสูงสุดเครื่องยนต์ (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 400/1,600-2,800
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) 7.7
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กม./ชม.) 235[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58163″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST ROADSTER
MERCEDES-AMG SLC 43

ที่สุดของอิสรภาพในการขับขี่ เพราะ MERCEDES-AMG SLC 43 จะเป็นสัญลักษณ์ของความเพลิดเพลินในการขับขี่แบบสปอร์ตที่เร้าใจท่ามกลางท้องฟ้าที่เปิดโล่ง คุณจะได้สัมผัสอิสรภาพที่แท้จริงด้วยตาคุณเอง รู้สึกด้วยใจ ใช้หูฟัง ใช้จมูกดม และสูดกลิ่นอันหอมหวน

ประสบการณ์ในการขับขี่ที่หาไม่ได้จากรถยนต์แบบธรรมดาทั่วไป ความสะดวกสบายที่คล่องตัวในการขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

สำหรับวันที่แสงแดดส่องอ่อนๆ ท้องฟ้าใสๆ คุณก็สามารถกดปุ่มเปิดหลังคาด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ด้วยเวลาไม่ถึง 20 วินาที และสามารถเปิด-ปิด ในขณะที่กำลังขับขี่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. นับเป็นความรวดเร็วที่สะดวกในการใช้งาน และเป็นการเพิ่มความอิสระในการขับขี่ได้อย่างสวยงาม

การออกแบบที่จะเร้าประสาทสัมผัสทั้งหมด กระโปรงรถยาว โอเวอร์แฮงค์สั้น คือเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของรถยนต์ในแนวโรดสเตอร์ แต่การดีไซน์ที่โดดเด่นและแตกต่างของ SLC ก็คือส่วนด้านหน้าที่สะดุดตากับกระจังหน้าแบบ Diamond Grille และปีกโครเมียม ที่ชวนทำให้ขนลุกซู่เพราะความเร้าใจที่เห็นได้จากทางสายตา

ขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพที่พร้อมจะแผลงฤทธิ์ให้อะดรีนาลีนของคุณได้หลั่งออกมา ถ้าเปรียบเหมือนนักมวย ก็จะเป็นพวกตัวเล็กหมัดหนัก มีความพลิ้วไหวอย่างมีชั้นเชิง และพร้อมจะคว้าชัยชนะทุกครั้งเมื่ออยู่บนสังเวียน

ทุกการขับขี่ เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่มีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ โดยมีเครื่องหมายการันตีจาก AMG จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง รวมถึงระบบส่งกำลังอย่างเกียร์อัตโนมัติแบบเดินหน้า 9 จังหวะ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยถ่ายถอดพละกำลังอันมหาศาลในทุกช่วงเสี้ยววินาทีที่คุณกดคันเร่ง

ความอิสระเสรีในการขับขี่ ที่มาพร้อมกับพลังการขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ บนเรือนร่างของโรดสเตอร์สายพันธุ์หรู คือบทสรุปของยนตรกรรมที่นับเป็นที่สุด และสามารถครอบครองรางวัลอันทรงเกียรติ BEST ROADSTER ในครั้งนี้ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ วี6 สูบ 24 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,996
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 367/270/5,500-6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 520/2,000-4,200
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 4.6 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 250[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58180″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST SPORT SEDAN
MERCEDER-AMG CLA 45 4MATIC

ความท้าทายในการออกแบบอย่างสุดขั้ว ที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากผู้บริโภคได้อย่างสวยงาม กับยนตรกรรมซึ่งมีการดีไซน์ที่แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมจนใครๆ ก็ต้องยกนิ้วให้

เส้นสายบนตัวถังภายนอกมีการออกแบบที่ชวนดึงดูดสายตา โดยให้ความรู้สึกสปอร์ตที่เร้าใจตั้งแต่เมื่อแรกเห็น เมื่อผสมกับความหรูหราตามแบบฉบับรถหรู จึงทำให้เกิดความลงตัวจนยากที่จะหาใครมากล้าปฏิเสธ และที่สำคัญ กับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือค่า Cd. ที่ต่ำเพียง 0.22 นับว่าเป็นค่าที่ทำให้วงการรถยนต์ต้องตกตะลึง

การต้อนรับจากภายในห้องโดยสารด้วยกาบบันไดพร้อมสัญลักษณ์ AMG เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่นั่งกระชับและช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะการขับขี่ ผสมผสานกับการตกแต่งที่เร่งเร้าอารมณ์ตามแบบฉบับรถหรูที่ให้ความเป็นสปอร์ตขั้นสูง นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามความต้องการอีกด้วย
ชุดแผงหน้าปัด AMG พร้อมเมนูหลักที่รวมถึง RACETIMER และจอแสดงข้อมูล AMG ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาตลอดเวลา และเติมเต็มในทุกความต้องการกับความสปอร์ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์
สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเป็นผลจากการพัฒนาที่ครอบคลุมทั่วถึง เครื่องยนต์ AMG เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 381 แรงม้า จากความจุกระบอกสูบเพียงแค่ 2.0 ลิตร ซึ่งจะให้ความตื่นเต้นเร้าใจ ความทนทานสูงสุด และความประหยัดที่เยี่ยมยอดไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่ถ่ายทอดกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นส่วนช่วยทำให้เกิดความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับขี่

มั่นใจได้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (4MATIC) ที่จะคอยให้ความปลอดภัยสูงสุดตลอดระยะเวลาของการขับขี่ นอกจากนั้นก็ยังมีระบบไฮเทคอื่นๆ ที่จะคอยช่วยเสริมสมรรถนะและความปลอดภัยต่างๆ อีกมากมาย

นับเป็นงานวิศวกรรมทางด้านยานยนต์ที่เฉียบแหลม กับยนตรกรรมสปอร์ตคูเป้แบบ 4 ประตู ที่พกคุณสมบัติมาอย่างล้นเหลือ จนสามารถคว้ารางวัล BEST SPORT SEDAN ไปครอบครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ 4 สูบ 16
วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,991
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 381/280/6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 475/2,250-5,000
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 4.2 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 250[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58184″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST SPORT HATCHBACK 5 Door
MERCEDES-AMG A45 4MATIC

ที่สุดของพลังแห่งการขับเคลื่อนที่พร้อมจะกระชากทุกอารมณ์ ความรู้สึก ให้พลุ่งพล่านไปกับอรรถรสแห่งการขับขี่ด้วยจิตวิญญาณแห่งสปอร์ตอย่างแท้จริง

นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับยนตกรรมขนาดเล็กโดยฝีมือของ MERCEDES-AMG ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีการออกแบบทั้งภายในและภายนอก จากการนำเทคโนโลยีล่าสุดมาบรรจุไว้ในตระกูล A-Class โดยทีมวิศวกรได้นำเทคโนโลยีสำหรับการแข่งขันรถยนต์เข้ามาบรรจุในพื้นที่ซึ่งนับได้ว่าเล็กมาก เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้ MERCEDES-AMG A45 4MATIC เพื่อเป็นรถยนต์ที่มีแรงม้าสูงสุดในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ณ ปัจจุบัน

ความโดดเด่นที่แตกต่างจากรถยนต์ในตระกูล A-Class ทั่วไปก็คือ ชุดเกราะจาก AMG ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง สปอร์ตแบบเร้าใจให้กับรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงภายในที่มีวัสดุและกลิ่นอายของความสปอร์ตที่แตกต่าง การดีไซน์ที่เข้มข้น ซึ่งเน้นถึงความมีระดับที่สุดกว่า แน่นอนว่าเมื่อใครได้เห็นก็ต้องหลงรัก
พระเอกอย่างเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ได้รับจากการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงของ MERCEDES-AMG A45 4MATIC เป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบ ที่สามารถผลิตกำลังออกมาได้สูงสุดถึง 381 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร นับเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการรถยนต์ในเรื่องของแรงม้าต่อขนาดเครื่องยนต์ ส่วนระบบส่งกำลังเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัจฉริยะ ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

ผลลัพธ์จากการสร้างสรรค์ของเทคโนโลยีจาก MERCEDER-AMG คือสมรรถนะที่รุนแรงเร้าใจ ด้วยตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ทำได้ภายในเวลา 4.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดนั้น ถูกบังคับไว้ที่ 250 กม./ชม. ซึ่งถ้าไม่มีกฎในเรื่องของการบังคับเพดานความเร็วสูงสุดไว้ ก็คงมีตัวเลขที่น่าสะพรึงกลัวออกมาให้เห็นแน่นอน

ความเร้าใจแบบสุดขั้วที่สามารถสัมผัสได้จากยนตรกรรมของ MERCEDES-AMG เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ถึงเทคโนโลยีอันล้ำสมัย การทุ่มเทในการพัฒนา และการก้าวล้ำเกินกว่ารถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน นับเป็นยนตรกรรมที่คู่ควรกับผู้ที่ไม่ชอบตามหลังใคร และคงเป็นคำตอบสำหรับรางวัลอันทรงคุณค่า BEST SPORT HATCHBACK 5 Door

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 1,991
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 381/280/6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 475/2,250-5,000
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 4.2 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 250[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58203″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST LUXURY MPV
MERCEDES-BENZ V250d Avantgarde Long

การดีไซน์ที่ประสานลักษณะการใช้งานเฉพาะตัว ด้วยรูปแบบที่ดึงดูดความสนใจได้อย่างดีเยี่ยม การออกแบบที่มีความหมายลึกซึ้งในตัวเอง เป็นผลจากการสื่อสารซึ่งกันระหว่าง แนวเส้นที่สวยงามกับความกว้างใหญ่ พื้นที่พื้นผิวที่ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวล สุขุม การออกแบบที่ยอดเยี่ยมของ MERCEDES-BENZ แสดงให้เห็นถึงความมีดุลยภาพและความเชื่อมั่นด้วยรูปแบบที่ประทับใจเป็นพิเศษ
การออกแบบ LED intelligent light system ที่สามารถทำงานและปรับลำแสงได้อย่างอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ และระบบช่วยนำรถเข้าจอด พร้อมกล้องแสดงภาพแบบรอบทิศทาง (Active Parking Assist with 360 camera) จะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย อุ่นใจในทุกเส้นทาง และสามารถเพลิดเพลินกับทุกประสบการณ์การเดินทางได้อย่างไร้ความกังวล

พื้นที่ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยเนรมิตให้ทุกการเดินทางเกิดความสะดวกสบายที่สุด เบาะนั่งที่สามารถปรับได้อย่างอิสระหลากหลายรูปแบบ ฝาท้ายทำงานด้วยระบบไฟฟ้าที่สามารถควบคุมได้เพียงแค่ปลายนิ้ว

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติที่สามารถปรับแยกส่วนอิสระ หน้า-หลัง พร้อมระบบไฟสร้างบรรยากาศในยามค่ำคืน ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างกับระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม พร้อมแป้นคุมแบบสัมผัส ซึ่งจะเป็นระบบเสียงแบบรอบทิศทางจาก Burmester และฟังก์ชันอุ่นที่นั่งและระบายอากาศ Climatised ที่จะเป็นส่วนช่วยในการตอบสนองในทุกความต้องการตลอดระยะเวลาของการเดินทาง

พลังแห่งการขับเคลื่อนที่ทรงประสิทธิภาพกับแรงบิดที่สูงถึง 440 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่พร้อมจะผสานความเพลิดเพลินในการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพละกำลังระดับเดียวกับเครื่องยนต์ 6 สูบ แต่สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเครื่องยนต์ 4 สูบ ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ ที่จะเป็นส่วนช่วยให้ทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 9.1 วินาที

นับเป็นรถยนต์ในรูปแบบ MPV ที่มีความคุ้มค่า และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นจนสามารถชนะใจกรรมการผู้ตัดสิน จนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติประจำปีนี้ไปครอบครอง

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบคู่
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,143
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 190/140/3,800
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 440/1,400-2,400
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 9.1 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 206
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58205″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST LUXURY SUV PETROL
MERCEDES-AMG GLE 43 4MATIC Coupe

ยนตรกรรมที่แสดงออกให้เห็นถึงสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทาง ความสมบูรณ์แบบที่เกิดจากการผสมผสานรูปทรงของ Coupe กับ SUV สร้างความประทับใจด้วยการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ของส่วนต่างๆ โครงสร้างภายนอกเหมือนรถยนต์แบบคูเป้ ความมีอำนาจที่ถ่ายทอดจากเพาเวอร์โดม ขอบล้อขนาดใหญ่ โดยมีจุดเด่นในสไตล์ SUV ที่เป็นสัญลักษณ์คุณภาพ และนำไปสู่รูปแบบพิเศษของการแสดงความเป็นตัวตน
ตัวถังตอนล่างและความเอียงลาดของแนวเส้นหลังคาที่เฉียบคม สองคุณลักษณะนี้ได้นำไปสู่ภาพโดยรวมที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว การทำปฏิกิริยาซึ่งกันของส่วนประกอบต่างๆ นำมาซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจที่ต่างไปจากรถยนต์แบบอื่น จึงนับเป็นความประทับใจที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่างๆ อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนหลังสร้างความตื่นตาตื่นใจจากดีไซน์แนวใหม่ การใช้เส้นแนวนอนเสริมให้เห็นภาพของความกว้างใหญ่ได้อย่างไม่ยากเย็น ตำแหน่งการติดตั้งป้ายทะเบียนถูกรวมอยู่ในชุดเดียวกับกันชนหลังเหนือแผ่นกันกระแทกที่คล้ายกับโครเมียม

การเทลาดต่ำลงอย่างนุ่มนวลของแนวเส้นหลังคาเป็นจุดดึงดูดความสนใจ เมื่อมองจากทางด้านข้างได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงการออกแบบให้มีช่วงฐานล้อหน้า/หลังยาว ช่วงโอเวอร์แฮงค์สั้น โป่งล้อที่เป็นแบบฉบับของรถยนต์ SUV และกาบบันไดด้านข้าง แนวเส้นที่เป็นรูปแบบเฉพาะของ MERCEDES-BENZ ทำให้รับรู้ถึงประสิทธิภาพ และสมรรถนะระดับสูงที่อัดแน่น ซึ่งรับรู้ได้แม้ขณะที่รถจอดนิ่งอยู่กับที่
ภายในห้องโดยสารซึ่งให้อารมณ์สปอร์ตที่งดงามตามแบบรถยนต์คูเป้ พร้อมความกว้างขวางที่เป็นแบบฉบับของ SUV ซึ่งนับเป็นการผสมผสานของสองความแตกต่างได้อย่างดีงามและลงตัว โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ความหรูหราตามสไตล์ของ MERCEDES-BENZ

เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร ที่เป็นผลจากการพัฒนาของเหล่าวิศวกรระดับมันสมองของโลก ที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งการขับเคลื่อน จนทำให้รู้สึกได้ถึงความเร้าใจแบบสปอร์ต ที่จะทำให้ซาบซึ้งถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ใครก็ยากจะปฏิเสธ

ด้วยคุณสมบัติที่อัดแน่นจนอยู่ในระดับที่เหนือกว่า สิ่งดีๆ ที่มีอยู่อย่างเพียบพร้อม จนไม่มีที่ว่างสำหรับคำว่าเป็นรอง จึงทำให้ MERCEDES-AMG GLE 43 4MATIC Coupe พุ่งทะยานจนแซงขึ้นแท่นรับรางวัล BEST LUXURY SUV PETROL ประจำปีนี้ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ วี6 สูบ 24 วาล์ว พร้อมเทอร์โบคู่
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 2,996
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 367/270/5,500-6,000
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 520/2,000-4,200
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_separator][vc_single_image image=”58200″ img_size=”full”][vc_column_text]BEST SUPER CAR OVER 4,000 c.c.
MERCEDES-AMG GT R

ความประทับใจแรกเป็นธรรมชาติที่ยั่งยืนเสมอ และความประทับใจนี้ถูกรังสรรค์ให้เป็นรูปทรงขึ้นมาอย่างชัดเจน ด้วยการออกแบบ เพราะโดยปกติคุณค่าที่ซ่อนอยู่ภายในจะสามารถสัมผัสรับรู้ได้ขณะเคลื่อนที่อยู่เท่านั้น แนวเส้นและพื้นผิวของ MERCEDER-AMG GT R ถูกออกแบบขึ้นโดยปราศจากการละเลยต่อความเข้มงวดพิถีพิถันแม้แต่น้อย ผลที่เกิดขึ้นมีอิทธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกอย่างชัดเจน จึงทำให้บังเกิดยนตรกรรมที่ยอดเยี่ยม พร้อมความสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องของความงดงามที่สามารถจะสะกดทุกสายตา รวมถึงความร้อนแรงในสไตล์สปอร์ตที่คุณจะต้องหลงรัก

เมื่อมองด้านข้าง ความยาวของฝากระโปรงหน้าและช่วงโอเวอร์แฮงค์หน้าที่สั้น ให้ภาพที่โดดเด่นประทับใจ ความโป่งนูนของซุ้มล้อพร้อมแนวสันที่เฉียบคม และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา รวมไปถึงการวางตำแหน่งกระจกบังลมหน้าเน้นย้ำได้เป็นอย่างดี ถึงบุคลิกที่ถ่ายทอดโดยตรงจากโลกมอเตอร์สปอร์ต

ด้านหลังออกแบบในสไตล์ฟาสต์แบ็ก พร้อมเสาซีที่โดดเด่น และการทำมุมเทลาดอย่างนุ่มนวล ตอกย้ำถึงพลังในการขับเคลื่อนของ MERCEDES-AMG GT R ขณะที่กรอบไฟท้าย LED รูปทรงเพรียวบาง ช่วยเสริมให้เห็นภาพความกว้างของรถได้อย่างเด่นชัด กันชนหลังที่รวมตำแหน่งการวางตัวของปลายท่อไอเสียไว้ในชุดเดียวกัน และยางขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งรูปลักษณ์ที่ผสมผสานกลมกลืน และบ่งบอกถึงสมรรถนะได้เป็นอย่างดี

สำหรับภายในห้องโดยสาร เมื่อนั่งลงบนเบาะนั่งแบบสปอร์ต สายตาจะถูกดึงดูดให้จับจ้องชื่นชมไปกับพวงมาลัยอันทรงเสน่ห์ของ AMG Performance และชุดแผงหน้าปัดที่มีการดีไซน์ได้อย่างโดดเด่น พร้อมจอดิสเพลย์แบบลอยตัว และการตกแต่งด้วยลายแบบสปอร์ตเฉพาะตัวของ MERCEDES-AMG ที่จะช่วยเสริมให้เกิดภาพของความประทับใจ

เครื่องยนต์เบนซินแบบวี8 ขนาด 4.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับเทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีของสนามแข่ง จะทำให้ผู้ที่ได้อยู่หลังพวงมาลัยเกิดความลุ่มหลงและมีความสนุกสนานกับการขับขี่ โดยเครื่องยนต์แต่ละเครื่องถูกประกอบขึ้นด้วยมือตามหลักการ “หนึ่งคน หนึ่งเครื่องยนต์” นวัตกรรมด้านเทคนิคมากมาย ทำให้เกิดความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์ ที่มีขนาดคอมแพกต์ น้ำหนักเบา และมีสมรรถนะสูงสุด

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้ากำลัง 585 แรงม้า จะทำให้ชีวิตโลดแล่นไปอย่างไร้ขีดจำกัด และจะทำให้คุณค้นพบนิยามในรูปแบบใหม่ๆ กับยนตรกรรมที่เป็นที่สุดในแบบฉบับของซูเปอร์คาร์

Spec
เครื่องยนต์และสมรรถนะเครื่องยนต์ วี8 สูบ 36 วาล์ว พร้อมเทอร์โบคู่
ปริมาตรกระบอกสูบ (ลูกบาศก์เซนติเมตร) 3,982
กำลังสูงสุด (แรงม้า/กิโลวัตต์/รอบต่อนาที) 585/430/6,250
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร/รอบต่อนาที) 700/1,900-5,500
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 3.6 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ (กิโลเมตร/ชั่วโมง) 318[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]