Car of the year 2021 – Audi
Absolutely The Best : Audi
BEST EV SUV
l AUDI E-TRON SPORTBACK 55 quattro S line
BEST LUXURY DIESEL SUV OVER 2,500 c.c.
l AUDI Q7 45 TDI quattro S line
BEST HYBRID MID-SIZE ESTATE UNDER 2,000 c.c.
l AUDI A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition
BEST 4 DOOR COUPE
l AUDI A5 SPORTBACK 40 TFSI S LINE
BEST SPORT COUPE 4WD
l AUDI A5 COUPE 45 TFSI quattro S line Black Edition
รางวัล BEST EV SUV
Audi e-tron Sportback 55
quattro S line
หนึ่งในรถไฟฟ้า Luxury ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย พร้อมทั้งตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว จนทำให้ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line กลายเป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด ด้วยความครบเครื่องที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการในการใช้งาน ทำให้รถคันนี้ได้รับผลโหวตมากที่สุดจากคณะกรรมการ จนได้รับรางวัล BEST EV SUV มาครองได้สำเร็จ
ความคิดเห็นจากคณะกรรมการ
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 408 แรงม้า
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC) พลังมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่งผสมผสานกับระบบขับเคลื่อน quattro ไฟฟ้า ทำให้ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ตอบสนองฉับไว ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ตื่นเต้น เร้าใจ และสนุกสนาน
เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ ทั้งจากพลังงาน จากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (Coasting) และพลังงานจากการเบรก (Braking)
รูปแบบที่ 1 พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว ซึ่งมีวิธีการตั้งค่าการทำงานรูปแบบนี้ 2 วิธี คือ ตั้งค่าจากแป้น Paddle Shift ที่สามารถเลือกปรับได้3 ระดับ และผู้ขับขี่สามารถเลือกที่จะตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Predictive Efficiency Assist (PEA) ในระบบ MMI ได้อีกด้วย จากการประมวลผลและควบคุมการเคลื่อนที่เชิงฟิสิกส์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วของรถได้จากการถอนเท้าออกจากคันเร่ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกได้
รูปแบบที่ 2 พลังงานจากการเบรก (Braking) เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกจะส่งผล
ให้เกิดพลังงานกลับเข้ามาในระบบการขับขี่ หากเหยียบเบรกที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะสามารถนำพลังงานกลับเข้าไปได้สูงสุดถึง 300 Nm และ 220 kW หรือคิดเป็นมากกว่า 70% ของกำลังที่มอเตอร์ ผลิตได้ และการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ในรุ่น e-tron Sportback นี้ สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากถึง 30% ของระยะทางทั้งหมด
การออกแบบล้ำสมัยเหนือระดับ
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ได้รับการออกแบบให้มีความล้ำสมัยสปอร์ต สมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิดมุมมองใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยกระจังหน้าแบบคลาสสิกถูกอัปเกรดใหม่เป็น Single frame เส้นสาย รูปทรง สะท้อนเอกลักษณ์ของ Audi คือ ลุคสปอร์ต ขณะที่รูปทรงคูเป้ให้ความสง่างามในแบบสปอร์ต เส้นสายมีความไดนามิก เพิ่มความแข็งแกร่ง ดุดัน โดดเด่นด้วยชุดแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ต S line สปอยเลอร์หลังและขอบประตูอะลูมิเนียม
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผสมผสานดีไซน์ ฟังก์ชัน เทคโนโลยีและลุคสปอร์ตพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรู กว้าง สะดวกสบาย และจากการผสานเทคโนโลยีในรูปแบบดิจิทัลอย่างลงตัว ทำให้ใช้งานง่าย จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับการสั่งการด้วยการเขียนด้วยนิ้ว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถืออย่างง่ายดาย ด้วย Audi Smartphone Interface ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line มาพร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง ทำให้เกาะถนนได้ดีขึ้น ขับขี่ได้คล่องแคล่ว แม่นยำ ขณะที่ Balance ของตัวรถ มีการออกแบบการจัดวางส่วนประกอบต่างๆ ของรถมาอย่างลงตัว ทำให้กระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล โดย Perfect
Balance อยู่ที่ 50:50 ในกรณีที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมพิเศษ กล้องแสดงภาพด้านข้าง (Virtual exterior mirrors) นวัตกรรม
ด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย จะมีจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบสัมผัส ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูซ้าย-ขวา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพด้านข้างตัวรถที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้อยู่ในสภาวะการเดินทางที่ไม่เอื้ออำนวย
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือความสุดยอดของ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ที่เหล่าคณะกรรมการเทคะแนนให้ จนทำให้สามารถคว้ารางวัล BEST EV SUV ใน Thailand Car of The Year 2021 มาครองได้สำเร็จ
BEST LUXURY DIESEL SUV OVER 2,500 c.c.
Audi Q7 45 TDI
quattro S line
หนึ่งในรถ SUV Luxury ที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ด้วยรูปลักษณ์ที่สะดุดตาและสมรรถนะที่เพียบพร้อม ทำให้สร้างความแตกต่างเหนือระดับกว่า SUV Luxury ทั่วไป ซึ่งเป็นเหตุผลให้ Audi Q7 45 TDI quattro S line สามารถคว้ารางวัล BEST LUXURY DIESEL SUV OVER 2,500 c.c. มาครองได้สำเร็จ ซึ่งความยอดเยี่ยมจะมีอะไรบ้าง สามารถติดตามได้ใน Car of The Year 2021
ความคิดเห็นจากคณะกรรมการ
ขุมพลังดีเซล V6 ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
Audi Q7 45 TDI quattro S line มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล V6 Commonrail Direct Injection ขนาด 3.0 ลิตร 2,967 ซี.ซี. พ่วงด้วยชุดอัดอากาศแบบไบเทอร์โบ โดยใช้หลักการเทอร์โบ 1 ตัว อัดอากาศฝั่งละ 3 กระบอกสูบ ให้พละกำลังสูงสุด 249 แรงม้า ที่ 2,910-4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา quattro permanent all-wheel drive ทำให้ขับสนุกทุกการใช้งาน และตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างเร้าใจ ความจุถังน้ำมัน 85 ลิตร สมรรถนะ เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนระบบช่วงล่าง มีการเซตค่าความนุ่มนวลและเกาะถนนด้วยโช้คอัพและสปริงแบบถุงลม หรือ Air Suspension เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ทำงานในระบบ Adaptive สามารถปรับหรือลดระดับความสูงได้อย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ระดับความสูงจะปรับตัวเองแบบอัตโนมัติไปตามโหมดของการขับเคลื่อน 6 รูปแบบ (Comfort / Off Road / All Road / Auto / Dynamic / Individual) ในส่วนของระบบเบรกเป็นแบบ 6 pot เพื่อการหยุดที่มั่นใจยิ่งขึ้นออกแบบล้ำสมัย เน้นการใช้งานที่ลงตัว
Audi Q7 45 TDI quattro S line มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบใหม่ มีการออกแบบให้กว้างยิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งซี่โลหะแนวตั้ง 6 ซี่ภายในกระจังหน้า เสริมความดุดันไปอีกหลายเท่าตัว นอกจากนั้น มิติตัวถังยังมีขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย ไฟหน้าแบบ Matrix LED ซึ่งแต่ละดวงจะทำงานเป็นอิสระแยกจากกัน ไฟเลี้ยวหน้าและหลังเป็นแบบไดนามิก บวกกับถุงลม Adaptive Air Suspension ระบบกันสะเทือนที่เพิ่มเติมความปลอดภัย โดยปรับระดับความสูงได้สูงสุด 50 มม.
ส่วนภายในห้องโดยสารของ Audi Q7 45 TDI quattro S line เน้นผสมผสานความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและการใช้งานง่ายและลงตัว ประกอบไปด้วย หน้าจอด้านบนขนาด 8.8 นิ้ว Full HD เช่นเดียวกับหน้าจอด้านล่างที่ลดขนาดเหลือ 8.6 นิ้ว ซึ่งทั้ง
สองเป็นหน้าจอสัมผัสที่ใช้แสดงผลและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ (MMI Radio plus) รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android
Auto มากไปกว่านั้น ยังมีไฟเรืองแสงภายในห้องโดยสาร กับการปรับเปลี่ยนได้มากถึง 30 สี พร้อมทั้งระบบเครื่องเสียง 3 มิติ
ระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ
Audi Q7 45 TDI quattro S line เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมการทรงตัว ESC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง Audi Hold Assist, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง, ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง, กล้องมองภาพขณะถอยจอด, เซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้าและ ด้านหลัง และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
BEST HYBRID MID-SIZE ESTATE UNDER 2,000 c.c.
Audi A6 Avant 45 TFSI
quattro S line Black Edition
นับเป็นหนึ่งในรถ Station Wagon ที่เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และเทคโนโลยียุคประหยัด กับสุดยอดยนตรกรรม
พลังงานทดแทน อย่าง Hybrid ที่อัดแน่นอยู่ใน Audi A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition ทำให้รถรุ่นนี้คือนวัตกรรมยานยนต์แห่งโลกอนาคต ที่มีเอกลักษณ์และความประหยัดคุ้มค่า จนทำให้เหล่าคณะกรรมการต่างลงคะแนนอย่างท่วมท้น ว่านี่คือ BEST HYBRID MID-SIZE ESTATE UNDER 2,000 c.c. ใน Thailand Car of The Year 2021
ความคิดเห็นจากคณะกรรมการ
รูปลักษณ์สปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งาน
Audi A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition มาพร้อมกับชุดแต่งภายนอก S line เข้มด้วยชุดแต่งสีดำ Black Edition ตั้งแต่ กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม six-point single frame พร้อมชุดแต่งกันชนหน้า-หลัง มีสปอยเลอร์ในตัว ราวหลังคา กระจก
มองข้าง แถบข้างตัวรถ พร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED ช่วยให้การส่องสว่างสอดคล้องกับสภาพเส้นทาง ลดการรบกวนสายตาผู้ใช้รถคันอื่นอัตโนมัติ หลังคาแบบพาโนรามิก ที่ใช้งานสะดวกด้วยการควบคุมการเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า และยังถูกเสริมความดุดัน สวยงาม และอารมณ์สปอร์ตเพิ่มขึ้นไปอีก ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R19 มิติตัวรถเท่ากับรุ่น A6 Avant 55 TFSI quattro S line ด้วยความยาว 4,939 มม. กว้าง 1,886 มม. สูง 1,467 มม. และความจุถังน้ำมัน 73 ลิตร
ภายในสปอร์ตด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona และเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports พร้อมสัญลักษณ์ S line เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่ ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว ระบบ Audi smartphone interface จอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว และยังคงให้ความสะดวกสบายด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระกว้างขวาง ขนาด 565-1,680 ลิตร
ขุมพลัง 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ
เติมเต็มทุกการใช้งาน
Audi A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ mild hybrid ที่ให้ทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง พร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-3,400 รอบ/นาที ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 สปีด ได้อย่างลงตัว เสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.2 วินาที เท่านั้น และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.
มั่นใจทุกการใช้งานด้วยระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมด้านหน้า ด้านข้าง ม่านนิรภัยด้านข้าง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function) เซ็นเซอร์หน้า-หลัง ช่วยในการนำรถเข้าจอด กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด ช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select)
และนี่คือความโดดเด่นเหนือใคร ที่ทำให้ Audi A6 Avant 45 TFSI quattro S line Black Edition ได้รับการคัดเลือกให้เป็น
BEST HYBRID MID-SIZE ESTATE UNDER 2,000 c.c.ประจำปี 2021 จากคณะผู้ทรงคุณวุฒิในครั้งนี้
BEST 4 DOOR COUPE
Audi A5
Sportback 40 TFSI S line
นับเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ที่เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและนวัตกรรมยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ จนทำให้ Audi A5 Sportback 40 TFSI S line เป็นรถที่ได้รับเลือกว่าดีที่สุดในกลุ่มรถ 4 ประตูสไตล์สปอร์ต ซึ่งเหล่าคณะกรรมการต่างลงคะแนนอย่างท่วมท้น ว่านี่คือ BEST 4 DOOR COUPE ใน Thailand Car of The Year 2021
ความคิดเห็นจากคณะกรรมการ
การออกแบบที่ลงตัว ให้ลุคสปอร์ต ปราดเปรียว
Audi A5 Sportback 40 TFSI S line คือรถที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งแบบเดินทางคนเดียวหรือเดินทางทั้งครอบครัว กระจกประตูแบบ frameless ให้ลุคสปอร์ต ปราดเปรียว ตั้งแต่เส้นแนวหลังคาที่ลาดเอียงจนถึงท้ายรถ พื้นที่การใช้งานเข้า-ออกสะดวกสบาย ภายนอกได้รับการออกแบบให้ดูแข็งแกร่งด้วยเส้นสายตัวถังที่ทรงพลัง ผสมผสานอย่างลงตัวในการออกแบบของรถยนต์แบบ Coupé แต่มีความกว้างขวาง เข้า-ออกสะดวกด้วยประตูด้านข้างบานหลังซ้าย-ขวาในลักษณะรถ Sedan ดีไซน์ใหม่สวยงาม ลงตัว ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ได้รับการอัปเกรดเป็น Matrix LED ปรับการส่องสว่างอัจฉริยะเพื่อไม่ให้รบกวนสายตารถที่วิ่งสวนมา พร้อมไฟเลี้ยว Dynamic อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi
ห้องโดยสารที่ออกแบบมาอย่างประณีต มีความสะดวกสบาย เอื้อต่อการขับขี่มากที่สุด ทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ MMI Radio Plus พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส เครื่องเสียงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลก Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ ส่วนไฟภายในห้องโดยสารของ The New Audi A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Black Edition เป็นไฟเรืองแสงแบบปรับสีได้ (Contour / Ambient lighting) มีให้เลือกถึง 30 สี สำหรับ The New Audi A5 Sportback 40 TFSI S line เพิ่มความสะดวกในการใช้งานภายในห้องโดยสารในช่วงเวลากลางคืนด้วยไฟ LED สีขาว ให้กำลังส่องสว่างอย่างเต็มที่
ขุมพลัง 2.0 เทอร์โบชาร์จ
ขับสนุกทุกการใช้งาน
Audi A5 Sportback 40 TFSI S line สร้างขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ 1,984 ซี.ซี. 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,200-6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,450-4,200 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 239 กม./ชม.
เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System), ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Distribution), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System), ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function), ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist), ระบบเบรกมือไฟฟ้า, เซ็นเซอร์หน้า-หลัง ช่วยในการนำรถเข้าจอด และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด
ทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงนี้ คือความพิเศษที่เหล่าคณะกรรมการต่างลงคะแนนให้ Audi A5 Sportback 40 TFSI S line คือรถที่มีความครบเครื่องในทุกๆ ด้าน และได้รับรางวัล BEST 4 DOOR COUPE มาครองได้สำเร็จ
BEST SPORT COUPE 4WD
Audi A5 Coupe 45 TFSI
quattro S line Black Edition
ยังคงความดุดันในด้านการออกแบบ
และตอบความสนุกในด้านการขับได้อย่าง
ครบถ้วน สำหรับ Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line Black Edition ที่เน้นการออกแบบเรียบง่ายแต่มีความหรูที่โดดเด่น และความแรงของเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า ส่งผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro With Ultra Technology ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Audi จึงทำให้รถคันนี้ได้รับรางวัล BEST SPORT COUPE 4WD จาก Thailand Car of The Year 2021
ความคิดเห็นจากคณะกรรมการ
การออกแบบเน้นความสปอร์ตสะดุดตาทุกการใช้งาน
Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line Black Edition ถูกออกแบบตามแนวทางการออกแบบใหม่ (New Design Language) ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
มุมมองของตัวรถตั้งแต่ด้านหน้าถึงด้านท้ายเฉียบคม ลงตัว สปอร์ตเรียบหรู สะดุดตาเป็นอย่างมาก ชุดแต่งภายนอกของ Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line Black Edition มาพร้อมความสปอร์ตดุดันแบบ Black Edition ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้ชุดไฟเป็นแบบ Matrix LED ปรับการส่องสว่างแบบอัจฉริยะ โดยไม่รบกวนสายตารถที่วิ่งสวนมา พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Dynamic อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi การออกแบบประตูหลังและไฟท้ายที่เรียวยาว ดูสะดุดตา มาพร้อมช่วงล่างแบบ Sports พร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง
ภายในห้องโดยสารโปร่งสบาย ด้วยหลังคาพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในเบาะนั่งคู่หน้าหุ้มหนัง Fine Nappa แบบ S sports ตกแต่งด้วยลาย diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line และฟังก์ชันนวดเพื่อการผ่อนคลาย เบาะหลังขึ้น-ลงง่าย นั่งได้สบาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อม Paddle shift ให้
ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ด้วยระบบเปลี่ยนเกียร์จากพวงมาลัย ระบบข้อมูลและความบันเทิงที่ล้ำสมัยภายในห้องโดยสารออกแบบอย่างประณีต พิถีพิถันในการคัดเลือกวัสดุคุณภาพสูง ตอบสนองทั้งอารมณ์สปอร์ตและเสริมความหรูหราผ่านอุปกรณ์ทันสมัย ได้รับการออกแบบให้ภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย เอื้อต่อการขับขี่มากที่สุด ไฟภายในห้องโดยสารของ The New Audi A5 Coupé 45 TFSI quattro S line Black Edition เป็นไฟเรืองแสงแบบปรับสีได้ (Contour / Ambient Lighting) มีให้เลือกถึง 30 สี
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ จอเครื่องเล่น แบบทัชสกรีนขนาด 10.1 นิ้ว ระบบ MMI Radio Plus ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Bang & Olufsen
เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ
ขับสนุกเร้าใจ
Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line Black Edition ใช้เครื่องยนต์ 1,984 ซี.ซี. 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro With Ultra Technology ปรับกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสีได้อย่างอิสระภายในเสี้ยววินาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ขับสนุกด้วยระบบ Quattro With Ultra Technology ซึ่งโดยเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับการวางเครื่องยนต์แบบวางตามยาว ซึ่งเมื่อเริ่มขับเคลื่อน รถยนต์จะใช้การกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ล้อ ทั้งนี้ เมื่อระบบตรวจพบว่ารถอยู่ในสถานการณ์ขับขี่ทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้แรงบิดทุกล้อ ระบบจะเปลี่ยนมาเป็นขับเคลื่อนรูปแบบ 2 ล้อโดยอัตโนมัติ เพื่อลดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง และในกรณีฉุกเฉินที่รถต้องการการกระจายแรงขับไปยังล้อใดล้อหนึ่ง เพื่อสร้างแรงยึดเกาะและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ ระบบจะเปลี่ยนการขับขี่เป็นขับเคลื่อนในรูปแบบ 4 ล้อในทันที ซึ่งในระบบประมวลผลนั้น จะมีการนำข้อมูลที่ได้รับจากการขับขี่ ทั้งองศาของการหมุนพวงมาลัย จังหวะการกดคันเร่งของผู้ขับขี่ รวมถึงแรงบิดที่ส่งมายังล้อ มาประมวลผลทุก 10 มิลลิวินาที เพื่อหาความเป็นไปได้ที่ล้อใดล้อหนึ่งจะเสียการควบคุม ซึ่งถ้าหากระบบตรวจพบความเป็นไปได้ ระบบจะส่งกำลังลงไปยังเพลาขับในทันทีล่วงหน้าก่อนที่ล้อจะเสียการทรงตัวใน 0.5 วินาที นอกจากนั้นแล้ว ระบบ Quattro With Ultra Technology ยังเรียนรู้เพื่อปรับการทำงานให้สอดรับกับลักษณะและพฤติกรรมของผู้ขับขี่อีกด้วย
…และนี่คือความโดดเด่นเหนือใคร ที่ทำให้ Audi A5 Coupe 45 TFSI quattro S line Black Edition ได้รับการคัดเลือกให้เป็น BEST SPORT COUPE 4WD ประจำปี 2021 จากคณะกรรมการผู้เข้าทดสอบ